เม จีระนันท์ อดีตนักร้องสาว โร่ร้องแพทยสภาหลังบินทำศัลยกรรมที่รพ.ดังในเกาหลีใต้ ราคา 8 แสนบาท แล้วเลือดไหลไม่หยุด ติดเชื้อในกระแสเลือด นอนรักษาตัวต่อที่รพ.ในไทยนานกว่า 5 เดือน เรียกร้องให้เอเจนซี่และรพ.รับผิดชอบเงิน 60 ล้าน พร้อมขอให้ตรวจสอบคลินิกในไทยที่เป็นสาขาของรพ.ศัลยกรรมดังกล่าวดำเนินการถูกกฎหมายหรือไม่

เม นักร้องสาวยื่นเรื่องร้องเรียนต่อแพทยสภา

ร้องแพทยสภา / จากกรณี เม จีรนันท์ กิจประสาน อดีตนักร้องสาว บินผ่าตัดศัลยกรรมเสริมหน้าอกที่โรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงในเกาหลีใต้ ด้วยราคา 8 แสนบาท แล้วเกิดอาการเลือดไหลไม่หยุด-หนองทะลัก-ติดเชื้อในกระแสเลือด-โอกาสรอด 10 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ต้องนอนรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลในไทยนานกว่า 5 เดือน พร้อมเรียกร้องให้เอเจนซี่และโรงพยาบาลรับผิดชอบเงิน 60 ล้าน ตามที่เสนอข่าวไปนั้น อ่านข่าว ศัลยกรรม ทำนักร้องสาว หวิดดับ เอเจนซี่ แจงแล้ว หลังเรียก 60 ล้าน เม ร่ำไห้ทุกข์ทรมาน(คลิป)

นักร้องสาวขณะรักษาตัว หวิดดับเพราะทำศัลยกรรม

เมื่อวันที่ 2 ส.ค. ที่แพทยสภา น.ส.จีรนันท์ กิจประสาน หรือเม อดีตนักร้องสาว พร้อมทนายความ เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อแพทยสภา หลังได้รับความเสียหายจากการทำศัลยกรรมหน้าอกที่ประเทศเกาหลีใต้ โดยมี นพ.สัมพันธ์ คมฤทธิ์ ที่ปรึกษาแพทยสภาเป็นผู้รับมอบ ก่อนเดินทางไปยื่นเรื่องที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ต่อไป อ่านข่าว ช็อกอดีตนักร้องดังบินทำนมเกาหลี ติดเชื้อในกระแสเลือด เป็นตายเท่ากัน!!

น.ส.จีรนันท์ กล่าวว่า การมายื่นเรื่องร้องเรียนต่อแพทยสภาครั้งนี้ เพื่อขอให้ดำเนินการตรวจสอบคลินิกในเมืองไทย ที่เป็นสาขาของรพ.ศัลยกรรมที่ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งพบว่ามีแพทย์ และพยาบาลชาวเกาหลีเป็นคนดำเนินการ การเข้ามาทำธุรกิจในเมืองไทยเช่นนี้เป็นเรื่องที่ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่

รวมถึงการตรวจสอบเอเจนซี่ด้วยว่าที่อยู่นั้นถูกต้อง เพราะต้องยอมรับว่าในช่วง 2-3 ปี นี้ธุรกิจความงามเติบโตมาก มีคนไทยจำนวนมากที่ไปทำศัลยกรรมที่เกาหลีโดยไม่รู้ว่าต้องเจอกับอะไรบ้าง ซึ่งจริงๆ หลังเคสของตนถูกเปิดเผย ก็มีคนติดต่อผ่านอินบ็อกซ์เข้ามาเยอะมาก บางคนเสียหายเล็กน้อย บางคนเสียโฉมแก้ไขไม่ได้ อ่านข่าว หมอศัลยกรรม เปิดข้อมูลกรณีนักร้องดังผ่าตัดเสริมหน้าอกแล้วติดเชื้อ แนะขั้นตอนรักษา

สำหรับความคืบหน้าคดีความของตนหลังเปิดเผยข้อมูลก็แค่ได้รับเงินค่าทำศัลยกรรมคืน แล้วยังไม่ได้รับการติดต่อ หรือการชี้แจงจากทางรพ.และแพทย์ที่เกาหลีอีกเลย มีเพียงการโพสต์ข้อความของเอเจนซี่เพียงครั้งเดียว ขณะนี้ทีมทนายความนำโดยนายวันชัย สอนศิริ อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลหลักฐานฟ้องร้องต่อไป รวมสัปดาห์หน้าเตรียมไปร้องเรียนที่กระทรวงการท่องเที่ยวให้ตรวจสอบเอเจนซี่ และอาจจะไปร้องกองปราบด้วย อ่านข่าว สาวไทยบินศัลยกรรม รพ.ชื่อดังเกาหลี เกิดพลาด เข้าไอ.ซี.ยู. รพ.ให้หิ้วถุงเลือดบินกลับไทย

น.ส.จีรนันท์ กล่าวต่อว่า สำหรับเอเจนซี่ที่ตนเลือกไปนั้น เขาบอกว่าตัวเขาเป็นเอเจนซี่ที่เปิดอย่างถูกต้องตามกฎหมายที่ประเทศเกาหลี มีเลขที่ประจำตัวผู้เสียภาษี แต่เราตรวจสอบกลับไปไม่พบข้อมูล ที่ผ่านมาพบเคยจัดงานคอนเซาท์ที่ประเทศไทย

ซึ่งจริงๆ เป็นการจัดงานขึ้นเพื่อให้มาปรึกษาเรื่องการทำศัลยกรรม วางเงินมัดจำและนัดหมายเดินทางไปทำศัลยกรรมที่ประเทศเกาหลีจำนวนมาก เดือนละเป็นร้อยคน มีการให้ส่วนลด โปรโมชั่น โฆษณาชวนเชื่อต่างๆ ซึ่งที่ตนเลือกเอเจนซี่นี้ ก็เพราะประกาศตัวว่าทำถูกต้องตามกฎหมาย ดูแลไม่ทอดทิ้งในกรณีที่เกิดปัญหา เหมือนกับที่เกิดขึ้นกับเอเจนซี่เถื่อน

แถมยังเป็นแอมบาสเดอร์ของที่รพ.แห่งนั้นด้วย แต่ในทางปฏิบัติสำหรับตนแล้วการดูแลของเอเจนซี่ดังกล่าว ไม่ได้เป็นไปตามที่โฆษณาหรือให้ความมั่นใจ สุดท้ายแล้วกรณีที่เกิดขึ้นก็ปัดความรับผิดชอบ ซึ่งยอมรับว่าหาข้อมูลน้อย ดูแค่เพจเฟซบุ๊ก ยูทูปเท่านั้น แต่ไม่ได้ศึกษาข้อมูล ผลเสียข้อมูลจากการผ่าตัด

น.ส.จีรนันท์ กล่าวอีกว่า หลังเกิดเรื่องขึ้นทำให้เราหาข้อมูลเพิ่ม ทำให้รู้ว่าจริงๆ แพทย์ไทยเก่งเป็นอันดับต้นๆ ของโลกในเรื่องของการทำศัลยกรรมหน้าอก เพราะฉะนั้นถือเป็นความผิดพลาดของตัวเองที่ศึกษาข้อมูลน้อย จึงอยากฝากถึงคนที่คิดทำศัลยกรรมว่าให้นำกรณีของตนไปเป็นตัวอย่างความผิดพลาดของการตัดสินใจที่ผิดพลาด ต้องหาข้อมูลให้รอบด้าน อย่าดูแค่รีวิวโฆษณาที่เขาคัดเพียงคนที่ทำออกมาแล้วประสบความสำเร็จ

ยอมรับว่าคนทำศัลยกรรมแล้วประสบความสำเร็จจนเปลี่ยนชีวิตของเขาก็มี แต่อีกมุมก็มีหลายคนแล้วเสียหายแก้ไขกลับมาไม่ได้ บางคนเสียโฉม พิการไปตลอด รวมถึงเสียชีวิตด้วย อย่างตนเองก็เกือบจะเอาชีวิตไปทิ้ง และขอให้ศึกษาผลกระทบจากการทำศัลยกรรมเวลามีปัญหาแม้แพทย์ หรือเอเจนซี่จะบอกว่าเป็นเรื่องปกติ แต่หากเรามีความรู้ก็ดูแลตัวเองได้ทัน

ทั้งนี้อยากให้เลือกทำในประเทศไทยเป็นที่แรก เพราะเวลามีปัญหามาแล้วการดูแลหลังผ่าตัดเป็นเรื่องสำคัญมาก แพทย์ เอเจนซี่จรรยาบรรณทางการแพทย์เป็นเรื่องสำคัญ

ด้าน นพ.สัมพันธ์ กล่าวว่า จะนำเรื่องนี้เข้าไปพิจารณาในการประชุมคณะกรรมการจริยธรรมแพทยสภาในสัปดาห์หน้า เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้ง 2 ฝ่าย เพราะจากข้อมูลวันนี้เห็นว่ามี 3 ประเด็นที่สามารถดูแลดำเนินการได้ภายใต้กฎหมายไทย คือ 1.การที่นำแพทย์ต่างชาติเข้ามาให้บริการเมืองไทย ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำไม่ได้ หากทำก็เท่ากับว่าเป็นแพทย์เถื่อน และดูว่าแพทย์ไทยมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยการอนุญาตให้แพทย์ต่างชาติเข้ามาทำหัตถการหรือไม่

2.เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสบส. ที่ต้องไปดูคลินิก สถานบริการว่าได้มาตรฐาน และมีการใช้แพทย์ต่างชาติหรือไม่ และ 3.เรื่องที่เกี่ยวข้องกับสภาการพยาบาล เกี่ยวกับเรื่องการนำพยาบาลต่างชาติเข้ามา ทั้งหมดนี้ก็ต้องมาดูก่อนว่าจริงหรือไม่ โดยรับฟังทั้ง 2 ฝ่าย ส่วนเรื่องของเอเจนซี่นั้น ก็นับเป็นปัญหามากที่สคบ.ต้องเป็นคนดูแล แต่ยังไม่ทราบว่าทางสคบ.จะดำเนินการเรื่องนี้ อย่างไร

“วันนี้เรื่องเอเจนซี่มีปัญหามาก ที่มีการโฆษณาชวนเชื่อต่างๆ อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องยากที่จะคุมกำเนิดเอเจนซี่ แต่อย่างน้อยควรทำให้ถูกกฎหมาย ซึ่งตนอยากเสนอให้ออกกฎหมายที่ควบคุมมาตรฐาน เอเจนซี่ทางการแพทย์ เหมือนที่พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธ์ทางการแพทย์ ออกมาเขียนชัดเจนเรื่องเอเจนซี่ แต่ก็ไม่ได้ครอบคลุมเอเจนซี่ทางการแพทย์ทั้งหมด” นพ.สัมพันธ์ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน