เมื่อเวลา 16.47 น. วันที่ 22 ต.ค. พันโทหญิงพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ในฉลองพระองค์สีขาว สนับเพลาสีดำ พระมาลาสีดำกำมะหยี่ ประดับพู่สีฟ้า ทรงม้านำกองทหารม้ารักษาพระองค์จำนวน 77 ม้า จากหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน เพื่อทรงมาเตรียมตั้งริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศริ้วที่ 6 ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวังในการซ้อมเสมือนจริงริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศริ้วที่ 6 ซึ่งเป็นริ้วสุดท้าย

ต่อมาเวลา 17.32 น. พันโทหญิงพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงม้าชื่อ W-CALATA (เว-คาลาตา) อันเป็นม้าทรงประจำพระองค์ฯ สายพันธุ์โฮล์สไตเนอร์ วอร์มบลัด สีแซมขาว เพศเมีย อายุ 11 ปี ความสูง 170 ซ.ม. จากสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ซึ่งเป็นม้ากีฬาประเภทกระโดดข้ามเครื่องกีดขวางที่มีความสามารถ ผ่านการฝึกขั้นสูง ตอบสนองต่อการบังคับควบคุมได้ดี โดยเคยเข้าร่วมการแข่งขันในรายการต่างๆ และได้รับรางวัลมากมาย ในการแข่งขันประเภทกระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง ในสหภาพยุโรป นำขบวนพระบรมราชอิสริยยศ

ตามด้วยขบวนกองทหารม้าจำนวน 77 ม้า ใช้กำลังพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม2.รอ) และกำลังพลของกองบัญชาการตำรวจนครบาล เชิญพระบรมราชสรีรางคาร จากพระศรีรัตนเจดีย์ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยรถยนต์พระที่นั่ง ไปยังวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เพื่ออัญเชิญพระผอบพระบรมราชสรีรางคารไปยังพุทธบัลลังก์พระพุทธอังคีรสบรรจุลงในถ้ำศิลา และอัญเชิญพระบรมราชสรีรางคารไปยังบัลลังก์พระพุทธชินสีห์ และบรรจุลงในถ้ำศิลา ณ วัดบวรนิเวศวิหาร

สำหรับริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ ริ้วขบวนที่ 6 ใช้เส้นทางออกประตูวิเศษไชยศรี เลี้ยวขวาไปตามถนนหน้าพระลาน แล้วเลี้ยวขวาไปตามถนนสนามไชย เลี้ยวซ้ายเข้าถนนกัลยาณไมตรี ข้ามสะพานช้างโรงสี เลี้ยวขวาเข้าถนนอัษฎางค์ เลี้ยวซ้ายเทียบที่เกยหน้าวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม จากนั้นออกจากวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เลี้ยวขวาถนนอัษฎางค์ เลี้ยวซ้ายขึ้นสะพานช้างโรงสีไปตามถนนกัลยาณไมตรี เลี้ยวขวาถนนสนามไชยเข้าสู่ถนนราชดำเนินใน ข้ามสะพานผ่านพิภพลีลา ไปตามถนนราชดำเนินกลาง แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนพระสุเมรุ ไปเทียบหน้าประตูวัดบวรนิเวศวิหาร








Advertisement

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเย็นมีฝนตกโปรยปรายลงมา แต่ก็ไม่ได้ทำให้ประชาชนย่อท้อ ต่อการชมริ้วขบวนพระบรมราชอิสสริยยศในรอบซ้อมเสมือนจริง ทั้งนี้ มีประชาชนเป็นจำนวนมากแต่งกายชุดดำมาจองพื้นที่ตั้งแต่สนามหญ้าริมกำแพงพระบรมมหาราชวังฝั่งประตูวิเศษไชยศรี ถนนหน้าพระลาน ยาวไปจนถึงเส้นทางที่ริ้วขบวนเชิญพระบรมราชสรีรางคารผ่าน เพื่อรอชื่นชมความงดงามสมพระเกียรติของริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ

ส่วนบริเวณด้านหน้ากองสลากเก่า ถ.ราชดำเนินกลาง แขวงตลาดเก่า เขตพระนคร กทม. มีประชาชนจำนวนมาก มาร่วมชมการช้อมใหญ่ริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ ริ้วขบวนที่ 6 อย่างเนืองแน่น ไม่ว่าสภาพอากาศจะมีทั้งสายฝนที่โปรยปรายมาเป็นระยะๆ สลับกับอากาศที่ร้อนจัด แต่ประชาชนที่มาร่วมชมการซ้อมริ้วขบวนยังคงปักหลักรอชมด้วยความสำรวม โดยมีเจ้าหน้าที่ ตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่เทศกิจ คอยดูแลความเรียบร้อย

ขณะที่ นายนนนที ศรีนนท์ประเสริฐ อายุ 33 ปี ชาว จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ตนเคยเดินทางมากราบบังคมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ณ พระนั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง แล้วครั้งหนึ่ง และวันนี้ก็เป็นครั้งแรกที่ตนเดินทางมาร่วมชมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร

นายนนนที ศรีนนท์ประเสริฐ

“ความรู้สึกที่ตนมีต่อในหลวงรัชกาลที่ 9 นั้น สิ่งแรกที่ผมยังรู้สึกตั้งแต่ 13 ต.ค.2559 นั้นยังคงความรู้สึกใจหาย เวลานึกว่าจะไม่มีในหลวงรัชกาลที่ 9 อีกแล้ว ยิ่งเวลาที่ผมได้ดูพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่าน ผมยิ่งรู้สึกเสียดายและเป็นความรู้สึกที่ติดอยู่ข้างใน ไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้ แต่หลังจากนี้ ผมจะนำสิ่งที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทิ้งไว้ คือคำสอนของพระองค์ท่านที่ผมจะนำมาเป็นแบบอย่างที่ดีในการดำเนินชีวิตต่อไป” นายนนนที กล่าว

 

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน