รุด ฟาน นิสเทลรอย ประเดิมงานคุมเลสเตอร์ ซิตี้ ได้อย่างสวยงาม เมื่อพาทีมเปิดบ้านชนะเวสต์แฮม ยูไนเต็ด พร้อมหยุดสถิติย่ำแย่ในช่วงหลังของทีมลงได้
การแข่งขันฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม “สุนัขจิ้งจอก”เลสเตอร์ ซิตี้ เปิดสนามคิง เพาเวอร์ สเตเดียม รับการมาเยือนของ “ขุนค้อน”เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
แมตช์นี้เจ้าบ้านได้ รุด ฟาน นิสเทลรอย ประเดิมหน้าที่ผู้จัดการทีม โดยจัด เจมี วาร์ดี, ฟากุนโด บัวนาน็อตเต, บิลัล เอล คานนูสส์ ลงสนาม ขณะที่ทีมเยือนใช้งาน แดนนี อิงส์, การ์ลอส โซเลร์, จาร์ร็อด โบเวน
เริ่มเกมมาแค่ 2 นาที บิลัล เอล คานนูสส์ แทงบอลทะลุแนวรับให้ เจมี วาร์ดี หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงผ่านนายทวารไม่เหลือ แม้ผู้กำกับเส้นจะยกธงล้ำหน้า แต่ผลการเช็กวีเออาร์ยืนยันว่าใสสะอาด เลสเตอร์จึงออกนำ 1-0
นาที 8 วิกเตอร์ คริสเตียนเซน จ่ายลูกผ่านแนวรับให้ เจมี วาร์ดี สปีดมารับแล้วยิงในเขตโทษโดนไม่มีกองหลังขวาง ลูคัส ฟาเบียนสกี ที่ถลันออกมาปิดมุมสามารถเซฟไว้ได้ เลสเตอร์จึงไม่ได้ประตูเพิ่ม
นาที 11 โอกาสเป็นของเวสต์แฮมบ้าง โตมาส ซูเช็ก ไหลบอลไปทางด้านขวาของเขตโทษให้ จาร์ร็อด โบเวน โยกหาช่องแล้วยิงด้วยซ้าย แมดส์ เฮอร์แมนเซน ต้องพุ่งปัดทิ้ง
นาที 13 ยังเป็นเวสต์แฮมที่ได้ลุ้นอีก จาร์ร็อด โบเวน หยอดบอลจากด้านขวาไปเสาสอง แดนนี อิงส์ กระโดดขึ้นโขกไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย
นาที 20 การ์ลอส โซเลร์ แทงบอลทะลุแนวรับให้ จาร์ร็อด โบเวน หลุดเข้าไปยิงมุมแคบทางด้านขวาของเขตโทษ แมดส์ เฮอร์แมนเซน ปิดมุมรออยู่แล้วเลยเซฟไว้ไม่ให้เวสต์แฮมตีเสมอ
นาที 33 เลสเตอร์มีลุ้นได้ประตูเพิ่ม ฟากุนโด บัวนาน็อตเต แทงบอลทะลุแนวรับให้ เคซีย์ แม็กเคเทียร์ กระชากเข้าเขตโทษแล้วยิงไปติดเซฟ ลูคัส ฟาเบียนสกี ที่ออกมาปิดมุม
นาที 35 เวสต์แฮมสบโอกาสอีกครั้ง เอ็ดซอน อัลบาเรซ ได้บอลด้านขวาแล้วตบเข้ากลาง จาร์ร็อด โบเวน จึงตั้งเท้าแปรเปลี่ยนทางลูกตรงกรอบ แมดส์ เฮอร์แมนเซน ยังเหนียวพุ่งปัดทิ้งทัน
นาที 45+5 ผู้เล่นเลสเตอร์ชนกันเองในเขตโทษทำให้เสียบอล ก่อนจะเป็น แดนนี อิงส์ จ่ายต่อให้ การ์ลอส โซเลร์ ล็อกเข้าซ้ายแล้วสับไกยิง แมดส์ เฮอร์แมนเซน ยังเซฟได้ เวสต์แฮมพลาดการตีเสมอไปอีกครั้ง จบครึ่งแรกเลสเตอร์นำ 1-0
ครึ่งหลังนาที 55 โมฮัมเหม็ด คูดุส ได้บอลบริเวณหน้าเขตโทษแล้วยิงด้วยซ้าย ลูกแฉลบผู้เล่นเลสเตอร์ลอยหาประตู แมดส์ เฮอร์แมนเซน ตัดสินใจปัดทิ้งไป เวสต์แฮมพลาดได้ประตูไปอีกหน
นาที 58 เกิดจังหวะบอลย้อยเข้าหาประตูเลสเตอร์ แมดส์ เฮอร์แมนเซน กระโดดขึ้นชกแล้วพลาดลูกเข้าประตูไป แต่ผู้ตัดสินเป่าว่า โตมาส ซูเช็ก ไปขวางการเล่นของเฮอร์แมนเซน เวสต์แฮมจึงเสียฟาวล์และไม่ได้ประตู
นาที 61 เคซีย์ แม็กเคเทียร์ ได้บอลทางด้านซ้ายแล้วเลี้ยงเข้าเขตโทษ ก่อนจ่ายเข้ากลางให้ บิลัล เอล คานนูสส์ ล้มตัวยิงเข้าไป เลสเตอร์ทิ้งห่าง 2-0
นาที 67 เลสเตอร์เกือบทิ้งห่างออกไปอีก บิลัล เอล คานนูสส์ เปิดบอลจากฝั่งขวาไปหน้าประตู วิลเฟร็ด เอ็นดิดี ขึ้นโขกเต็มๆ ลูคัส ฟาเบียนสกี ซูเปอร์เซฟกระโดดปัดทิ้งทันเหลือเชื่อ
นาที 68 เวสต์แฮมน่าตีไข่แตกสุดๆ จาร์ร็อด โบเวน หลุดเข้าทางด้านขวาของเขตโทษแล้วตบเข้ากลาง ครีเซนซิโอ ซัมเมอร์วิลล์ เข้าชาร์จติดบล็อกผู้เล่นเลสเตอร์แล้วลูกยังไหลเข้าหาประตู คอเนอร์ โคดี สกัดจากเส้นประตูได้แบบหวุดหวิด
นาที 81 ฟากุนโด บัวนาน็อตเต กระชากบอลมาถึงเขตโทษแล้วส่งต่อให้ แพตสัน ดากา ยิงติดเซฟนายทวารกระฉอกออกมา บ๊อบบี เด คอร์โดวา-รีด รีบปราดเข้าซ้ำไม่เหลือ แต่ผลการเช็กวีเออาร์พบว่าล้ำหน้าตั้งแต่จังหวะที่บัวนาน็อตเตเล่นบอลแล้ว เลสเตอร์จึงไม่ได้ประตูเพิ่ม
นาที 90 ผู้เล่นเลสเตอร์สาดบอลทิ้งจากแดนตัวเองขึ้นหน้า กองหลังเวสต์แฮมกลับพักบอลพลาดเองเลยถูก แพตสัน ดากา ฉกได้แล้วกระชากหลุดไปถึงเขตโทษ ก่อนที่ดากาจะซัดเสียบตาข่ายอย่างเด็ดขาด “สุนัขจิ้งจอก” ทิ้งห่าง 3-0
นาที 90+3 เวสต์แฮมได้ลูกเตะมุมฝั่งขวา จาร์ร็อด โบเวน เปิดมาบริเวณเสาแรก ครีเซนซิโอ ซัมเมอร์วิลล์ จึงโขกเช็ดต่อให้ นิคลาส ฟูลล์ครูก โหม่งต่อระยะเผาขนไม่เหลือ แต่จบเกมเลสเตอร์ก็ยังชนะอยู่ดี 3-1
เลสเตอร์จึงหยุดสถิติย่ำแย่ไม่ชนะรวมทุกรายการต่อเนื่องไว้ที่ 6 นัด พร้อมกับที่ผ่านไป 14 นัด เก็บเพิ่มเป็น 13 คะแนน ขยับขึ้นอันดับ 15 ส่วนเวสต์แฮมมี 15 คะแนน อยู่อันดับ 14
ผลอีกคู่ อิปสวิช ทาวน์ แพ้ คริสตัล พาเลซ 0-1