หลังประกาศศักดาในเวทีระดับโลกตั้งแต่ไฟต์แรก “ซ้ายดารา” ตะวันฉาย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม” แจ้งเกิดอย่างเต็มตัวบนเวที วัน แชมเปียนชิพ เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 64 ที่ผ่านมา ด้วยการน็อกแชมป์ WBC มวยไทยชาวไอริช ฌอน แคลนซี อย่างเหนือชั้น ทำเอานักมวยในรุ่นแบนตัมเวต (61.3 – 65.8 กก.) อิจฉาตาร้อนไม่เว้นแม้แต่แชมป์โลกของรุ่นอย่าง น้องโอ๋ ไก่ย่างห้าดาว ยังเอ่ยปากชมว่า ตะวันฉาย นั้นของจริง
ล่าสุด ตะวันฉาย เปิดใจว่าตนไม่ได้วางเป้าหมายที่จะไต่บัลลังก์แชมป์โลกรุ่นเดียวเท่านั้น แต่ยังมองการณ์ไกลไปถึงรุ่นน้ำหนักที่ใหญ่ขึ้นอย่างเฟเธอร์เวต (65.9 กก. – 70.3 กก.) ซึ่งปัจจุบัน “เพชรมรกต เพชรยินดีอะคาเดมี” นั่งบัลลังก์รุ่นนี้อยู่ด้วย
“ถ้าเรื่องการทำน้ำหนักในรุ่นแบนตัมเวตก็ถือว่าค่อนข้างยากครับสำหรับไฟต์แรกที่ผ่านมา เพราะผมเพิ่งเคยลดน้ำหนักในแบบของ ONE ซึ่งต้องวัดระดับน้ำเป็นครั้งแรกด้วย แต่ครั้งต่อไปคิดว่าน่าจะง่ายขึ้นเพราะพอรู้แล้วว่าต้องทำยังไงครับ”
“สำหรับเรื่องการชิงแชมป์โลกก็คงไต่อันดับไปเรื่อย ๆ ซึ่งรุ่นนี้มี พี่โอ๋ เป็นแชมป์อยู่ พี่เขาคือไอดอลคนหนึ่งในวงการ เขาโด่งดังมาตั้งแต่ผมเพิ่งเริ่มชกมวย พี่เขาเก่งมากครับ เป็นมวยฝีมือ อาวุธคม โดยเฉพาะหมัดกับเตะขวา เก่งในการหาช่องเข้าทำ และไม่พลาดโอกาสทอง ดูจากไฟต์ที่เขาชกกับ พี่รถเหล็ก พอการ์ดเริ่มหละหลวมเมื่อไหร่ ก็เสร็จ พี่โอ๋ ทันทีครับ”
สำหรับ น้องโอ๋ ถือเป็นคนแรกที่ได้ครอบครองเข็มขัดแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต และป้องกันตำแหน่งมาแล้ว 4 ครั้ง โดยยังไม่มีใครสามารถกระชากเข็มขัดไปจากเขาได้ โดยปัจจุบันรุ่นนี้มีผู้ท้าชิงจ่อคิวชิงเข็มขัดในอันดับที่ 1-5 ได้แก่ เสมาเพชร แฟร์เท็กซ์, รถเหล็ก พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม, กุหลาบดำ สจ.เปี๊ยกอุทัย, ตะวันฉาย พี.เค.แสนชัยมวยไทย และ อลาเวอร์ดี รามาซานอฟ ตามลำดับ ซึ่งจะเห็นว่าด่านที่ ตะวันฉาย จะก้าวขึ้นไปเจอกับ น้องโอ๋ นั้นมีไม่มาก
ส่วนในรุ่นเฟเธอร์เวตที่ใหญ่ขึ้น ซึ่งมีเจ้าของบัลลังก์คือ เพชรมรกต เขาคว้าเข็มขัดเส้นนี้มาประดับบารมีเป็นคนแรก โดยป้องกันตำแหน่งมาแล้ว 2 ครั้ง ซึ่งในรุ่นนี้มีคนที่จ่อคิวชิงบัลลังก์ ทั้ง จามาล ยูซูพอฟ, ซุปเปอร์บอน, โจ ณัฐวุฒิ, เซมี ซานา ซึ่งอยู่ในแรงกิงอันดับ 1-4 (อันดับ 5 ยอดแสนไกล แขวนนวมแล้ว) จะว่าไปก็ไม่ใช่งานง่ายของ ตะวันฉาย กว่าจะไต่อันดับไปเจอ เพชรมรกต ก็ต้องผ่านด่านหินมากมายทีเดียว
“ผมคิดว่าจะยังคงชกอยู่ในรุ่นแบนตัมเวตไปอีกสักพักก่อน จนกว่าจะได้ชิงเข็มขัดรุ่นนี้ แล้วค่อย ๆ ขยับน้ำหนักขึ้นไปรุ่นเฟเธอร์เวต ซึ่งถ้าตอนนั้นไม่ว่าใครจะเป็นแชมป์โลกอยู่ เป้าหมายของผมก็คงต้องเอาเข็มขัดมาให้ได้ครับ”
