ตร.ขอผลตรวจร่างกายของน.ส.เอที่ระบุว่าถูกร่างทรงฤาษีตาไฟข่มขืน ถึงมือพนักงานสอบสวนแล้ว ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ ยันให้ความเป็นธรรมทุกฝ่ายตามพยานหลักฐานในสำนวนคดี
แฟ้มภาพ ฤาษีตาไฟเข้ามอบตัว
จากกรณีที่นายสุรสิทธิ์ พลศักดิ์ อายุ 40 ปี ชาวบ้านละทาย จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นร่างทรงฤาษีตาไฟ ถูกพ่อและแม่ของ น.ส.เอ อายุ 17 ปี แจ้งความที่สภ.เมืองศรีสะเกษว่า ได้ล่อลวง น.ส.เอ ไปข่มขืนกระทำชำเราที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งในจ.ศรีสะเกษ เหตุเกิดระหว่างวันที่ 26-27 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งตร.ตั้งข้อหาหนักคือ พรากผู้เยาว์และข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุกิน 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี ดำเนินคดีตามกฎหมาย ล่าสุดนายสุรสิทธิ์ ยอมรับว่ามีเพศสัมพันธ์กับน.ส.เอจริง ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น อ่านข่าว ฤาษีตาไฟบริสุทธิ์! พ่อจ้างทนายสู้คดีขืนใจสาว17 เชื่อมีวิญญาณเจ้าอาวาสวัดในร่าง (คลิป)
ความคืบหน้า เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 6 ก.ย. ที่สภ.เมืองศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ขณะนี้ทีมพนักงานสอบสวนของคดีนี้ ภายใต้การควบคุมดูแลของ พ.ต.อ.วันปิติ พฤทธิกุล ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ กำลังเร่งดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานเกี่ยวกับคดีนี้อย่างละเอียดรอบคอบ โดยพนักงานสอบสวนเรียกขอเอกสารหลักฐานจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำมาใช้ในการประกอบสำนวนดำเนินคดี
อ่านข่าว หนุ่มพิการอ้างเป็น ฤาษีตาไฟ มอบตัว ปัดข่มขืนสาว 17 ชี้ร่างกายแบบนี้จะเอาใครได้
อ่านข่าว ชายพิการ อ้างเป็นฤาษีตาไฟ ยอมสารภาพมีเซ็กซ์สาว 17 อ้างไม่ได้เริ่ม!
โดยล่าสุดขอหลักฐานการตรวจร่องรอยการที่น.ส.เอ ถูกข่มขืนจากโรงพยาบาลภูสิงห์ ซึ่งทางโรงพยาบาลภูสิงห์ จัดส่งหลักฐานมาให้พนักงานสอบสวนคดีนี้เรียบร้อยแล้ว
ขณะเดียวกันพนักงานสอบสวน ได้ติดต่อกับนายทวี ซึ่งเป็นผู้ที่ขับรถยนต์พานายสุรสิทธิ์และน.ส.เอ สาว 17 ปี มาทำพิธีสะเดาะเคราะห์ ที่รีสอร์ต จนกระทั่งเกิดเหตุข่มขืนน.ส.เอ เพื่อมาสอบปากคำหาข้อเท็จจริง โดยคาดว่าจะมาพบพนักงานสอบสวนในช่วงบ่ายของวันนี้
พ.ต.อ.วันปิติ กล่าวว่า ตนควบคุมดูแลในการรวบรวมพยานหลักฐานของคดีนี้อย่างเต็มที่ เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องตามพยานหลักฐานที่ปรากฏ ในสำนวนคดีอย่างเต็มที่
ส่วนการที่มีข่าวว่านายสุรสิทธิ์ ให้ข่าวกับสื่อมวลชนว่า มีเพศสัมพันธ์กับน.ส.เอ นั้น เป็นเรื่องที่เป็นข่าว ตนจะยึดเอาตามคำให้การของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในสำนวนการสอบสวนเท่านั้น ใครให้การว่าอย่างไร ก็จะดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายไปตามนั้น เพราะว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ไม่มีใครที่จะไปแก้ไขได้ ผิดถูกว่ากันไปตามกฎหมาย
