อาร์เนอ ชล็อต ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล จ่าฝูงของพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ และ ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ในเวลานี้ ออกมาส่งข้อความหาแฟนบอลหงส์แดง เนื่องในโอกาสวันคริสต์มาส โดยหวังว่าแฟนบอลจะชื่นชอบกับฟอร์มการเล่นของทีมที่กำลังเป็นอยู่ในเวลานี้
สำหรับ อาร์เนอ ชล็อต เพิ่งเข้ามาทำงานกับลิเวอร์พูลเป็นฤดูกาลแรกในซีซันนี้ และเรียกว่าทำผลงานได้ยอดเยี่ยมตลอดระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา หลังพาทีมรั้งจ่าฝูงของตารางคะแนน ด้วยการเก็บไป 39 คะแนน จาก 16 นัด พร้อมทำสถิติชนะ 100 เปอร์เซ็นต์ ในยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก พร้อมยึดฝูงของถ้วยยุโรปด้วยการมี 18 แต้ม จาก 6 เกม นอกจากนี้ยังผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศฟุตบอลถ้วยในประเทศอย่าง คาราบาว คัพ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ล่าสุดทางเฮดโค้ชชาวดัตช์รายนี้ได้ออกมาสื่อสารกับเหล่าสาวกเดอะค็อป ว่า “ผมอยากใช้โอกาสนี้ในการอวยพรแฟนบอลทุกคนให้มีความสุขในวันคริสต์มาส ผมเพิ่มจะอยู่ที่ลิเวอร์พูลได้แค่ 6 เดือน แต่ในช่วงเวลาที่สั้นนี้ ผมได้เรียนรู้อย่างรวดเร็วว่าทำไมแฟนบอลของเราถึงได้รับการยกย่องถึงความพิเศษไปทั่วโลก”
“การสนับสนุนที่พวกคุณมอบให้กับผม, ทีมงานของผม และนักเตะนั้นเป็นส่วนสำคัญกับสิ่งที่เราทำอยู่และกำลังพยายามที่จะทำ แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ใช้ได้อย่างมากในแมตช์การแข่งขัน แต่ยังการสนับสนุนอีกหลายวิธีที่เราได้รับจากพวกคุณ แม้ว่าในตอนที่เราไม่ได้อยู่ที่แอนฟิลด์ ดังนั้น มันจึงสำคัญมากสำหรับผมที่ได้รู้ว่าพวกคุณควรได้รับความชื่นชมมากแค่ไหน”
“ผมหวังว่าพวกคุณจะมีความสุขกับฟุตบอลที่ทีมเราได้เล่นอยู่ตลอดช่วงที่ผ่านมา และจำคำผมไว้ว่าเราจะเดินหน้าทำงานหนักให้มากที่สุดเท่าที่เราจะสามารถทำได้เพื่อพัฒนาให้ดีขึ้น มันยังมีเกมอีกมากมายที่ต้องเล่น หวังว่าครึ่งหลังของฤดูกาลนี้จะออกมาดีเหมือนกับครึ่งแรกของฤดูกาล หรือ อาจจะดีกว่าไปเลย”
“ส่วนตัวของผม ผมอยากอวยพรให้พวกคุณและคนที่คุณรักได้รับพรจากสิ่งที่ผมปรารถนาให้กับตัวเองและคนที่ผมรักทกๆ ปี ในช่วงใกล้ปีใหม่ นั่นคือขอให้สุขภาพดีและมีช่วงเวลาที่ดี”
ขณะที่เรื่องผลงานของทีมนั้นเจ้าตัวเผยว่า “เรายังเพิ่งจะเข้าสู่ช่วงครึ่งแรกของฤดูกาล แต่เราก็กำลังเข้าใกล้จุดที่ทุกคนจะได้เล่นอีกครึ่งหนึ่งในโปรแกรมของพวกเขา และในช่วงเวลานี้ เราจะมีแนวคิดที่ชัดเจนมากขึ้น ว่าเราทั้งหมดอยู่ในจุดไหน นี่คือเหตุผลที่ผมพูดอยู่เสมอว่าการตัดสินก่อนที่จะมาถึงตรงจุดนี้มันไม่ใช่ภาพที่แท้จริง เราจะเข้าใจได้ดีขึ้นว่าแต่ละคนทำงานได้ดีแค่ไหน ก็ต่อเมื่อแต่ละทีมได้ผ่านช่วงเวลาที่ผันผวนไปแล้ว”