ศาลจังหวัดเชียงใหม่มีคำสั่งไต่สวนการตายคดี ชัยภูมิ ป่าแส นักกิจกรรมชาติพันธุ์ลาหู่ ที่ถูกทหารยิงเสียชีวิต เมื่อวันที่ 17 มี.ค.60 ที่ผ่านมา โดยไม่ระบุว่าการเสียชีวิตเป็นการกระทำที่ชอบของเจ้าหน้าที่หรือไม่ ด้านญาติเตรียมร้องกองทัพบก จี้เปิดภาพจากกล้องวงจรปิด

วันที่ 6 มิ.ย. ศาลจังหวัดเชียงใหม่นัดฟังคำสั่งไต่สวนคดีการตายของ นายชัยภูมิ ป่าเเส นักกิจกรรมชาติพันธุ์ลาหู่เสียชีวิต ที่ถูกเจ้าหน้าที่ทหารประจำด่านตรวจถาวรบ้านรินหลวง ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ยิงเสียชีวิตเมื่อวันที่ 17 มี.ค.60 ที่ผ่านมา หลังศาลเชียงใหม่ไต่สวนพยาน ไปเมื่อเดือน ก.ย.60 และ มี.ค.61

อ่าน จับตา 6 มิ.ย. ศาลนัดฟังคำสั่งไต่สวนการตาย ‘ชัยภูมิ ป่าแส’ ทนายพ้อไม่เห็นภาพวงจรปิด

นายสุมิตรชัย หัตถสาร ทนายความศูนย์พิทักษ์และฟื้นฟูสิทธิชุมชนท้องถิ่นทีมกฎหมาย ทีมทนายความ กล่าวว่า ศาลมีคำสั่งชี้ว่า ผู้ตายคือ นายชัยภูมิ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 17 มี.ค.60 ถูกยิงจากอาวุธปืนของเจ้าหน้าที่ทหาร และเสียชีวิตบริเวณด่านรินหลวง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ และพูดถึงบาดแผลที่เป็นสาเหตุของการเสียชีวิต ส่วนเรื่องข้อโต้แย้งของญาติที่ไม่เชื่อว่าชัยภูมิมียาเสพติดไว้ในครอบครอง และไม่เชื่อว่าชัยภูมิใช้มีดและระเบิดเพื่อจะทำร้ายเจ้าหน้าที่ ศาลไม่ได้มีคำวินิจฉัยให้ เนื่องจากเห็นว่าคำร้องของการไต่สวนการตายตามประมวลกฎหมายอาญาถือว่าเป็นที่สุด หากมีผลคำสั่งจะมีผลต่อรูปคดีหรือผู้ที่เกี่ยวข้องด้วย ศาลจึงไม่วินิจฉัยเรื่องนี้ให้ ส่วนกระบวนการต่อจากนี้ศาลจะส่งคำไต่สวนทั้งหมดให้กับพนักงานอัยการเพื่อทำสำนวนส่งฟ้องหรือไม่ฟ้องต่อไป ในคดีวิสามัญฆาตกรรม ซึ่งจะเป็นดุลพินิจของพนักงานอัยการว่าจะส่งเรื่องต่อไปยังอัยการสูงสุด หรืออัยการของศาลทหาร

“หลังศาลมีคำสั่งแบบนี้ เข้าใจว่าเป็นการเปิดทางให้มีการสอบสวนเพิ่มเติมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด เรื่องที่บอกว่าเจ้าหน้าที่กระทำโดยชอบหรือไม่ เป็นเรื่องที่ต้องสอบสวนต่อ ซึ่งทนายต้องร่วมกับอัยการเพื่อทำงานต่อ ส่วนพยานสำคัญที่ยังไม่ถูกเปิดเผย เป็นเรื่องที่อัยการ และพนักงานสอบสวนต้องดำเนินการ ตอนนี้เหลือแต่ภาพจากกล้องวงจรปิดที่ทหารไม่ให้ โดยในทางนำสืบยืนยันชัดเจนว่ามีหลักฐานจากกล้องวงจรปิด ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ทหารเห็นแล้ว โดยมีกล้องหนึ่งตัวถ่ายไปที่จุดค้นรถ กองพิสูจน์หลักฐานก็ยืนยันว่ามีการทำสำเนาภาพจากกล้องวงจรปิด เมื่อวันที่ 17 มี.ค.60 ออกไป” นายสุมิตรชัย กล่าว

ด้าน นายรัษฎา มนูรัษฎา อุปนายกสมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน อีกหนึ่งในทีมทนายความ กล่าวว่า คดีชัยภูมิ เป็นคดีที่ประชาชนสนใจ เพราะเป็นคดีที่เจ้าหน้าที่ทหารใช้อาวุธปืนยังชาวบ้าน โดยเฉพาะคนตายเป็นนักเรียนมัธยมที่เรียนดี คนจึงอยากรู้ว่าสาเหตุที่ตายเป็นเพราะอะไร ซึ่งอยู่ในมาตรา 150 เกี่ยวกับเหตุและพฤติการณ์ที่ตาย ผู้ร้องคืออัยการ กล่าวอ้างตามที่ทหารอ้างว่ามีความจำเป็นต้องยิงเพื่อป้องกันตัว การป้องกันตัวทำไปโดยชอบ แต่แม่ของชัยภูมิ มีพยานยืนยันว่าชัยภูมิ ไม่ได้ใช้มีด-ระเบิดทำร้ายทหาร ดังนั้นเป็นเรื่องที่ทหารป้องกันตัวโดยชอบจริงหรือไม่ แต่ศาลไม่ได้วินิจฉัยประเด็นนี้

นายรัษฎา กล่าวต่อว่า จริงๆแล้วมีเรื่องของพยานวัตถุสำคัญคือภาพจากกล้องวงจรปิดที่ด่านรินหลวง ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้ปรากฎในสำนวนคดีที่ไต่สวนในศาล เนื่องจากว่าผลการตรวจพิสูจน์ของเจ้าพนักงานตำรวจรายงานว่า พยานวัตถุที่ทหารส่งมาไม่พบภาพข้อมูลในวันที่ 17 มี.ค.60 ในเวลา 10.00 น. หมายความว่าภาพสำคัญในเหตุการณ์นี้สูญหายไป ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่สำคัญที่ควรเอามาดูกัน เพื่อจะทำให้รู้ว่าความจริงคืออะไร เรื่องนี้ทางญาติและทนายได้ทำหนังสือขอให้อัยการ นำพยานที่เป็นทหาร ที่สอบสวนไว้ในชั้นสอบสวน เข้ามาไต่สวนในศาลในประเด็นที่ว่าได้สำเนาภาพจากกล้องวงจรปิดไว้หรือไม่ เช่นเดียวกับศาลที่เราได้ทำคำร้องขอไปว่าให้เชิญร้อยโทรายหนึ่ง ที่ให้การในชั้นสอบสวนว่าได้ทำสำเนาภาพในวันเกิดเหตุไว้ ให้นำมาประกอบการไต่สวนคดี ซึ่งศาลมีคำสั่งยกคำร้องไป ทำให้ข้อเท็จจริงสำคัญไม่ปรากฎ

“ทนาย และญาติของชัยภูมิได้ปรึกษาหารือกัน โดยมีความเห็นว่าจำเป็นที่ต้องร้องขอให้กองทัพบกที่เป็นหน่วยงานดูแลทหาร ให้เปิดเผยภาพจากกล้องวงจรปิดในวันเกิดเหตุให้สาธารณชนได้รับรู้ เพราะตอนนี้คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารมีความเห็นให้เปิดเผยเรื่องนี้ เพื่อยืนยันในความโปร่งใสของเจ้าหน้าที่ชุดปฎิบัติงานในจุดดังกล่าว” นายรัษฎา กล่าว

ด้านนายไมตรี จำเริญสุขสกุล ประธานกลุ่มรักษ์ลาหู่ ผู้ดูแลชัยภูมิ กล่าวว่า ญาติยังช็อกเมื่อได้ยินผลสรุปของศาล เพราะคิดว่าเรื่องเหล่านี้ไม่ต้องถึงกับต้องมาไต่สวน ชาวบ้านเขารู้หมดแล้วว่าวันนั้นเกิดอะไรขึ้น ขอยืนยันว่าสิ่งที่เราอยากได้คือความยุติธรรม ซึ่งคำตัดสินแบบนี้เรารู้สึกว่าไม่เป็นธรรมกับเรา ที่สำคัญคือข้อกังขา และเป็นข้อสงสัยของพวกเราตลอด 1 ปี คือพวกเราที่เป็นญาติสนิทของชัยภูมิ ไม่มีใครได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดในวันเกิดเหตุเลยว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน