จากกรณีที่ปรากฏข่าวว่ามีการหายตัวไปของเครือญาติพร้อมกันถึง 5 ราย ประกอบด้วย นางอุษา ปานรอด อายุ 43 ปี, น.ส.ชนนิกานต์ หรือน้องบีม โตชะนก อายุ 22 ปี, น.ส. ญาสุมินร์ หรือน้องรุ้ง โจมฤทธิ์ อายุ 22 ปี (เพื่อน น.ส.ชนนิกานต์), ด.ช.ฟอร์ด และ ด.ญ.น้องฟ้าใส (นามสมมติ) เมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา จากในพื้นที่ อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช โดยทั้งหมดหายไปกับนายลมกรด หรือนายแบงค์ แสงสว่าง อายุ 36 ปี ชาวเชียงใหม่ แฟนของ น.ส.ชนนิกานต์ และมีการร้องเรียนจนกลายเป็นเรื่องที่ถูกเปิดเผยในสื่อมวลชน

มาเที่ยว – พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ซักถาม 5 ผู้ใหญ่และเด็กที่หายตัวออกจากบ้านที่นครศรีธรรมราชตั้งแต่เดือนเม.ย. ทั้งหมดยืนยันไม่ได้ถูกนายลมกรด แสงสว่าง ลักพาตัว แค่พามาเที่ยวเท่านั้น หลังพบอยู่ที่ท่าน้ำวัดช่องลม อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.

วันที่ 30 มิ.ย. ที่สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีฯ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เรียกคณะทำงานตำรวจภูธรภาค 8 และตำรวจฝ่ายสืบสวนจากในพื้นที่ท่าศาลา และตำรวจหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในคดี มาประชุมถึงความคืบหน้าในคดีนี้ รับฟังความคืบหน้าคดี ประมาณ 1 ชั่วโมง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ให้สัมภาษณ์ว่า เบื้องต้นจากการตรวจสอบและรับฟังข้อมูลทั้งหมด ยืนยันคดีนี้ไม่ใช่การค้ามนุษย์ หรืออุ้มตัวไป แต่เป็นการพาเยาวชนไปเที่ยว หลังได้เงินจากการขายที่ 4 แสนบาท ส่วนสาเหตุที่พาเด็กไปนานกว่า 3 เดือน ยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง

“เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นที่อำเภอท่าศาลา และมีการพาไปร่วมงานศพที่อำเภอแม่ใจ จังหวัดพะเยา ก่อนนำลงมาเที่ยวในพื้นที่กรุงเทพฯ และพื้นที่อื่นๆ ทั้งนี้ผมอยากฝากถึง อุษา ที่มีศักดิ์เป็นป้าของเด็กๆ ขอให้เอาเด็กๆ มาคืนผู้ปกครอง ส่วนความผิดขณะนี้เบื้องต้นเข้าข่ายการพรากผู้เยาว์ แต่หากยังไม่นำเด็กมาคืนจะถูกดำเนินคดีหนักขึ้นกว่านี้” รอง ผบ.ตร.กล่าว

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน