จับแล้ว 3 คนทีมพาเสี่ยอ้วนหนีซุกเขมร เป็นพ่อลูกกันบอกนึกว่าจะไปเล่นการพนัน มารู้ตัวอีกทีตอนเสี่ยอ้วนคุยมือถือว่ากำลังหลบหนีและรับว่าเป็นคนยิง ล่าสุดศาลจังหวัดพัทยาตัดสินจำคุก 6 เดือน

จากจากคดีสะเทือนขวัญ คนร้ายกระหน่ำยิง น.ส.ปวีณา หรือสปาย นาเมืองรักษ์ อายุ 20 ปี และ นายอนันตชัย หรือฟอส จริตรัมย์ อายุ 20 ปี อย่างโหดเหี้ยมเสียชีวิตคู่กันบริเวณลานจอดรถฝั่งตรงข้ามพระพุทธรูปแกะสลักหน้าผาเข้าชีจรรย์ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาตำรวจออกหมายจับนายปัญญา ยิ่งดัง หรือเสี่ยอ้วน และสามารถจับกุมตัวได้บริเวณชายแดนประเทศกัมพูชา ขณะเตรียมหลบหนีไปประเทศเวียดนาม อ่านข่าว ยังไม่ส่งตัว‘เสี่ยอ้วน’ให้ไทย ผบ.ตร.แจงติดขั้นตอนของกัมพูชา เตรียมแถลงพรุ่งนี้

รถกระบะของนายโกวัน ที่พาเสี่ยอ้วนหลบหนี

จับทีมพาเสี่ยอ้วนหนี/เมื่อวันที่ 17 ส.ค. ที่สภ.นาจอมเทียน ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทหาร กัมพูชา สามารถจับกุมนายปัญญา ยิ่งดัง หรือ เสี่ยอ้วน อายุ 39 ปี หัวหน้าแก๊งทีมสังหาร และมือปืน ที่หลบหนีเข้าประเทศ โดยผิดกฎหมาย อ่านข่าว แฉอีก! ‘เสี่ยอ้วน’ จ้างคนเขมรพาหนีไปเวียดนาม ‘บิ๊กตร.’ เผยไม่เกิน 2วันได้ตัวแน่

ภายในรถ

ล่าสุดจะพลัดดันกลับประเทศไทย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยไปรอรับตัวด่านชายแดนจังหวัดสระแก้ว ตามหมายจับศาลจังหวัดพัทยา ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน, พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต อ่านข่าว แม่ ‘เสี่ยอ้วน’ เข้าโรงพยาบาล! เครียดหนัก กลัวลูกชาย ‘โดนโทษประหาร’

ก่อนจะนำตัวมาสอบสวนยัง สภ.นาจอมเทียน และเตรียมทำแผนการสังหารน.ส.ปวีณา นาเมืองรักษ์ อายุ 20 ปี และนายอนันตชัย จริตรัมย์ อายุ 21 ปี บริเวณลานจอดรถ หน้าพระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์ ม.6 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อช่วงเวลา 16.20 น. ของวันที่ 29 ก.ค ที่ผ่านมา

โดยบรรยากาศ ช่วงเวลา 10.30 น. พ.ต.อ.อาทร ชิ้นมาก ผกก.สภ.นาจอมเทียน นำตัว นายภูธร สิงห์ดี อายุ 28 ปี ชาวอ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว หลังเป็นคนพานายปัญญา ยิ่งดัง หรือ เสี่ยอ้วน อายุ 39 ปี หลบหนีข้ามชายแดนไป

โดยได้รับเงินค่าจ้าง 100,000 บาท ตามหมายศาลจังหวัดพัทยา ในข้อหาร่วมกันช่วยผู้อื่น ซึ่งเป็นผู้กระทำผิดหรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิด อันมิใช้ความผิดลหุโทษ เพื่อไม่ให้ต้องโทษ โดยพำนักแก่ผู้นั่นโดยซ่อนเร้นหรือโดยช่วยผู้นั่นด้วยประการใดเพื่อไม่ให้ถูกจับกุม หลังจับกุมได้ที่บ้านในจังหวัดสระแก้ว ส่งฝากขังศาลจังหวัดพัทยา

ต่อมาเวลา 13.00 น. นายประดิพัทธ์ อักษราพงษ์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 10 ต.สระแก้ว อ.สระแก้ว จ.สระแก้ว เดินทางมาเยี่ยมและจะใช้ตำแหน่งประกันตัว นายโกวัน หรือวัน ศิลปาโน และนายวินัย หรือ เหน่ง ศิลปาโน ผู้ช่วยเหลือพาเสี่ยอ้วนหลบหนีจากประเทศไทย

โดยพาไปให้รู้จักกับนายภูธรก่อนจะพาหลบหนีออกไปทางชายแดนด้าน อ.คลองหาด จ.สระแก้ว แล้วมีชาวกัมพูชาชื่อเลียงมารับตัวข้ามฝั่งไปในเขตกัมพูชา แต่ไม่ทันเจ้าหน้าที่ส่งฝากขังไปแล้ว

ล่าสุดศาลจังหวัดพัทยา ตัดสินนายโกวัน หรือวัน ศิลปาโน อายุ 63 ปี ผู้เป็นพ่อ และนายวินัย หรือ เหน่ง ศิลปาโน อายุ 39 ปี ลูกชาย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพัทยาในข้อหาร่วมกันช่วยผู้อื่น ซึ่งเป็นผู้กระทำผิดหรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิด อันมิใช้ความผิดลหุโทษ เพื่อไม่ให้ต้องโทษ โดยพำนักแก่ผู้นั่นโดยซ่อนเร้นหรือโดยช่วยผู้นั่นด้วยประการใดเพื่อไม่ให้ถูกจับกุมจำคุก จำนวน 6 เดือน ไม่รอลงอาญา นำตัวขังยังเรือนจำพิเศษพัทยา

นายประดิพัทธ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ นายโกวันบอกตนเองว่านายเกียรติศักดิ์ หรือบอนด์ สุรางค์แสงมีบุญ ซึ่งเป็นหลานชายเดินทางมาที่บ้านในจังหวัดสระแก้ว พร้อมกับนายปัญญา และบอกว่าขอให้พานายปัญญาข้ามไปที่กาสิโน ฝั่งประเทศกัมพูชา

โดยอ้างว่านายปัญญา อยากเล่นการพนันมาก นายโกวันและนายวินัย จึงขับรถกระบะ ยี่ห้อนิสสัน ไปส่งนายปัญญาที่ชายแดนประเทศกัมพูชา ซึ่งระหว่างนั้นนายโกดังได้ยินนายปัญญาคุยโทรศัพท์กับใครบางคน และพูดขึ้นมาในลักษณะว่า กำลังอยู่ระหว่างการหลบหนี และเป็นคนลงมือยิงเอง

ขณะนั้นทั้งนายโกวันและนายวินัยรู้สึกตกใจ แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ และเมื่อถึงชายแดนก็ไม่สามารถข้ามไปได้ เนื่องจากนายปัญญาไม่มีเอกสารการข้ามแดน จึงพาไปส่งให้กับนายภูธร สิงห์ดี หรือน้อย ซึ่งมีภรรยาและคนรู้จักอยู่ที่ประเทศกัมพูชาให้เป็นคนดำเนินการต่อให้ และนายภูธรก็ใช้รถยนต์ ยี่ห้อมาสด้า เป็นยานพาหนะข้ามไปยังประเทศกัมพูชาสำเร็จ

นายประดิพัทธ์ กล่าวต่อว่า จากนั้นวันรุ่งขึ้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เข้าจับกุมนายเกียรติศักดิ์ ซึ่งขณะเดียวกันนายโกวันเริ่มรู้สึกกระวนกระวาย จึงมาปรึกษาตนเองว่าหากมีคนพาผู้ต้องหาหลบหนีจะต้องมีความผิดใดบ้าง แต่ไม่ได้บอกว่าตนเป็นคนพาหลบหนี จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจขยายผล

จากการสอบปากคำของ นายเกียรติศักดิ์ทำให้ทราบว่า นายโกวันและนายวินัยมีส่วนร่วมในการพานายปัญญาหลบหนี จึงสามารถเข้าจับกุมได้ นอกจากนี้ ญาติของนายเกียรติศักดิ์ที่มีโอกาสเข้าเยี่ยมที่เรือนจำ เล่าให้ตนฟังว่า นายเกียรติศักดิ์ร้องไห้ด้วยความเสียใจ และฝากฝังให้ดูแลครอบครัวของนายเกียรติศักดิ์ด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายโกวันและนายวินัย ถูกดำเนินคดีในความผิดช่วยเหลือผู้ต้องหาให้พ้นจากการจับกุม ซึ่งศาลตัดสินให้จำคุกเป็นเวลา 6 เดือน

พ.ต.อ.อาทร ชิ้นทอง ผกก.สภ.นาจอมเทียน กล่าวว่า ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ที่พาเสี่ยอ้วนหลบหนี ได้รับสารภาพ ว่าเป็นคนพาหลบหนีจริง ตอนนี้ส่งฝากขังศาลจังหวัดพัทยาหมดแล้ว

เบื้องต้นสั่งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมตัวรับเสี่ยอ้วน ที่กำลังจะข้ามชายแดนมา และจะเตรียมพร้อมนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ส่วนเรื่องสำนวนตอนนี้เรียบร้อยหมดแล้ว เหลือเพียงเสี่ยอ้วนถ้าได้ตัวมาก็จะรีบนำตัวมาสอบสวน เพื่อส่งฝากขังต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน