จากกรณีน.ส.วราลี เสริมจันทร์ อายุ 34 ปี มารดาของด.ช.จตุภัทร วรศาสตร์ อายุ 11 เดือน หรือน้องนาวา ได้เข้าร้องขอความเป็นธรรมสื่อมวลชน ว่าได้พาน้องนาวา ไปฝากเลี้ยงที่เนอสเซอรี่ ครูอ้อ ภายในหมู่บ้านสวัสดี เลขที่ 986 / 116 หมู่ 4 ต.แพรกษา อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ ได้เพียง 6 วัน ก่อนลูกชายจะเสียชีวิตแบบมีเงื่อนงำ เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 13.25 น. วันที่ 25 เม.ย. ที่ผ่านมา โดยนำศพน้องนาวา มาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดแพรกษา อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ

ล่าสุด วันที่ 30 เม.ย. ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี น.ส.วราลี เสริมจันทร์ อายุ 34 ปี ได้เดินทางเข้าพบ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิฯ เพื่อร้องขอความเป็นธรรม และให้ช่วยเร่งรัดคดี กรณีลูกชายวัย 11 เดือนเสียชีวิต

น.ส.วราลี กล่าวว่า ตนนำลูกชายวัย 11 เดือน ไปฝากเลี้ยงที่เนอสเซอรี่ ครูอ้อ ภายในหมู่บ้านสวัสดี ย่านหลังวัดแพรกษาได้เพียง 6 วัน ลูกชายก็มาเสียชีวิต ซึ่งในวันเกิดเหตุคือ วันที่ 25 เม.ย. เวลา 13.25 น. ตนได้รับโทรศัพท์จากพี่เลี้ยงของเนอสเซอรี่ ครูอ้อ ว่าให้รีบกลับมาหาน้องนาวาด่วน แต่ไม่ยอมบอกเหตุผลว่าเกิดอะไรขึ้น จนกระทั่งตนเค้นถามปลายสายโทรศัพท์ จึงแจ้งว่าน้องนาวาไม่มีลมหายใจแล้ว และไม่สามารถอธิบายเหตุผลได้ จึงลางานแล้วโทรหาสามีที่ทำงานอยู่ให้มารับ พร้อมทั้งรีบเดินทางไปดูน้องนาวา

เมื่อไปถึงเนอสเซอรี่ พบว่าเด็กๆ คนอื่น ผู้ปกครองมารับกลับบ้านหมดแล้ว ส่วนลูกชายนอนเสียชีวิตอยู่เพียงคนเดียว รู้สึกแปลกใจมากว่า ทำไมไม่มีนำส่งโรงพยาบาล หรือแสดงความรับผิดชอบอะไรเลย สามีจึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ พร้อมแพทย์เวรเข้าชันสูตรศพ และแจ้งว่าน้องเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ชั่วโมง แต่พี่เลี้ยงระบุว่า เพิ่งทราบว่าน้องเสียชีวิต ก็ตอนที่โทรแจ้ง พร้อมอ้างว่า พบเห็นน้องเอาผ้ามาปิดจมูกไว้ขณะที่กินนมนอนหลับทราบอีกครั้งจึงรู้ว่าน้องไม่มีลมหายใจแล้ว ซึ่งตนเองไม่เชื่อในสิ่งที่พี่เลี้ยงกล่าวอ้าง และบอกว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

ทางด้าน นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เปิดเผยว่า ในเบื้องต้นทางมูลนิธิฯ ติดต่อไปยังนายวิทัศน์ เตชะบุญ อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน เพื่อให้ช่วยดูเกี่ยวกับเนอสเซอรี่ดังกล่าวแล้ว รวมถึงเนอสเซอรี่ที่มีอยู่ทั่วประเทศ ที่ทั้งถูกกฎหมาย และไม่มีใบอนุญาตว่า อย่างน้อยต้องติดกล้องวงจรปิด เพื่อดูพฤติกรรมของเด็ก และพี่เลี้ยงเด็ก เพื่อป้องกันเหตุฉุกเฉิน ในส่วนของเรื่องคดีนั้น ทางมูลนิธิฯ ได้ประสานไปยัง พ.ต.อ.ประวิทย์ บุญธรรม ผกก.สภ.ปางปู ซึ่งได้รับปากว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เร่งรัดคดีอย่างเต็มที่

แต่ต้องรอผลการตรวจจากแพทย์อย่างละเอียด ถึงจะทราบถึงสาเหตุของการเสียชีวิต ขณะนี้ทางนิติเวช ได้ตัดชิ้นเนื้อไปตรวจสอบ ซึ่งต้องใช้เวลา อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสอบสวนคดี และให้ความเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่ายอย่างตรงไปตรงมา เบื้องต้นทางด้านพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีได้แจ้งข้อหาต่อเจ้าของเนอสเซอรี่ ครูอ้อ และพี่เลี้ยงแล้ว ในข้อหากระทำการโดยประมาท เป็นเหตุทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และหากพบว่าผลการชันสูตรจากนิติเวชรออกมาระบุว่า การเสียชีวิตเกิดจากการกระทำให้ตายนั้น ก็จะแจ้งข้อหาพี่เลี้ยง และเจ้าของเนอสเซอรี่ ครูอ้อ ในข้อหาฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา อีกด้วย
พิชัย ศรีรุ่งเรือง 086-3365387,086-8954333

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน