สาว ร้องไม่รับความเป็นธรรม หลังถูกหนุ่มบีบคอ จับหัวกดน้ำ พยายามข่มขืนกลางทุ่งนา หลังตำรวจจับตัวได้แต่ดำเนินคดีเพียงข้อหาสารระเหยเท่านั้น ด้าน เจ้าของคดี ยันทำคดีตรงไปตรงมา พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มแล้ว

ข่มขืน / เมื่อวันที่ 8 ส.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องทุกข์จากสาวคนหนึ่ง (ขอสงวนชื่อนามสกุล) ในพื้นที่ต.ดอนแรด อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ ว่าถูกชายหมู่บ้านใกล้กันก่อเหตุปลุกปล้ำหวังข่มขืน ขณะออกไปซ่่อมปักดำต้นกล้าข้าวกลางทุ่งนาคนเดียว โดยที่เกิดเหตุอยู่ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 1 กิโลเมตร หลังเกิดเหตุได้เข้าแจ้งความที่ สภ.ดอนแรด อ.รัตนบุรี เพื่อติดตามจับตัวและดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ ซึ่งการที่ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวในวันนี้ เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม

สาวร้องสื่อคดีถูกโจรพยายามข่มขืนไม่คืบหน้า

หลังทราบเรื่องจึงลงพื้นที่ไปพบผู้เสียหาย เพื่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น เมื่อไปถึงพบบรรดาญาติๆและสามีของผู้เสียหายกำลังนั่งปรึกษากันเรื่องดังกล่าวอยู่ โดยสาวผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา ตนขับรถจักรยานยนต์ไปที่นาของตนเพื่อซ่อมข้าวในนา โดยพบผู้ก่อเหตุนั่งอยู่ก่อนแล้ว จากนั้น ผู้ก่อเหตุก็เข้ามาถามตนว่า “น้ามาทำอะไร” ตนจึงตอบไปว่ามาเก็บหญ้าออกจากนาข้าว ซึ่งขณะนั้นตนได้กลิ่นกาวเหม็นออกมา จึงคิดว่าผู้ชายคนนี้อาจไม่ได้มาดีแน่

สาวผู้เสียหาย กล่าวต่อว่า ตนจึงเดินหนีมากลางนา ก่อนที่คนร้ายจะวิ่งตามหลังมาแล้วจับตนเหวี่ยงลง และกดคอตนกดน้ำ โดยคนร้ายขู่ตลอดว่า “จะฆ่ามึงนะ มึงจะให้กูไหม” ซึ่งตนพูดไม่ได้เพราะปากและหน้ายังจมอยู่ในน้ำ ซึ่งพยายามดันหัวขึ้นมาจากน้ำเพื่อเรียกคนช่วยและหายใจ แต่ก็โดนกดลงไปอีก จึงได้แต่พยายามดิ้นเพื่อเอาชีวิตรอด

“คนร้ายบังคับให้ถอดกางเกงออก ตนก็ได้แต่ดิ้น คนร้ายจึงถอดกางเกงตนออก แล้วดึงเสื้อตนขึ้น แล้วก็ก้มกัดไปที่บริเวณหน้าอก จากนั้น คนร้ายได้ถอดกางเกงออก และพยายามจะข่มขืนตน แต่เกิดอะไรขึ้นก็ไม่รู้จู่ๆ คนร้ายได้ลุกแล้วเดินหนีไป” สาวผู้เสียหาย กล่าว

ครอบครัวผู้เสียหายเดินทางมาทวงถามความคืบหน้าทางคดี

สาว กล่าวอีกว่า เมื่อตนได้สติก็ลุกขึ้นมาหากางเกงใส่ ซึ่งตอนที่คนร้ายหนีไปนั้น พบว่ามีคนเดินผ่านมาพอดี จึงได้เรียกเพื่อขอความช่วยเหลือ เพราะกลัวว่าคนร้ายจะย้อนกลับมาอีก เมื่อถึงบ้านจึงได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้แม่และพี่น้องฟัง รวมถึงผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านด้วย ก่อนจะพากันขับรถไปติดตามตัวคนร้ายที่บ้านโนนทราย ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่อยู่ใกล้กัน ซึ่งมีคนพบเห็นคนร้ายวิ่งผ่านมา แต่ก็ไม่เจอตัว จึงเดินทางไปแจ้งความไว้ดังกล่าว

ผู้เสียหาย กล่าวด้วยว่า ต่อมาเมื่อวันที่ 22 ก.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจได้เรียกตนไปสอบปากคำ ซึ่งขณะนั้นผู้ต้องหาได้ถูกดำเนินคดีแล้ว แต่ในข้อหาสารระเหย ซึ่งทำให้ตนรู้สึกงงมาก โดยผู้ต้องหาถูกนำตัวไปคุมขังที่ทัณฑสถานโคกตะบัน ดังนั้น ตนจึงอยากให้ตำรวจให้ความกระจ่างในการดำเนินคดีกับคนร้ายที่ก่อเหตุให้ถึงที่สุด เพราะจะได้ไม่ไปกระทำกับคนอื่นอีก

ต่อมาที่ สภ.ดอนแรด ร.ต.อ.วิษณุ ศรีทะโร รว.(สอบสวน) เจ้าของคดี กล่าวว่า คดีนี้พนักงานสอบสวนยืนยันว่าดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา ไม่ได้ล่าช้าแต่อย่างใด ยืนยันคดีนี้ไม่ได้นานถึง 3 เดือน ตามที่มีกระแสข่าวออกไป แต่เกิดขึ้นเมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา เวลาผ่านไปยังไม่ถึงเดือน หลังจากผู้เสียหายมาแจ้งความก็ได้ติดตามจับกุมคนร้ายได้เมื่อวันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา แต่จับกุมในข้อหาสารระเหย และควบคุมตัวไปฝังขังยังสถานที่บำบัด ทัณฑสถานโคกตะบัน

ร.ต.อ.วิษณุ กล่าวต่อว่า ส่วนคดีที่ผู้เสียหายบอกว่าล่าช้า ตนพยายามรวบรวมพยานหลักฐานให้ได้มากที่สุด และก็ได้อายัดตัวผู้ต้องหาและแจ้งข้อหาเพิ่มแล้วขณะนี้ ในข้อหาใช้กำลังกระทำการอนาจาร ทำร้ายร่างกายโดยการขู่เข็นเป็นการข่มขืนใจ ซึ่งหากพ้นโทษจากการเข้าบำบัด ก็จะอายัดตัวดำเนินคดีต่อเลย ซึ่งตำรวจทำงานอย่างเต็มที่ขอให้ผู้เสียหายสบายใจได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน