โก๊ะตี๋ กินแปลกมาทั้งชีวิต แต่แพ้แมงป่องหัวใจเต้นผิดปกติ ลั่น ยังไม่เข็ด
จากกรณีที่นักแสดงหนุ่ม โก๊ะตี๋ อารามบอย เกิดอาการแพ้ขั้นรุนแรง หลังกินแมงป่อง 3 ตัว จนต้องแอดมิตเข้าโรงพยาบาล ล่าสุด 15 ก.พ. 65 เจ้าตัวมาร่วมงานบวงสรวงละคร “18 มงกุฎสะดุดเลิฟ” ที่ ศาลหลักเมือง พร้อมอัพเดตถึงอาการที่เกิดขึ้น
“ใช่ครับ ก่อนหน้านี้ก็ไปถ่ายรายการปัญญาตลาดแตก แล้วเขาเอาแมงป่องทอดมาให้ทายราคากัน คือเราเป็นคนที่กินได้อยู่แล้ว หนูกินได้ทุกอย่างบนโลกใบนี้ ยกเว้นพ่อกับแม่ไม่กินอย่างเดียว (หัวเราะ) หนูกินได้หมด เพราะฉะนั้นเราก็ไม่รู้ว่าพออายุเยอะขึ้นมันเริ่มกลับมาแพ้
คือตอนเด็กเรากินตะขาบ คางคก อึ่งอ่าง แมงป่อง กินหมด คนบ้านนอกเด็กต่างจังหวัด กินอะไรก็ได้ไม่ต้องไปซื้อหาอะไรกิน จิ้งหรีดก็กิน ปูนา เรากินมาเราก็ไม่รู้ ซึ่งแต่ก่อนไม่แพ้ คือปีก่อนหน้านี้แฟนอยากกินไข่แมงดาทะเล ก็สมัยก่อนป๋าดี๋ ดอกมะดัน เขาเคยสั่งให้เรากินเราก็ไม่ได้แพ้
ตอนที่นายกสมาคมตลกเมื่อ 20 กว่าปีก่อน ป๋าดี๋เคยสั่งให้เรากินเราก็กินได้ ปรากฏวันนั้นไปกิน เมื่อปีที่แล้วพาแฟนไปกินยำไข่แมงดาทะเล ตาบวมแบบปิดมาเลย แพ้ครั้งแรกกับไข่แมงดาทะเลก็เลยไปหาหมอ เรารู้เลยพอกินไข่แมงดาทะเลปุ๊บอาการมันขึ้นก็คือแพ้ ไปฉีดยา ตอนแรกก็แพ้รุนแรง
แล้วมาล่าสุดไปอัดรายการก็คือในรายการไม่มีใครชิม อาปัญญาก็บอกว่า ใครกินได้ เอาหน่อยไหม เราก็อ้าว ไม่มีใครกิน เดี๋ยวไม่ได้ภาพ เราก็ทำเป็นเหมือนอยากกิน กินหนึ่งตัวผ่านไป ตัวใหญ่มันแข็ง ก็เลือกตัวเล็กๆ มาสองตัวก็กินเข้าไป ก็โอเค
สรุปเราทำท่าเหมือนอยากกินต่อ อาปัญญาก็บอกพอแล้วครับ เพื่อความสนุกสนานกันไป พออัดรายการเสร็จอีกสัก 15 นาทีก็เสร็จ พอเสร็จมันเหมือนเราจะเป็นหวัด เหมือนคัดจมูกแล้วก็รู้สึกหายใจติดขัด ก็รู้สึกเฮ้ย เป็นภูมิแพ้ เราแพ้ฝุ่นก็โอเคกลับบ้าน ไม่ได้มีอะไร
มาถึงก็มาไลฟ์ขายของในเพจขายต้นไม้ ในสวนสนุกแคคตัสก็ไลฟ์ขายไป สักพักคันตาเราก็ไม่ได้เกา ไลฟ์สด เราก็บอกลูกเพจ หนูคันตายังไงไม่รู้ก็เลยจะแตะ แค่แตะ เพราะหนูถ้าเกามันจะลามทั้งตัวเลย เราก็แค่จะแตะๆ แค่ 3 นาที มันค่อยๆบวมๆ บวมเป่ง เห็นๆ เลยว่ามันแพ้อะไรสักอย่าง
หนูก็บอกว่างั้นจบไลฟ์ก่อนแล้วกัน ก็เลยจบไลฟ์ ก็ให้ลูกน้องเอายาแก้แพ้มาให้กิน น้องก็บอกว่า พี่มันบวมมากเลยนะ พี่ไปหาหมอไหม เราบอกพี่รู้ตัวเอง เดี๋ยวขอนั่งให้ยามันออกฤทธิ์สักพักหนึ่งถ้ามันโอเคก็โอเค สักพักเริ่มหายใจไม่ออกเรารู้ตัวเอง เราเริ่มหายใจทางปากจมูกไม่ได้แล้ว มันแน่นหน้าอก ก็บอกให้ลูกน้องพาเราไปหาหมอ ไปโรงพยาบาล”
ไปถึงหมอบอกว่าเป็นอะไร? “หมอบอกว่าอาการแพ้ขั้นรุนแรง คือหัวใจเต้นไม่เป็นปกติ แล้วพอไปถึงเราก็ง่วงๆ เราก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรง่วง หมอก็เลยฉีดยาที่หลังมือแล้วก็ปักน้ำเกลือฉีดยาใส่สายน้ำเกลือแล้วก็มาฉีดยาตรงหน้าขา 3 เข็ม เขาบอกแพ้รุนแรงเราก็ไม่รู้หรอก พอตื่นมาอีกทีก็รู้สึกหายใจเป็นปกติ มีสายออกซิเจนอยู่ในจมูกแล้วก็เหลือบๆ ไป แฟนเรานั่งอยู่ข้างเตียงก็โอเค”
อาการเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มีความกังวลหรือกลัวไหม?“เรารู้ตัวเอง คนเราถ้าจะทำอะไรเรารู้ตัวเอง เราจะรู้ตัวว่าเราไหวแค่ไหนเราไหวนะ เรายังไหวแต่อันนั้นไม่ไหวแล้วคือรู้สึกว่าต้องหายใจทางปาก มันทรมานก็บอกลูกน้องพาไปหาหมอ คือเราก็รู้แล้วว่ายาแก้แพ้เอาไม่อยู่”
มีความกังวลตรงนั้นไหมว่าเราจะยังไงเพราะหัวใจก็เต้นผิดปกติ หายใจไม่สะดวก? “เราก็กังวลนั่นแหละ แต่ไม่แสดงให้ใครรู้ เรารู้สึกว่าน้องมันก็ขับรถพาเราไป เราก็ไม่ได้เร่งรีบ เฮ้ย รีบไปหน่อย เราก็นั่งไปพยายามมีสติ ก็คือหายใจทางปากไป พอถึงโรงพยาบาลเสร็จปุ๊บ ก็ยื่นประกันอะไรเรียบร้อย เขาถามว่าเป็นอะไรมา (หัวเราะ) น้องบอกกินแมงป่องมา (หัวเราะ) เขาห๊ะ แมงป่อง”
นอนโรงพยาบาลกี่คืน? “คืนเดียว (มันทำให้เราเข็ดไหม?) ก็ไม่เข็ดนะ (หัวเราะ) เราจะได้รู้ไงว่าเราแพ้อะไร (คือกินไปถูกวิธีไหม? )ถูกวิธีนะ หางหนูก็ไม่ได้กิน คือก่อนหน้านี้หนูไม่เคยแพ้อะไรใช่ไหมก็เริ่มแล้ว ไข่แมงดาทะเล ตอนนี้แมงป่อง”
ได้ปรึกษาหมอไหมทำไมถึงแพ้? “ไม่รู้เหมือนกัน เขาก็บอกน่าจะไปตรวจหาภูมิว่าแพ้อะไรบ้าง แต่ว่ามันลำบากในการใช้ชีวิต เดี๋ยวถ้าแพ้อะไรค่อยดูกันอีกทีแล้วกัน”
ต้องงดพวกแมลงต่างๆ ไปก่อนไหม? “ก็ไม่นะ ก็ยังใส่อยู่เหมือนเดิม (มันก็ค่อนข้างรุนแรงเพราะหัวใจเต้นผิดปกติ?) “ใช่ๆ แค่แมงป่อง เพราะเมื่อก่อนเรากินจิ้งหรีด ประเภทจิ้งหรีด ด้วง ไหม รถด่วน คือเป็นคนชอบ ตั๊กแตน”
แล้วตกใจไหมปกติเราไม่แพ้อะไรแล้วมาแพ้แบบนี้? “ตกใจ แต่ตอนนี้เราก็รู้แล้ว 2 อย่างที่เรากินไม่ได้ ไข่แมงดาทะเลกับแมงป่อง”
คือเราก็จะจดไว้เลย? “คือหนูไม่อยากตรวจเพราะว่าถ้าเราตรวจแล้ว เคยเห็นไหมบางคนแพ้แป้งสาลี แพ้นมอยู่ในข้าวโพด แพ้นมโค แพ้นู่นนี่ เออ ชีวิตกินอะไรไม่ได้เลย ก็คือโอเคเราอาจจะแพ้แต่แพ้น้อยก็ช่างมัน แต่ถ้าแพ้เยอะก็เจอโรงพยาบาล”
รู้สึกไหมว่าตอนนี้ร่างกายเราเปราะบาง ปกติเราแข็งแรง? “หนูว่าตั้งแต่ผ่านเลข 4 มา คือพออายุเราก้าวเข้า 42 มัน 42 เต็ม นี่ก็เข้า 43 ไปค่อนชีวิตแล้วนะ เพราะฉะนั้นคือปีนี้ก็ตั้งเป้าตั้งใจกับตัวเองว่าจะกลับมาดูแลตัวเองกลับมาเริ่มออกกำลังกายเพราะว่าตั้งแต่โควิดมา 2 ปีกว่า หนูไม่ได้แตะบอลไม่ได้เจอสนามหญ้าเลย แล้วก็ไม่ได้ออกกำลังกาย อยู่แต่บ้าน ครั้งนี้ตั้งใจบอกกับแฟนไว้ว่าจะทำให้เขา เขาขอให้ลดน้ำหนักให้เขา 10 โล”
มีผลไหมติดโควิดมาเตะบอล? “ก่อนหน้านี้กลัวเพราะว่าหนูเริ่มเหนื่อยหลังจากติดโควิดมา ออกมาปุ๊บเราเริ่มออกกำลังกายเอ๊ะทำไมมันเหนื่อยๆ เพราะปอดเรามันก็อาจจะไม่เหมือนเดิม ปีนี้ตั้งใจว่าจะเอาลงมาสัก 10 โล ก็คือให้ร่างกายแข็งแรง อาจจะไม่ต้องไปฟิตเนสเหมือนเมื่อก่อน แต่โอเคพร้อมที่จะสู้ พร้อมที่จะมีกำลังทำงาน”
10 โลก็คือจะเตรียมแต่งงาน? “เอาอีกแล้ว ไม่ใช่ (หัวเราะ) เอาสุขภาพเพราะว่าแฟนเขาดูแลเรื่องประกันให้เราอยู่ไง ถ้าสมมติเขาบอกว่าตอนนี้น้ำหนักเราเท่านี้แล้วประกันต้องจ่ายเบี้ยเท่านี้ แต่ถ้าน้ำหนักลงมา 10 โล จะจ่ายอีกเบี้ยแล้วค่าอะไรกับประกันมันจะได้มีความคุ้มครองอีกเยอะ เราก็โอเค เพื่อความคุ้มครองที่เพิ่มขึ้น”
ขอบคุณรูปจากไอจี : kootee
