นาโต้ถกด่วนรับมือทัพรัสเซียบุก ปูตินกร้าวพร้อมเผชิญหน้าทุกการตอบโต้

นาโต้ถกด่วนรับมือทัพรัสเซียบุก – วันที่ 24 ก.พ. ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ทางการโปแลนด์ เอสโตเนีย และลิทัวเนีย ชาติสมาชิกองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต้ เรียกประชุมหารือเพื่อรับมือกับสถานการณ์กองทัพรัสเซียรุกรานยูเครน

การเรียกประชุมดังกล่าวอาศัยอำนาจตามมาตรา 4 ของธรรมนูญนาโต้ กำหนดให้ชาติสมาชิกนาโต้ทั้งหมดประชุมหารือกันในกรณีที่สมาชิกมองว่าบูรณภาพเหนือดินแดน ความเป็นอิสระทางการเมือง และความมั่นคงของสมาชิกถูกคุกคาม

เว็บไซต์นาโต้ ระบุว่า มาตรา 4 ตามธรรนูญนาโต้นั้นเคยถูกใช้มาแล้วทั้งสิ้น 6 ครั้ง ตั้งแต่การสถาปนานาโต้เมื่อปี 2492 โดยครั้งล่าสุดเป็นการใช้สิทธิจากทางการตุรกีในเดือนก.พ. 2563 หลังทหารตุรกีถูกกองทัพซีเรียสังหารในพื้นที่ทางภาคเหนือของซีเรีย ซึ่งเป็นพื้นที่ในความควบคุมของฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรีย

ทางการตุรกียังเป็นชาติที่ใช้อำนาจตามมาตรา 4 ของนาโต้อีกถึง 4 ครั้ง ได้แก่ การแจ้งความคืบหน้าปัญหาการก่อการร้ายในประเทศเมื่อปี 2558 เหตุเครื่องบินรบของตุรกีถูกกองทัพซีเรียยิงตกทางภาคเหนือของซีเรีย และพลเรือนของตุรกีถูกกระสุนปืนใหญ่ของกองทัพซีเรียสังหารในปี 2555 รวมทั้งการร้องขอให้นาโต้ช่วยเหลือปกป้องผลกระทบต่อสวัสดิภาพของชาวตุรกีจากความเสี่ยงการลุกลามของสงครามในอิรักเมื่อปี 2546

การเรียกประชุมดังกล่าวในอดีต 6 ครั้ง มีเพียง 2 ครั้งเท่านั้นที่นาโต้ตอบสนองอย่างเป็นรูปธรรมด้วยความช่วยเหลือทางทหารด้วยการส่งระบบต่อต้านขีปนาวุธแพทริออตไปติดตั้งเพื่อช่วยป้องกันการโจมตีจากกองทัพซีเรียในปี 2555 และส่งระบบต่อต้านขีปนาวุธเดียวกันพร้อมเครื่องบินขับไล่ไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือของตุรกีเมื่อปี 2546

ด้านทางการโปแลนด์เคยเรียกประชุมนาโต้ในปี 2557 ต่อพฤติกรรมคุกคามยูเครนของทางการรัสเซีย ส่งผลให้สมาชิกนาโต้ยกระดับความเป็นเอกภาพมากขึ้นในการตอบโต้สถานการณ์คุกคามในยูเครน

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย แถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจด้วยตัวเอง อ้างว่าได้รับการร้องขอความช่วยเหลือทางทหารจาก “สาธารณรัฐโดเนตสก์และสาธารณรัฐลูฮานสก์” ซึ่งเป็นชื่อที่ทางการรัสเซียใช้เรียกแคว้นโดเนตสก์และลูฮานสก์ พื้นที่ในควบคุมของกองกำลังฝักใฝ่รัสเซียที่แบ่งแยกดินแดนจากยูเครน

ประธานาธิบดีปูติน ระบุว่า “ปฏิบัติการพิเศษทางทหาร” ที่เกิดขึ้นนั้นมีเป้าประสงค์เพื่อปลดอาวุธ (กองทัพยูเครน) และกวาดล้างลัทธินาซีให้หมดไป (จากยูเครน)

พร้อมยืนยันว่าเป็นภารกิจทางทหารเพื่อการป้องกันตัวเองของรัสเซีย และว่ารัสเซียไม่มีแผนที่จะเข้ายึดครองยูเครน “เราไม่ต้องการนำแนวคิดใดของตัวเองไปยัดเยียดให้คนอื่น”

ผู้นำรัสเซียกล่าวอ้างถึงปฏิบัติการพิเศษทางทหารในภาคปกครองดอนบาส (แคว้นโดเนตสก์และลูฮานสก์) ของรัสเซีย ว่าเพื่อหยุดยั้งสถานการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่เกิดขึ้นจากน้ำมือของทางการยูเครน ซึ่งรัฐบาลยูเครนนั้นยืนกรานปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง

โดยประธานาธิบดีปูตินยังกล่าวหานาโต้ว่าส่งเสริมลัทธินีโอ-นาซี หรือนาซีใหม่ในยูเครนด้วย พร้อมกล่าวตรงไปยังบรรดาทหารยูเครนว่า “สหายที่รักทุกท่าน พวกท่านปฏิญาณตนจะรับใช้ประชาชาชาวยูเครน มิใช่เพื่อรับใช้รัฐบาลเผด็จการที่ไม่ใยดีและเอารัดเอาเปรียบกดขี่ผู้คนเหล่านั้น” และว่า “จงอย่าได้ปฏิบัติตามคำสั่งของคนเหล่านั้น! ผมขอให้พวกท่านวางอาวุธแล้วกลับบ้านเถิด”

ประธานาธิบดีปูติน ยังกล่าวว่า ทางการรัสเซียนั้นไม่มีทางเลือกที่จะใช้สิทธิปกป้องตัวเอง พร้อมข่มขู่ทางการสหรัฐอเมริกา ยุโรป และนาโต้ ว่า “ใครหน้าไหนก็ตามที่เข้ามาแทรกแซง หรือยิ่งไปกว่านั้นคือคุกคามประเทศชาติ และผู้คนของเรา พึงสำเหนียกไว้ว่าการตอบโต้ของเรานั้นว่องไวและเฉียบขาด ซึ่งจะนำไปสู่ผลเสียหายที่ตามมาชนิดที่พวกท่านไม่เคยพบมาก่อนในประวัติศาสตร์ชาติของท่าน”

และว่า “พวกเรามีความพร้อมกับทุกสถานการณ์ที่จะตามมา ทุกอย่างนั้นได้รับการเตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว” ก่อนจะกล่าวทิ้งท้ายว่า “ผมหวังว่าพวกท่านคงจะซาบซึ้งถึงสิ่งที่ผมพูดแล้ว”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน