“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี ประธานสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน (เอซีเอฟ) และนายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เผยว่า สมาคม เริ่มเดินแผนยุทธศาสตร์สมาคม ระยะที่ 3 ระหว่าง พ.ศ.2568-2571 หรือ “แผนยุทธศาสตร์เส้นทางสู่ลอสแอนเจลีสเกมส์” มุ่งเป้าความสำเร็จระยะยาวจากซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ไปจนถึงการแข่งขันมหกรรมกีฬามนุษยชาติ โอลิมปิกเกมส์ 2028 ที่นครลอสแอนเจลีส ประเทศสหรัฐอเมริกา ในปี พ.ศ.2571
พลเอกเดชา กล่าวว่า ทีมจักรยานไทยจะเริ่มเปิดศักราชแผนยุทธศาสตร์ด้วยการเดินหน้าเก็บตัวฝึกซ้อมนักปั่นไทยชุดซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ในประเภทถนนและประเภทลู่ โดยจะเริ่มเก็บตัวฝึกซ้อมนักปั่นไทยทั้ง 2 ประเภทในวันที่ 23 ธันวาคม นี้ นอกจากนักปั่นชุดซีเกมส์แล้ว ก็ยังจะมีนักกีฬาจักรยานถนนและประเภทลู่ในรุ่นเยาวชนเข้าร่วมเก็บตัวฝึกซ้อม เนื่องจากจะมีการแข่งขันจักรยานประเภทถนนชิงแชมป์เอเชีย 2025 ที่จังหวัดพิษณุโลก และจังหวัดพิจิตร ระหว่างวันที่ 7-16 กุมภาพันธ์ 2568 ขณะที่การแข่งขันจักรยานประเภทลู่ชิงแชมป์เอเชีย 2025 ก็จะมีการชิงชัยกันที่เวลโลโดรมในเมืองนิลาย ประเทศมาเลเซีย ระหว่างวันที่ 21-27 กุมภาพันธ์ 2568
“สำหรับการเตรียมความพร้อมทีมถนนและลู่ทีมชาติไทยดังกล่าว แม้ว่าห้วงเวลาการเก็บตัวฝึกซ้อมเพื่อการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเริ่มเก็บตัวฝึกซ้อมเมื่อใด แต่ทั้งการแข่งขันประเภทถนนและประเภทลู่ ชิงแชมป์เอเชีย ก็เป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักของแผนยุทธศาสตร์ โรด ทู แอลเอ ของสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ
ดังนั้นสมาคมก็จำเป็นต้องเดินหน้าเตรียมความพร้อมของนักกีฬาไทยทั้ง 2 รายการเพื่อความสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ จากการวางแผนของฝ่ายเทคนิคและผู้ฝึกสอนประเภทถนนและประเภทลู่ ในห้วงแรกประเภทถนนจะเริ่มเก็บตัวฝึกซ้อมที่จังหวัดพิษณุโลกและจังหวัดพิจิตร เพื่อเน้นสร้างความคุ้นเคยกับเส้นทางการแข่งขัน ส่วนประเภทลู่ จะเป็นการสร้างพลกำลังความแข็งแรง ก่อนที่จะเริ่มเข้าฝึกซ้อมในเวลโลโดรม หัวหมาก ก่อนการแข่งขันประมาณ 1 เดือน” พลเอกเดชา กล่าว
นายกสองล้อไทย กล่าวอีกว่า สำหรับประเภทถนน เมื่อจบการแข่งขันจักรยานถนนชิงแชมป์เอเชีย 2025 ก็จะยกทีมไปฝึกซ้อมในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีและจังหวัดนครศรีธรรมราช เตรียมสำหรับการแข่งขันจักรยานทางไกลทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2025 ระหว่างวันที่ 24 มีนาคม – 2 เมษายน 2568 และเมื่อจบการแข่งขันทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์แล้ว ก็จะเข้าสู่การเตรียมความพร้อมสำหรับการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่กำหนดเส้นทางการแข่งขันประเภทถนนเอาไว้แล้ว
โดยจะใช้เส้นทางเริ่มต้นจากสวนกีฬากมล ถนนสุวินทวงศ์ เขตหนองจอก กทม. ไปเข้าเส้นชัยที่จังหวัดนครนายก ทั้งนักกีฬาชายและนักกีฬาหญิง ส่วนประเภทลู่ก็จะแยกไปปักหลักฝึกซ้อมที่จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งมีเวลโลโดรม สนามกีฬาแห่งที่ 2 โรงเรียนกีฬาจังหวัดสุพรรณบุรี รองรับ และจะเข้ามาฝึกซ้อมที่เวลโลโดรม หัวหมาก ที่ใช้เป็นสังเวียนแข่งขันซีเกมส์ ในช่วง 2 หรือ 3 เดือนสุดท้าย
พลเอกเดชา กล่าวเสริมอีกว่า ส่วนอีก 2 ประเภทคือประเภทเสือภูเขาและบีเอ็มเอ็กซ์ ที่จะแข่งขันในซีเกมส์ ครั้งที่ 33 จะต้องรอการอนุมัติแผนการเก็บตัวฝึกซ้อมซีเกมส์เสียก่อนว่าจะเริ่มต้นเมื่อใด เนื่องจากพิจารณาแล้วว่าในประเภทบีเอ็มเอ็กซ์ ชิงแชมป์เอเชีย 2025 ที่ญี่ปุ่นจะเป็นเจ้าภาพ กำหนดแข่งขันในเดือนพฤศจิกายน 2568 ส่วนประเภทเสือภูเขาชิงแชมป์เอเชีย 2025 ที่ประเทศจีน จะเป็นเจ้าภาพนั้น ยังไม่ได้กำหนดการแข่งขันที่แน่นอนแต่คาดว่าน่าจะอยู่ในช่วงเดือนมิถุนายน หรือ กรกฎาคม 2568
“อย่างไรก็ตาม สำหรับในประเภทเสือภูเขาและบีเอ็มเอ็กซ์ ในช่วงที่ยังไม่อนุมัติห้วงเวลาการเก็บตัว สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ ก็มีแผนที่จะส่งนักกีฬาไปแข่งขันรายการนานาชาติ โดยเสือภูเขาจะส่งไปแข่งขันรายการเสือภูเขาชิงแชมป์อาเซียน 2024 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ในเดือนพฤศจิกายนนี้
ส่วนบีเอ็มเอ็กซ์ ก็จะมีการแข่งขันระดับนานาชาติคลาส 1 ที่สนามบีเอ็มเอ็กซ์เรซซิง ภายในเขื่อนวชิราลงกรณ อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ระหว่างวันที่ 8-9 พฤศจิกายน ศกนี้ และหากมีการแข่งขันรายการอื่น ๆ ก็จะส่งนักปั่นไทยไปประชันฝีเท้าเพื่อรักษาสภาพร่างกายก่อนที่จะเข้าค่ายเก็บตัวฝึกซ้อมเตรียมซีเกมส์ต่อไป”