วันที่ 26 ต.ค. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนิน โดยรถยนต์พระที่นั่งไปยังพระที่นั่งทรงธรรม เสด็จขึ้นพระเมรุมาศ ปิดพระฉากและพระวิสูตร เพื่อเตรียมการถวายพระเพลิงพระบรมศพ โดยเจ้าพนักงานภูษามาลาและสนมพลเรือนกองพระราชพิธีสํานักพระราชวัง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม เตรียมการที่จะถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่พระจิตกาธานบนพระเมรุมาศไว้พร้อม
จากนั้นสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จลงจากพระเมรุมาศไปยังพระที่นั่งทรงธรรม ประทับพระราชอาสน์ที่หน้าอาสน์สงฆ์ พระสงฆ์สวดมาติกา ทรงทอดผ้าไตร พระสงฆ์ 30 รูป สดับปกรณ์ ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก แล้วสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จขึ้นพระเมรุมาศ พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ ถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร แล้วเสด็จลงจากพระเมรุมาศ ประทับ ณ มุขหน้าพระที่นั่งทรงธรรม
เมื่อเจ้าพนักงานปฏิบัติการถวายพระเพลิงพระบรมศพเสร็จสิ้นแล้ว สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จขึ้นพระเมรุมาศทรงทอดผ้าไตรที่พระจิตกาธานถวายพระสงฆ์ 10 รูป สดับปกรณ์ ครั้งละ 1 รูป
ก่อนเสด็จพระราชดำเนินกลับ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 22.00 น. โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจขึ้นข้อความว่า ‘พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ขอจงทุกท่านหันหน้าเบื้องพระเมรุมาศเพื่อถวายความเคารพสูงสุด’ โดยประชาชนที่อยู่บริเวณสนามหลวงต่างหันหน้าไปยังพระเมรุมาศพร้อมกัน และมีการหยุดการแสดงเวทีมหรสพชั่วขณะ ซึ่งหลังจากที่ประชาชนเห็นควันพวยพุ่งออกจากพระเมรุมาศ ต่างพากันสวดมนต์ ทั้งยังร้องไห้ระงม