‘บิ๊กแป๊ะ’ กำชับคดีอดีตผู้การเลย-ผกก. ฟันทั้งอาญา-วินัย ย้ำรวดเร็วเป็นธรรม รองโฆษก ตร. เผย มีหลักฐาน ทำเป็นขบวนการ พบเสียหาย600ล้าน

อ่านข่าว / ตร.ให้ออก – ฟันวินัย ‘อดีตผบก.เลย-ผกก.’ คดีเงินลูกน้อง 229 ล้าน

จากกรณีกรณีพล.ต.ต.สุทิพย์ ผลิตกุศลธัช รองผบช.สกพ. อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเลย(ผบก.ภ.จ.เลย) ถูกกล่าวหาทุจริต โครงการรวมหนี้และบริหารหนี้ของสหกรณ์ออมทรัพย์ ภ.จว.เลย โดยมีผู้เสียหายที่เป็นข้าราชการตำรวจ ในสังกัด ภ.จว.เลย ทั้งหมด 192 นาย มูลค่าความเสียหาย 229 ล้านบาท

ล่าสุดพนักงานสอบสวน ของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค4 (บช.ภ.4) ดำเนินคดี ร่วมกันฐานฉ้อโกงประชาชน ขณะที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) มีคำสั่งให้ พล.ต.ต.สุทิพย์ และพ.ต.อ.เฉลิม ยอดปทุม ผู้กำกับการอำนวยการ กองบังคับการอำนวยการ ภ.จว.หนองบัวลำภู

ที่ถูกกล่าวหาร่วมกันก่อเหตุดังกล่าวให้ออกจากราชการไว้ก่อน พร้อมตั้งกรรมการสอบสวน เอาผิดวินัยร้ายแรง ภายหลังเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พล.ต.ต.สุทิพย์ เข้ารายงานตัวต้องคดีอาญาที่สำนักงานกำลังพลจากกรณีดังกล่าว

ต่อมาเมื่อวันที่ 20 ส.ค. พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยว่า กรณีพล.ต.ต.สุทิพย์ และ พ.ต.อ.เฉลิมพล จากการรวบรวมพยานหลักฐาน มีพยานหลักฐานเพียงพอรับฟังได้ว่า กระทำผิดตามข้อกล่าวหา ซึ่งได้มาพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก

จากการสอบสวนให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา จากการสอบสวนและสืบสวนเส้นทางการเงินแล้ว พฤติการณ์ทางคดีเป็นการกระทำผิดเป็นเครือข่ายเชื่อมโยงไปยังผู้กระทำความผิดอื่นๆคดีอื่นๆ ในจังหวัดหนองบัวลำภูและจังหวัดขอนแก่น

ซึ่งมีผู้เสียหายรวมกันแล้วจำนวนมากกว่า 200 ราย และรวมความเสียหายประมาณ 600 ล้านบาท พนักงานสอบสวนสอบพยานไปแล้วกว่า 200 ปาก ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า เป็นคดีที่เกี่ยวพันกัน มีผู้ร่วมกระทำความผิดเป็นกลุ่มเดียวกัน จึงได้มีคำสั่งให้รวมคดีของจังหวัดเลย กับคดีของจังหวัดหนองบัวลำภูและจังหวัดขอนแก่นเข้าด้วยกัน

ทางคดีมีพยานหลักฐานพอฟ้องผู้ต้องหา ข้อหาร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ตาม พระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 มาตรา 4 มาตรา 5 และมาตรา 12 จากพฤติการณ์ดังกล่าวมีมูลกระทำความผิดวินัยอย่างร้ายแรง พยานเอกสารมีมูลเพียงพอ

จึงมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง โดยไม่ต้องสืบสวนข้อเท็จจริง โดยมอบหมายให้ พล.ต.ต.พลศักดิ์ บรรจงศิริ รองจเรตำรวจ เป็นประธานกรรมการ ประกอบกับ มีคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ พล.ต.ต.สุทิพย์ และ พ.ต.อ.เฉลิมพล ออกจากราชการไว้ก่อน

พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวอีกว่า ทั้งนี้คดีดังกล่าวมีความคืบหน้าไปมาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับในส่วนของการดำเนินการทั้งทางอาญา และวินัย ให้ดำเนินการด้วยความรวดเร็ว โปร่งใส

สำหรับการแก้ไขปัญหาสมาชิกสหกรณ์ที่ได้รับความเดือดร้อนทางผู้บังคับบัญชา ได้มีการตกลงกับสถาบันการเงินหรือธนาคารเจ้าหนี้ เพื่อขอผ่อนพันการชำระหนี้ และในส่วนของสหกรณ์เลย ได้ขยายวงเงินกู้ฉุกเฉินเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นต้นก่อน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน