หลายฝ่ายจับตากรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้รับการพักโทษจะส่งผลอย่างไรต่อการเมือง

มีการประเมินล่วงหน้า นายทักษิณจะกลับมากุมอำนาจทางการเมืองอีกครั้ง อาจได้เห็นสภาวะ 2 นายกฯ

บ้างให้จับตาการปรับครม. อำนาจต่อรองในรัฐบาลผสม รวมถึงชนวนขัดแย้ง

ยุทธพร อิสรชัย

รัฐศาสตร์ ม.สุโขทัยธรรมาธิราช

การกลับมาของนายทักษิณ คงจะมีส่วนทางการเมืองในแง่ของการให้คำปรึกษา หรือแม้กระทั่งการกำหนดยุทธศาสตร์ของพรรคเพื่อไทยและรัฐบาล นายทักษิณ ควรอยู่ในการเมืองอย่างไม่เป็นทางการ เมื่อไรที่เป็นทางการนายทักษิณจะมีข้อจำกัดหลายอย่างที่ไม่สามารถเข้ามาได้

เช่น 1.เรื่องกฎหมาย เพราะไม่สามารถดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้แล้ว 2.การที่นายทักษิณกลับเข้ามา อาจเป็นปมขัดแย้ง ทำให้พรรคเพื่อไทยและรัฐบาลถูกวิพากษ์วิจารณ์ได้

และ 3.ในแง่ของพรรคก้าวไกล อาจเป็นประเด็นที่ถูกหยิบยกมาเล่นทางการเมืองได้ ดังนั้น การกลับเข้ามาอย่างไม่เป็นทางการอาจเป็นคำตอบที่ดีกว่า

ผลดีผลเสียคงไม่มีอะไรบวกลบไปมากกว่าเดิม จากที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ ล่าสุดได้รับการพักโทษ สุดท้ายแล้วก็ยังคงมีข้อวิพากษ์วิจารณ์อยู่

หากมองในแง่บวกนายทักษิณคงจะให้คำปรึกษาให้พรรคเพื่อไทยและรัฐบาล คาดว่าจะทำให้การดำเนินงานคล่องตัวขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของรัฐบาล เชื่อมโยงระบบข้าราชการ หรือแม้กระทั่งภาคส่วนต่างๆ เป็นไปอย่างไร้รอยต่อ

เชื่อว่านายทักษิณจะกลับเข้ามาจูนเครื่องให้รัฐบาลในหลายๆ เรื่องได้ ยังเชื่อว่านายทักษิณจะทำให้รัฐบาลผสมทำงานได้ลื่นไหลมากขึ้น เพราะมีบารมีทางการเมือง แกนนำรัฐบาลหลายๆ คนก็มีความมักคุ้นกับนายทักษิณ บางคนนายทักษิณเป็นผู้ชักชวนเข้ามาในการเมือง

หลายๆ คนมีความสนิทสนมส่วนตัว บางคนเคยดำรงตำแหน่งทางราชการที่สำคัญในสมัยนายทักษิณเป็นนายกฯ การพูดคุยระหว่างแกนนำพรรคฝั่งรัฐบาลจึงไม่ใช่เรื่องยาก

นายทักษิณยังมีบารมีไปยังภาคธุรกิจ กว้างขวางในการเชื่อมโยงภาคส่วนต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้รัฐบาลทำงานได้คล่องตัวมากขึ้น

ส่วนการปรับครม. คงมีอยู่แล้วตามปกติของการทำงานตามรอบ 6 เดือน หรือ 1 ปี คงมีการสลับปรับเปลี่ยนอยู่แล้ว ไม่เกี่ยวกับประเด็นที่นายทักษิณจะกลับเข้ามา อย่างไรก็ตาม เชื่อว่านายทักษิณอาจช่วยแนะนำ หรือกำหนดยุทธศาสตร์ให้

สำหรับการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี เกิดขึ้นยากมาก เพราะนายกฯ ต้องลาออกเพื่อโหวตแคนดิเดตนายกฯ คนใหม่ ซึ่งปัจจุบันมีตัวเลือกเหลือเพียงไม่กี่คน

ขณะเดียวกัน จะเกิดการเคลื่อนไหวของพรรคร่วมรัฐบาลทันที เพราะการเปลี่ยนตัวนายกฯ คือการปรับครม.โดยปริยาย 314 เสียง จะมาเต็มคะแนนหรือไม่ก็ไม่แน่ใจ แต่มีความเสี่ยงแน่นอน

และน่าจะมีการเคลื่อนไหวภายในพรรคต่างๆ โดยเฉพาะในพรรคเพื่อไทย ฉะนั้น การปรับตัวนายกฯ คงเป็นไปได้ยาก ถ้าปรับตัวนายกฯ กระบวนการทางการเมืองต่างๆ อาจสะดุดหยุดลง อาจนำไปสู่ความขัดแย้ง

อย่าลืมพรรคก้าวไกล เป็นอีกหนึ่งพรรคที่สามารถดึงเสียงจากฝั่งร่วมรัฐบาล ดังนั้นการเปลี่ยนตัวนายกฯ อาจเกิดการสลับข้ามขั้ว หรือเปลี่ยนเกมทางการเมืองได้

เชื่อว่านายทักษิณคงไม่ใช้วิธีปรับเปลี่ยนตัวนายกฯ เพราะเข้ามาเพื่อจูนเครื่อง ไม่ได้เข้ามายกเครื่อง คงทำเพียงการปรับตำแหน่ง หรือการกำหนดยุทธศาสตร์เท่านั้น

การพักโทษนายทักษิณ คงไม่ได้มีผลอะไรเปลี่ยนแปลงมากนัก คงไม่ถึงขั้นมีการชุมนุมใหญ่ วิกฤตแบบนี้คงเป็นไปได้ยาก

เพราะวันนี้การเมืองก้าวข้ามนายทักษิณไปแล้ว เป็นการต่อสู้เชิงอุดมการณ์ ประเด็นของนายทักษิณจึงไม่ใช่ชนวนความรุนแรงอีกต่อไป

สุขุม นวลสกุล

อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง

หลังนายทักษิณได้รับการพักโทษและออกมาพักรักษาตัวที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ต้องรอติดตามสถานการณ์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไร

เท่าที่ฟังจาก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาว พูดเหมือนว่าประชาชนจะดีใจ ทำให้ทุกคนมีความหวังอีก ต้องดูว่าเป็นการทำลายความรู้สึกของฝ่ายตรงข้ามด้วยหรือไม่ เพราะฝ่ายตรงข้ามอยากให้นายทักษิณสำนึกผิด ไม่ใช่รู้สึกภาคภูมิใจที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษ จึงต้องรอดูสถานการณ์กันต่อไป

ส่วนผลกระทบกับรัฐบาล ส่วนตัวมองว่านายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี คงไม่มีความสุขเท่าไร หากอดีตนายกฯ ทักษิณอยากแสดงขึ้นมาเองก็หมายความว่ามีคนสั่งการร่วมแล้ว อาจได้เห็นภาพสภาวะ 2 นายกฯ เกิดขึ้นในยุคนี้

ในส่วนของพรรคเพื่อไทย อดีตนายกฯ ทักษิณอาจมีส่วนช่วยสร้างความนิยมให้พรรคเพื่อไทยเพิ่มขึ้น เพราะแฟนเก่าก็ยังมีอยู่ ส่วนแฟนใหม่ๆ ก็อาจอยากเห็นฝีมือ และด้วยความรู้ ความสามารถและประสบการณ์ของอดีตนายกฯ ที่หลายฝ่ายอาจมองว่าสามารถให้ข้อเสนอแนะในการทำงานที่เป็นประโยชน์ต่อรัฐบาลได้

แต่ในขณะเดียวกัน ไม่ได้มีแค่ภาพนี้ภาพเดียว และยังมีกลุ่มที่ไม่ยอมรับนายทักษิณอยู่อีก ดังนั้น คงมองด้านเดียวไม่ได้

ที่มีรัฐมนตรีบอกนายทักษิณเป็นอดีตนายกฯ มีความรู้ความสามารถ มากด้วยประสบการณ์ และพร้อมรับฟังข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์จากอดีตนายกฯ นั้น รัฐมนตรีเหล่านี้อาจพูดในเชิงการทูต เป็นเรื่องของมารยาท พูดเพื่อไม่ให้เสียเพื่อนมากกว่า อย่าไปจริงจังกับคำพูดทางการทูตมากนัก

และการกลับมาของนายทักษิณอาจทำให้เกิดปัญหาการชิงการนำ เพราะเวลานี้เป็นรัฐบาลผสม ดูให้ดียังมีสองขั้ว ยิ่งตอนนี้เห็นชัดว่ามีความพยายามแสดงของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พอสมควรว่าหากเกิดอะไรขึ้นก็พร้อม

สำหรับโอกาสที่จะปรับครม.นั้น ส่วนตัวมองว่าควรให้เวลา ครม.ได้ทำงานก่อน และขณะนี้ขอให้คะแนนบวก เพราะเห็นคำพูดหนึ่งของนายเศรษฐาที่พูดว่าจะทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย รัฐบาลชุดนี้พยายามแสดงให้ประชาชนเห็นว่าทำงานเร็ว ทำงานไว แม้ทำงานเพียงไม่กี่เดือนก็สามารถแถลงผลงานได้แล้ว

แต่หากนายทักษิณพักโทษและออกมาแล้วเกิดเหตุการณ์ปรับ ครม.ขึ้นมาทันที ก็แสดงถึงอานุภาพการออกมาแสดงว่าเอาแน่แล้ว จัดการอยู่ ดังนั้นต้องจับตาดูก้าวแรกของนายทักษิณที่ออกมา

ถามว่าการกลับมาของนายทักษิณครั้งนี้ จะกลายเป็นชนวนเหตุของความขัดแย้งรอบใหม่หรือไม่นั้น ความขัดแย้งในสังคมไทยมักเกิดขึ้นได้ไม่ยาก ดูจากปัญหาที่เกิดขึ้นกับขบวนเสด็จก็เกิดความขัดแย้งระหว่างฝ่ายต่างๆ ขึ้นแล้ว กรณีของนายทักษิณก็อาจกลายเป็นเรื่องน้ำผึ้งแยกฝ่ายได้อีกเช่นกัน

ธีระพล อันมัย

คณะศิลปศาสตร์ ม.อุบลราชธานี

หลังได้รับการพักโทษ นายทักษิณน่าจะมีบทบาทในฐานะคนก่อตั้งพรรคและเป็นคนที่มีบทบาทในการให้ คำปรึกษา และคำแนะนำในเรื่องต่างๆ คงไม่ได้มานั่งในลักษณะของนายกฯ เงา

เชื่อว่านายทักษิณจะเก็บเนื้อเก็บตัวให้สงบที่สุด เพราะขณะนี้ไม่ใช่แค่พรรคเพื่อไทยพรรคเดียวที่เป็นรัฐบาล แต่เป็นรัฐบาลผสม มีหลายพรรคการเมืองที่ทำงานร่วมกัน จึงเชื่อว่าการที่นายทักษิณจะมาชี้ซ้ายชี้ขวาเหมือนเป็นรัฐบาลไทยรักไทย หรือลักษณะคล้ายแบบนั้นคงเป็นเรื่องยาก

อย่างไรก็ตาม การออกมาของนายทักษิณหลังได้รับการพักโทษ ย่อมมีผลดีกับรัฐบาล โดยเฉพาะพรรคแกนนำอย่างพรรคเพื่อไทย และอย่างน้อยนายทักษิณควรได้รับอิสรภาพ ซึ่งความจริงไม่ควรต้องได้รับโทษแม้แต่วินาทีเดียว

ในฐานะอดีตนายกฯ ที่ถูกรัฐประหาร นายทักษิณควรได้กลับประเทศไม่ใช่ในฐานะนักโทษด้วยซ้ำ แต่ควรได้กลับประเทศในฐานะอดีตผู้นำที่ถูกทำรัฐประหาร ส่วนคนที่ต้องรับโทษคือคนที่ทำรัฐประหาร

ดังนั้น ถ้านายทักษิณได้กลับบ้าน พรรคเพื่อไทยน่าจะมีที่ปรึกษาที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องการบริหารประเทศ ทำให้ประเทศมีเศรษฐกิจที่ดี ทำให้ประชาชนมีทางเลือกมากขึ้นหลังจากที่ขาดโอกาสทางเศรษฐกิจมาอย่างยาวนาน

ส่วนกรณีนายทักษิณได้รับการพักโทษแล้วหากแสดงบทบาทจะถูกสังคมจับจ้องนั้น คิดว่านายทักษิณต้องพูดให้น้อย แสดงบทบาทให้น้อยลง เพราะสถานะของพรรคเพื่อไทยตอนนี้ เหมือนมีนายทักษิณเป็นตัวประกันของฝ่ายอำนาจอนุรักษนิยมที่คุมกำลังอยู่

จึงคิดว่าหากนายทักษิณจะให้คำปรึกษาต้องเลือกเฉพาะเรื่อง ไม่ใช่ให้คำปรึกษาทุกเรื่อง เช่น เรื่องเศรษฐกิจที่นายทักษิณน่าจะมีวิสัยทัศน์ที่ดี แม้จะอายุมากแล้ว แต่เชื่อว่าการมองโลกและประสบการณ์ของนายทักษิณจะเป็นประโยชน์กับประเทศมากกว่า

เชื่อว่าด้วยประสบการณ์และบารมีของนายทักษิณ จะช่วยให้การทำงาน การประสานงานกันของพรรคร่วมรัฐบาลราบรื่นขึ้นได้ ถ้าให้นายทักษิณมาเป็นที่ปรึกษาเรื่องเศรษฐกิจ และจะช่วยให้การทำงานในพรรคเพื่อไทยเป็นเอกภาพมากขึ้น ไม่ใช่ต่างคนต่างพูด

ซึ่งที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยมีปัญหาเรื่องนี้พอสมควร ทั้งความเป็นเอกภาพในการสื่อสาร และความไม่มั่นใจในหลายๆ เรื่อง ซึ่งนายทักษิณจะได้มาช่วยกำหนดทิศทางในส่วนนี้ได้ด้วย

จะเห็นได้ชัดว่าพรรคเพื่อไทยต้องการคนที่จะให้คำปรึกษาและช่วยสร้างความมั่นใจ แต่คงไม่ถึงขั้นมาช่วยดูเรื่องปรับคณะรัฐมนตรี อย่ามองไปถึงขั้นนั้น

ส่วนความขัดแย้งและความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นหลังนายทักษิณได้รับการพักโทษ ก็เป็นเรื่องที่น่าหวั่นใจ เพราะอำนาจอนุรักษนิยมไม่เคยคิดจะสร้างความสามัคคีของคนในชาติหรือคนที่คิดต่าง ตรงนี้เป็นความน่ากลัว จึงเป็นอีกเรื่องที่นายทักษิณต้องระมัดระวังในการแสดงบทบาททางการเมือง

ส่วนรัฐบาลก็ต้องเชื่อมั่นว่ามาจากเสียงประชาชน และมั่นใจในเสียงของระบบรัฐสภาที่ทำให้ตัวเองได้เป็นรัฐบาล

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน