สำนักพระราชวังเบลเยียมแถลงสมเด็จพระราชินีมาทิลด์จะเสด็จฯเยือนไทยในฐานะผู้แทนพระองค์สมเด็จพระราชาธิบดีฟิลิป ทรงร่วมในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระ ปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เผยเคยเฝ้าฯ2ครั้ง จัดซ้อมย่อยริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ริ้วขบวนที่ 6 กองทหารม้าเชิญพระบรมราชสรีรางคารไปยังวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามและวัดบวรนิเวศวิหาร นิด้าโพลสำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่องการน้อมนำหลักคำสอนในหลวงรัชกาลที่ 9 กับการดำเนินชีวิต มากกว่าร้อยละ 89 ระบุมีความพอเพียงในการดำรงชีวิต ส่วนสิ่งที่คิดว่าจะทำเพื่อถวายคือทำความดีด้วยการอาสาช่วยเหลือสังคม เสียสละเวลาโดยไม่หวังผลตอบแทน

เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 8 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานการซ้อมย่อยริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ริ้วขบวนที่ 6 เป็นขบวนกองทหารม้าเชิญพระบรมราชสรีรางคารจากพระศรีรัตนเจดีย์ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง ไปยังวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม และวัดบวรนิเวศวิหาร โดยใช้เส้นทางจากวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ออกทางประตูวิเศษไชยศรี เข้าถนนหน้าพระลาน ผ่านไปทางถนนสนามไชย เพื่อไปยังวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม และจากวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามจะใช้ถนนอัษฎางค์ไปยังถนนสนามไชยเข้าสู่ถนนราชดำเนินกลาง ไปยังถนนพระเมรุ ถึงวัดบวรนิเวศวิหาร โดยริ้วขบวนที่ 6 นี้มีกองทหารม้า จำนวน 77 ม้า นำและตาม ซึ่งจะเป็นริ้วขบวนสุดท้ายในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ

สำหรับริ้วขบวนที่ 6 นี้ จะเข้าร่วมพระราชพิธีในวันที่ 29 ต.ค. พร้อมกับริ้วขบวนที่ 5 ที่อัญเชิญพระบรมอัฐิ โดยเริ่มจากพระที่นั่งราเชนทรยานจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทขึ้นประดิษฐานที่พระวิมานบนพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท เส้นทางจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทไปยังพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท รวมระยะทาง 63 เมตร ใช้กำลังพล 550 นาย ใช้เวลา 10 นาที เดินตามจังหวะเสียงกลอง โดยการเดินปกติ

สำนักพระราชวังเบลเยียม แถลงว่า สมเด็จพระราชินีมาทิลด์แห่งเบลเยียม จะเสด็จฯ เยือนไทยในฐานะผู้แทนพระองค์สมเด็จพระราชาธิบดีฟิลิป เพื่อทรงร่วมในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในวันที่ 26 ต.ค. ทั้งนี้ สมเด็จพระราชาธิบดีฟิลิปและสมเด็จพระราชินีมาทิลด์แห่งเบลเยียม เมื่อครั้งดำรงพระอิสริยยศเป็นมกุฎราชกุมารและมกุฎราชกุมารีแห่งเบลเยียม เคยเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เมื่อเดือน มิ.ย. 2549 และเมื่อเดือนมี.ค. 2556

วันเดียวกัน ที่กองบัญชาการตำรวจ นครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช รรท.ผบช.น. เปิดเผยถึงมาตรการด้านการจราจรและการดูแลความปลอดภัยในช่วงพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.กล่าวว่ามีความพร้อมเกิน 100% ขอให้ประชาชนมั่นใจได้ ส่วนการตรวจสอบบุคคลจากหน่วยคัดกรองรวมถึงการข่าว ยังไม่พบบุคคลที่มีความเสี่ยงว่าจะเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ในช่วงนี้แต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ฝากพี่น้องประชาชนให้ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะตรวจจับ เพราะจะไม่มีการตั้งด่าน แต่การแก้ปัญหาต้องใช้ระยะเวลาเนื่องจากมีปัญหาสะสมมานาน

ส่วนที่บริเวณสนามหลวง นายกัมพล ตันสัจจา ผู้อำนวยการสวนนงนุชพัทยา กล่าวว่า สวนนงนุชได้ร่วมกับทีมงานและจิตอาสา นำดาวเรืองนำกว่า 40,000 ต้น จัดลงอาคารโดยรอบพระเมรุมาศ โดยวันนี้เป็นวันแรกที่ได้นำดอกดาวเรืองมาลง จากที่ก่อนหน้านี้ได้ทยอยนำต้นไม้หลากหลายชนิดมาลงไว้ ซึ่งในวันนี้นอกจากดาวเรือง ยังได้นำดอกบัวสีขาวและเหลือง หน้าวัวใบ หรือคิงออฟคิง จำนวน 12 ต้นใส่กระถางประดับบริเวณพระที่นั่งทรงธรรมด้วย สำหรับการดูแลรักษา ในส่วนต้นดาวเรือง ในช่วงงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ จะบานเต็มที่ และคงความสวยงามจนถึงช่วงเวลาที่เปิดให้ประชาชนเข้าชม ทั้งนี้ความคืบหน้าในส่วนที่สวนนงนุชรับผิดชอบนั้นเกือบแล้วเสร็จ 100%

วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานจาก อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ว่าประชาชนชาวอ.ไชยาจำนวน 1,284 คน เข้าคิวรับบัตรจิตอาสาและรับสิ่งของพระราชทาน บริเวณที่ว่าการ อ.ไชยา โดยอ.ไชยามีประชาชนลงทะเบียนจิตอาสาจำนวน 5,020 คน ทั้งนี้ ส่วนที่เหลือจะเข้ารับสิ่งของพระราชทานในวันที่ 22 ต.ค.

วันเดียวกัน ศูนย์สำรวจความคิดเห็น นิด้าโพล สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง “การน้อมนำหลักคำสอนในหลวงรัชกาลที่ ๙ กับการดำเนินชีวิต” ซึ่งสำรวจระหว่างวันที่ 2-4 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยสอบถามความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษาและอาชีพ รวมทั้งสิ้นจำนวน 2,000 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับการน้อมนำหลักคำสอนในหลวงรัชกาลที่ ๙ กับการดำเนินชีวิต ทั้งนี้ การสำรวจใช้การสุ่มตัวอย่างด้วยความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลักของนิด้าโพล ด้วยวิธีแบบแบ่งชั้นภูมิ โดยแบ่งชั้นภูมิตามภูมิภาค จากนั้นในแต่ละภูมิภาคสุ่มตัวอย่างด้วยวิธีแบบอย่างง่าย เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่นที่ร้อยละ 95.0 และมีค่าความคลาดเคลื่อนมาตรฐาน ไม่เกิน 0.5

จากการสำรวจเมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการนำหลักคำสอน หลักการดำเนินชีวิต ของในหลวงรัชกาลที่ ๙ มาปรับใช้ในชีวิต พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 89.50 ระบุว่า มีความพอเพียงสำหรับการดำรงชีวิต รองลงมา ร้อยละ 36.75 ระบุว่า มีความพอดี ค่อยเป็นค่อยไป ไม่ทำเกินฐานะและกำลัง ร้อยละ 30.75 ระบุว่า ความซื่อสัตย์สุจริต เป็นพื้นฐานของความดีทุกอย่าง ร้อยละ 23.85 ระบุว่า ต้องใช้ความเพียร ต้องใช้ความอดทน เสียสละและไม่ย่อท้อ

รายงานข่าวเผยต่อไปว่า ร้อยละ 8.85 ระบุว่า การเอาชนะใจตน ต้องกล้าและบากบั่นที่จะกระทำสิ่งที่เรารับทราบว่าเป็นความดี ร้อยละ 8.80 ระบุว่า มีความอ่อนโยน แต่ไม่อ่อนแอ พร้อมจะเสียสละประโยชน์ส่วนตัวเพื่อส่วนรวม ร้อยละ 8.45 ระบุว่า รู้ตัวอยู่เสมอ จะทำให้เป็นคนมีระเบียบ แล้วจะทำการงานต่างๆ ได้ ร้อยละ 7.90 ระบุว่า พูดจริงทำจริง ผู้หนักแน่นในสัจจะ จึงได้รับความสำเร็จ ร้อยละ 5.75 ระบุว่า คนเราจะเอาแต่ได้ไม่ได้ ควรจะต้องรับและจะต้องให้ และร้อยละ 5.40 ระบุว่า หนังสือเป็นออมสิน หนังสือเป็นสิ่งสำคัญ คล้ายๆ ธนาคารความรู้ และเป็นออมสิน

เมื่อถามถึงสิ่งที่คิดว่าจะทำเพื่อถวายในหลวงรัชกาลที่ ๙ ในอนาคต พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 65.40 ระบุว่า ทำความดีด้วยการอาสาช่วยเหลือสังคม รู้จักการเสียสละเวลา โดยไม่หวังผลตอบแทน รองลงมา ร้อยละ 41.95 ระบุว่า พอเพียง ประหยัด และอดออม ชีวิตจะสุขเพียงพอ ร้อยละ 30.25 ระบุว่า ทำความดีง่ายๆ ด้วยการให้และบริจาค รู้จักเป็นผู้ให้มากกว่าเป็นผู้รับ ร้อยละ 27.10 ระบุว่า ปลูกต้นไม้ถวายเป็นพระราชกุศล มีส่วนร่วมในการช่วยลดภาวะโลกร้อนแบบง่ายๆ

ส่วนร้อยละ 13.70 ระบุว่า ทำใจให้เป็นสุข ด้วยการรู้จักลด ละ เลิกอบายมุข มีสติอยู่ในความไม่ประมาท ร้อยละ 12.35 ระบุว่า หยิบยื่นความรักและความปรารถนาดีแก่ผู้อื่น ร้อยละ 9.45 ระบุว่า ห่วงใยสิ่งแวดล้อม ลดการเพิ่มขยะ ใช้ถุงพลาสติกที่ไม่จำเป็น และร้อยละ 2.35 ระบุอื่นๆ ได้แก่ ดำเนินชีวิตด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต ไม่เบียดเบียนผู้อื่น และจะน้อมนำหลักคำสอนของพระองค์ท่านทุกข้อมาใช้ในการดำเนินชิวิต

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน