หลุยส์ เอ็นริเก กุนซือทีมชาติสเปน เผยภูมิใจในตัวลูกทีมแม้จะต้องตกรอบฟุตบอลโลกเป็นที่เรียบร้อย พร้อมรับว่า โมร็อกโก คือทีมที่ทำได้ดีกว่าในการยิงจุดโทษ

โดย สเปน พ่ายต่อ โมร็อกโก ในการดวลจุดโทษ 0-3 หลังเสมอกันมาในเวลาปกติ 90 นาที และต่อเวลาพิเศษ 30 นาที 0-0 ศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบ 16 ทีมสุดท้าย เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.

จากผลที่เกิดขึ้นทำให้ สเปน จบเส้นทางของเวิลด์ คัพ 2022 ไว้ที่รอบนี้ นอกจากนั้นแล้วพวกเขายังเป็นชาติแรกที่ดวลจุดโทษแพ้ในฟุตบอลโลก 4 ครั้งติดต่อกัน ขณะที่ โมร็อกโก ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์

Spain’s head coach Luis Enrique, left, embraces Sergio Busquets after the penalty shootout at the World Cup round of 16 soccer match between Morocco and Spain, at the Education City Stadium in Al Rayyan, Qatar, Tuesday, Dec. 6, 2022. (AP Photo/Luca Bruno)

 

หลังเกม เอ็นริเก ให้สัมภาษณ์ว่า “เป้าหมายเดียวที่ผมตั้งให้กับนักเตะของผมก่อนเข้าแคมป์ฝึกซ้อม ผมบอกพวกเขาว่าเราต้องสนุก ฟุตบอลเป็นกีฬาที่มหัศจรรย์ และน่าหลงใหล แต่ทีมสามารถชนะได้โดยไม่ต้องบุก โมร็อกโก บุก 1-2 ครั้ง และอันตราย แต่เราครองเกมได้เต็มที่ และพยายามสร้างสรรค์”

“เราอยากสร้างมากกว่านี้ มันยากสำหรับ ผมคิดว่าเรายิงได้ 11 ครั้งแต่เสียประตูน้อยมาก ในช่วงท้ายเกม พาโบล ซาราเบีย ยิงชนเสา การยิงจุดโทษยากสำหรับเรา แต่ผมก็ภูมิใจในตัวนักเตะของผม”

นอกจากนั้นเฮดโค้ชวัย 52 ปียังรับว่า โมร็อกโก คือทีมที่ยิงจุดโทษได้ดีกว่าพวกเขา แม้ก่อนเกมเจ้าตัวจะออกมาบอกว่าทัพ “กระทิงดุ” ซ้อมไปอย่างน้อย 1,000 ลูกก็ตาม “เราต้องแสดงความยินดีกับผู้ชนะ พวกเขาเล่นเกมของพวกเขา ผลออกมาดี พวกเขาดีกว่าเราในการดวลจุดโทษ ผมคิดว่าเด็กๆ ต้องเรียนรู้ที่จะแพ้ ไม่ว่าคุณจะสมควรได้รับหรือไม่ก็ตาม”

ขณะที่เรื่องอนาคตกับทีมชาติ เอ็นริเก ระบุว่า “สัปดาห์หน้าเราจะพูดคุย และหารือเกี่ยวกับอนาคตของผม ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม แน่นอนผมคือคนรับผิดชอบ”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน