(2 เม.ย.63) ช่วงที่สถานการณ์ไวรัสโควิด-19 กำลังระบาดอย่างต่อเนื่อง กิจกรรมและกิจการที่ก่อให้เกิดการสุ่มเสี่ยงจำเป็นต้องหยุดชั่วคราว รวมถึงการแข่งขันชกมวยซึ่งเป็นอาชีพหลักของ “กุหลาบดำ ส.จ.เปี๊ยกอุทัย” เขาจึงเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส ดัดแปลงวิธีคิด เพื่อรับมือกับสถานการณ์ในช่วงเวลาที่หลายคนก็ลำบากไม่แพ้กั

“กุหลาบดำ สจ.เปี๊ยกอุทัย” หนึ่งในนักมวยชื่อดังผู้มีหมัดซ้ายทรงพลังอันเป็นเอกลักษณ์เป็นที่รู้จักไปทั่วปฐพี เคยร่วมชกใน วัน แชมเปียนชิพ ไฟต์แรกเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ก่อนจะเข้าไปเกณฑ์ทหาร และกลับมาอยู่กับครอบครัวที่ จ.สุรินทร์ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา

“ก่อนหน้าที่จะมีโควิด ผมซื้อวัว 7 ตัวให้พ่อเอาไว้ทำนาทำไร่และผสมพันธุ์ขาย แต่เห็นว่าครอบครัวเราน่าจะมีอาชีพเสริม เพราะน้องสาวฝาแฝดสองคนโตพอจะช่วยเหลืองานบ้านได้ จึงตัดสินใจเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยวหมูที่หน้าบ้านให้แม่กับน้อง เป็นร้านเล็กๆ ลองทำดูก่อน ถ้าหมดโควิดอาจค่อยขยายกิจการเพิ่มเติม”

“วันๆ หนึ่งผมจะไปซื้อของที่ร้านขายส่ง จำพวก เส้นก๋วยเตี๋ยว ผัก เนื้อหมู ลูกชิ้น ตื่นให้เช้าหน่อยเพื่อเตรียมของ ประมาณ 7 โมงก็เริ่มขาย พอซักบ่าย 3 ก็ขายหมด ลงทุนไม่เยอะ 500-600 บาท ขายได้กว่า 30 ชาม มีกำไรพอเหลือเก็บวันละประมาณ 400 บาทครับ”

กุหลาบดำ ไม่ได้อยู่บ้านเดียวกับพ่อแม่ เพราะหลังจากที่แต่งงานกับ “น้องใหม่” น.ส.วนิดา เข็มเพชร และมีพยานรักด้วยกันหนึ่งคนคือ “น้องแชมป์” ด.ช.จักรภัทร เขาก็ออกมาสร้างครอบครัวกับภรรยา มีบ้านอยู่ไม่ไกลจากพ่อแม่ จึงสามารถมาช่วยงานที่ร้านก๋วยเตี๋ยวได้เกือบทุกวัน

นอกจากนั้นเขายังเพาะพันธุ์ไก่ชนขายซึ่งทำมาก่อนหน้านี้นานแล้ว ในชื่อ “สมบูรณ์ฟาร์ม” เป็นอีกหนึ่งอาชีพเสริมที่เขาทำด้วยใจรัก และเตรียมไว้รองรับอนาคตในยามที่เขาเลิกชกมวย

แม้โควิด-19 จะยังระบาด งานหด เงินหาย แต่เรื่องปากท้องยังไงก็ขาดไม่ได้เพราะมันคือปัจจัย 4 ในการดำรงชีวิต หากนักมวยอย่าง กุหลาบดำ นั่งรอนอนรอรายการชกมวย ก็คงต้องร้องเพลง ‘ไม่รู้อีกนานแค่ไหน….’

การที่เขาลุกขึ้นมาปฏิวัติความคิด ปรับตัว ปรับวิถีชีวิต เพื่อรับมือกับสถานการณ์งานหด ไม่ยึดติดกับคำว่า “มวยเงินแสน” ก็ถือเป็นหนึ่งตัวอย่างที่น่ายกย่อง อย่างน้อยที่สุดเขาก็ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์กับปากท้อง และมองโลกในแง่บวกเพื่อต่อสู้กับสถานการณ์วิกฤตินี้ต่อไปจนกว่าจะคลี่คลาย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน