5 เยาวชน เปิดปากสารภาพปมฆ่า ป้าบัวผัน ทิ้งสระน้ำสระแก้ว อ้าง ทำไปเพราะตามเพื่อน แฉ หัวโจกวัย 16 ปี เป็นลูกตำรวจ เตรียมสอบสามีผู้ตายเพิ่ม
วันที่ 15 ม.ค.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานจากกรณีพบผู้เสียชีวิตถูกฆ่าทิ้งสระน้ำข้างโรงเรียนแห่งหนึ่ง เขตเทศบาลเมืองอรัญประเทศ จ.สระแก้ว ต่อมาทราบว่าผู้เสียชีวิตชื่อ น.ส.บัวผัน (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 47 ปี สภาพศพสวมเสื้อแขนกุด สวมกางเกงขายาวสีดำ มีแผลแตกที่ศีรษะและใบหน้า เสียชีวิตมานานกว่า 1 วัน และทราบข้อมูลด้วยว่า ผู้ตายเป็นหญิงสติไม่ดี ปกติมักเดินเร่ร่อนในละแวกใกล้กับจุดเกิดเหตุเป็นประจำ เบื้องต้นเชื่อว่าสาเหตุการตายน่าจะถูกฆาตกรรม
พนักงานสอบสวนจึงส่งศพไปตรวจชันสูตรที่ รพ.อรัญประเทศ และรพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี เพื่อผ่าชันสูตรเพิ่มเติม โดยพ.ต.อ.พิเชษฐ์ ศรีจันทร์ตรา ผกก.สภ.อรัญประเทศ สั่งการภายหลังลงพื้นที่จุดเกิดเหตุด้วยตนเอง เพื่อสอบสวนหาสาเหตุการฆาตกรรม พร้อมสั่งชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข่าว และตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้จุดเกิดเหตุ
5 เยาวชน เปิดปากสารภาพปมฆ่า ป้าบัวผัน ทิ้งสระน้ำสระแก้ว อ้าง ทำไปเพราะตามเพื่อน แฉ หัวโจกวัย 16 ปี เป็นลูกตำรวจ
ล่าสุด พ.ต.อ.พิเชษฐ์ ทำรายงานชี้แจง ระบุ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 12 ม.ค.67 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อรัญประเทศ รับแจ้งว่าพบศพ น.ส.บัวผัน ถูกคนร้ายทำร้ายร่างกาย มีบาดแผลบริเวณศีรษะ เป็นเหตุให้เสียชีวิต พบศพในบ่อน้ำในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ
กระทั่งนายปัญญา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี สามีผู้ตายมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ และให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุทำร้ายน.ส.บัวผัน จนถึงแก่ชีวิต โดยให้การเป็นฉากเป็นตอน และนำพาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปชี้จุดต่างๆ ด้วยตัวเอง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำรายงานสืบสวนและนำตัวฝากขังที่ศาลจังหวัดสระแก้วในวันที่ 13 ม.ค.67
แต่ในคดีนี้ สภ.อรัญประเทศ ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของนายปัญญา จึงสั่งการชุดสืบสวนฯ แสวงหาข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อทราบรายละเอียดและพฤติการณ์ในคดีที่แท้จริง โดยปรากฏพยานหลักฐานใหม่ในคดี ดังนี้
1.ไม่พบว่า นายปัญญา ปรากฏตัวในไทม์ไลน์ที่เกิดเหตุตามที่กล่าวอ้าง
2.ปรากฏภาพจากล้องวงจรปิด ว่าผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย น.ส.บัวผัน เป็นกลุ่มเยาวชน 5 คน จึงสืบสวนจนทราบตัวผู้กระทำผิด และตำรวจสามารถเข้าจับกุมตัวได้แล้วทั้งหมด เป็นเยาวชนอายุระหว่าง 13-16 ปี
โดยทั้งหมดใช้ยานพาหนะรถจักรยานยนต์ 2 คัน ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ 110 ไอ ทะเบียน 5 ขฐ 2673 กทม. และฮอนด้า เวฟ 125 ไอ ทะเบียน 1 กท 648 สระแก้ว ในการก่อเหตุ
สำหรับพฤติการณ์พบว่า เวลาประมาณ 22.00 น.ของวันที่ 10 ม.ค.67 ถึงเวลาประมาณ 01.00 น. ของวันที่ 11 ม.ค.67 วันเกิดเหตุ กลุ่มเยาวชนผู้ก่อเหตุ นั่งรวมกลุ่มกันที่บริเวณริมขอบสระภายในเทศบาลเมืองอรัญประเทศ มี 2 คนในกลุ่มผู้ก่อเหตุเข้าไปแหย่ น.ส.บัวผัน ซึ่งมีลักษณะเป็นบุคคลเร่ร่อน สติไม่ค่อยดี และติดสุราเรื้อรัง ซึ่งนั่งอยู่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ ทำให้ผู้ตายเอะอะโวยวายและปาขวดใส่หัวกลุ่มผู้ก่อเหตุ
กระทั่ง เวลาประมาณ 02.00 น.ของวันที่ 11 ม.ค. กลุ่มผู้ก่อเหตุขับรถมาพบผู้เสียชีวิตนั่งอยู่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ ห่างจากจุดเดิม ประมาณ 800 เมตร กลุ่มผู้ก่อเหตุจึงลงจากรถหลอกล่อให้ผู้ตายเดินไปหา แต่ผู้ตายไม่ยอมเดินไป
กระทั่ง คนร้ายอีกคนเดินเข้าไปหาผู้ตายในมุมด้านข้าง แล้วเตะเข้าที่บริเวณใบหน้าของผู้ตาย เป็นเหตุให้ผู้ตายหงายหลัง และนั่งร้องไห้อยู่บริเวณดังกล่าว จากนั้น กลุ่มผู้ก่อเหตุได้อุ้มผู้ตายขึ้นรถจักรยานยนต์ แต่ผู้ตายดิ้นรนจนตกหล่นจากรถ กลุ่มผู้ก่อเหตุจึงขับรถออกไป และวนกลับมาบังคับอุ้มผู้ตายขึ้นรถอีกครั้งจนสำเร็จ มุ่งหน้าไปทางโรงเรียนแห่งหนึ่ง
ต่อมาเวลาประมาณ 02.40 น. กลุ่มผู้ก่อเหตุปรากฏตัวที่ร้านล้างรถหยอดเหรียญ ก่อนถึงเมกาโฮม อรัญประเทศ ห่างจากโรงเรียนประมาณ 2 กิโลเมตร เพื่อล้างรถที่ใช้ก่อเหตุ จนถึงเวลาประมาณ 03.00 น. ห่างจากโรงเรียนประมาณ 2.5 กิโลเมตร พบกลุ่มผู้ก่อเหตุเข้าไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อ
จากการตรวจสอบพยานหลักฐานดังกล่าวของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อรัญประเทศ จึงสืบสวนจนทราบชื่อและนามสกุล ที่อยู่ของเด็กวัยรุ่นผู้ก่อเหตุทั้ง 5 คน จึงเชิญตัวมาที่ สภ.อรัญประเทศ เพื่อซักถามข้อมูลมูลเบื้องต้นต่อหน้าผู้ปกครองเยาวชนทั้งหมด และให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุทำร้าย น.ส.บัวผัน จริง มูลเหตุการกระทำในครั้งนี้ วัยรุ่นทั้ง 5 คนให้การว่า ทำไปเพราะตามเพื่อน
พ.ต.อ.พิเชษฐ์ ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการสืบสวนและตรวจสอบข้อมูลอย่างรอบด้านเพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดขึ้นอีก โดยตรวจยึดรถจักรยานยนต์ 2 คันที่ใช้ก่อเหตุ และเสื้อผ้าของกลุ่มผู้ก่อเหตุที่สวมใส่ในวันเกิดเหตุมาด้วย พนักงานสอบสวน สภ.อรัญประเทศ ได้นัดทีมสหวิชาชีพ เพื่อสอบปากคำกลุ่มเยาวชนผู้ก่อเหตุในวันที่ 15 ม.ค.
ทั้งนี้ ตำรวจชุดสืบสวน สภ.อรัญประเทศ ได้นำตัวเยาวชนชายทั้งหมด 5 คน มาสอบสวนเบื้องต้นแล้ว พบว่าหัวโจกกลุ่มวัยรุ่น มี 2 คน อายุ 16 ปี เป็นลูกชายตำรวจในพื้นที่ แต่เนื่องจากทั้ง 5 คนยังเป็นเยาวชน ต้องรอไปสอบสวนต่อหน้าสหวิชาชีพที่สำนักงานอัยการจังหวัดสระแก้ว ในวันที่ 15 ม.ค.
ส่วนกรณี นายปัญญา สามาีของคนตาย ที่รับสารภาพว่าได้ทำร้ายเมียจนเสียชีวิต แล้วนำศพไปโยนทิ้งบ่อน้ำนั้น ขณะนี้ ตำรวจสภ.อรัญประเทศ ได้ส่งทีมเข้าไปสอบสวนนายปัญญาเพิ่มเติมในเรือนจำจังหวัดสระแก้ว เพื่อหาข้อเท็จจริงว่าได้ก่อเหตุจริงหรือไม่ ทำไมถึงได้รับสารภาพ และยังทำแผนประกอบคำรับสารภาพด้วย
