ก็มาดิครับ “รถถัง” พร้อมเสมอ แฮ็กเกอร์ตี อยากเจอกี่ครั้งก็ได้

(27 ธ.ค.62) ยิ่งใกล้วัน ดีกรีความเดือดของการเผชิญหน้ากันรอบสองระหว่าง “รถถัง จิตรเมืองนนท์” กับอดีตแชมป์โลกคู่ปรับเก่า โจนาธาน แฮ็กเกอร์ตี ก็ยิ่งร้อนระอุขึ้นทุกที นับจากวันนี้ก็เหลือเวลาอีกเพียงครึ่งเดือนเท่านั้น กับการนับคืนนับวันรอของผู้ท้าชิงชาวอังกฤษที่หวังจะมากระชากเข็มขัดเส้นนี้กลับคืนไปให้ได้

การขึ้นศักราชใหม่ของ วัน แชมเปียนชิพ ประจำปี 2020 ที่ประเทศไทย ถือเป็นความน่ายินดีและตื่นเต้นที่รายการใหญ่ระดับโลก เลือกประเทศไทยเป็นประเทศแรกในการจัดการแข่งขันเอาฤกษ์เอาชัยในการขึ้นศักราชใหม่ โดยใช้ชื่อศึกว่า ONE: A NEW TOMORROW ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 10 มกราคม 2563 ณ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี

เจ้าของเข็มขัดแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต คนปัจจุบันอย่าง “รถถัง จิตรเมืองนนท์” หนุ่มแดนสะตอจากพัทลุง วัย 22 ปี ยอมรับว่าคู่ต่อกรรายนี้เป็นนักชกที่มีความครบเครื่อง รูปร่างดี สูงยาว อาวุธเร็วและหนัก โดยเฉพาะลูกถีบมีความแม่นยำ การจะเอาชนะเขาไม่ใช่เรื่องง่าย

“แฮ็กเกอร์ตี เป็นมวยรูปร่างดี อาวุธครบเครื่อง หนักแน่น แม่นยำ หวังผลได้ โดยเฉพาะมีลูกถีบทำลายจังหวะได้ตลอดเวลา สมกับที่เคยเป็นแชมป์โลกเส้นนี้มาก่อน”

“ผมดีใจมากครับที่ได้เจอกับเขาอีกครั้ง เพราะเขาเป็นคนเก่ง ซึ่งคนเก่งๆ ไม่ว่าจะเป็นใครผมอยากเจอทุกคน และถ้าครั้งนี้เขาแพ้อีก ผมก็พร้อมจะให้เขากลับมาแก้มือได้เสมอ จะกี่ครั้งก็ได้ เอาให้เบื่อกันไปเลย”

อย่างไรก็ตาม หน้าที่ของแชมป์โลกคือการป้องกันตำแหน่งของตัวเองให้นานที่สุด ตราบใดที่ยังมีผู้ท้าชิงที่มีความสามารถเดินหน้าเข้ามาท้าทาย แต่ในขณะเดียวกัน รถถัง ก็ยังมีความมุ่งหวังที่จะคว้าเข็มขัดแชมป์โลกคิกบ็อกซิ่งมาครองให้ได้อีกเส้น

(เพชรดำ vs อิเลียส เอ็นนาฮาชิ)

“หากภารกิจในการป้องกันแชมป์โลกมวยไทยครั้งนี้สำเร็จ ผมก็มองไปถึงโอกาสในการชิงแชมป์โลกคิกบ็อกซิ่งอีกเส้น ซึ่งตอนนี้เป็นของ อิเลียส เอ็นนาฮาชิ ที่กระชากไปจาก เพชรดำ เพชรยินดีอะคาเดมี ผมอยากที่จะกระชากเข็มขัดเส้นนี้กลับคืนมาเป็นของประเทศไทยอีกครั้งให้ได้ ก็อยู่ที่ว่าผมจะมีโอกาสนั้นไหม”

สำหรับการป้องกันแชมป์โลกกับ แฮ็กเกอร์ตี ในครั้งนี้ถือเป็นการป้องกันบัลลังก์ครั้งที่สอง และเป็นไฟต์ที่ทั่วโลกรอคอยมากว่า 5 เดือน เชื่อว่าจะสร้างปรากฏการณ์ผู้ชมถล่มทลายอย่างแน่นอน

อีกทั้งศึกนี้ยังมีอีก 3 นักชกไทยตัวท็อปเข้าร่วมการแข่งขัน ได้แก่ “แสตมป์ แฟร์เท็กซ์” แชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง และ มวยไทย รุ่นอะตอมเวตหญิง ที่จะขึ้นสังเวียนในกติกาศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) กับนักสู้สาวจอมแกร่งจากอินเดีย “พูจา โทมาร์”

ร่วมด้วย “แสงมณี เสถียรมวยไทย” พบแชมป์ WBC มวยไทยจากญี่ปุ่น “เคนตะ ยามาดะ” และ “เมืองไทย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม” พบกำปั้นเสาโทรเลขชาวแอลจีเรีย-ฝรั่งเศส “ บริช เดลวัล” แฟนชาวไทยซื้อบัตรเข้าชมได้ทางไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา