‘บิ๊กโจ๊ก’ แถลงจับนักค้ายา-ฟอกเงิน ชาวศรีลังกา หนีหมายแดงตำรวจอินเตอร์โพล แฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยวเข้ามากบดานในไทยนาน 5 ปี กาอนศรีลังกาประสานรวบตัวได้

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 8 ก.ย. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษณ์ ผบก.สปพ. พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.สปพ. พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก. ทท.1 บช.ทท. พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบก.ทท.2 ร่วมกับเจ้าหน้าที่งานสายตรวจ 1 กก.สายตรวจ เจ้าหน้าที่ตำวรจท่องเที่ยว และตำรวจตรวจคนเข้าเมือง

ตร.เค้นสอบ นายซาลิยา เปรรา

ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายซาลิยา เปรรา วิลลาอรัชเชียก ผู้ต้องหาตามหมายจับ (RED Notice) ของ INTERPOL และประเทศศรีลังกา เลขที่ A-2264/3-2015

โดยผู้ต้องหารายนี้หลบหนีคดีค้ายาเสพติดออกจากประเทศศรีลังกามากว่า 4 ปี โดยใช้วีซ่านักท่องเที่ยวหลบหนีเข้ามาอยู่ในประเทศไทย โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่ง ในซอยสาธุประดิษฐ์ 19 แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา จึงนำตัวมาสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย เพื่อพิจารณาเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรต่อไป

รอง ผบช.ทท. กล่าวว่า ตามที่ประเทศศรีลังกาประสานความร่วมมือไปยังอินเตอร์โพลในการติดตามจับกุมตัวนายซาลิยา ผู้ต้องหาตามคดีค้ายาและฟอกเงิน จึงได้ตรวจสอบและติดตามตัวจนกระทั่งวันที่ 6 ก.ย. ที่ผ่านมา พล.ต.อ.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. ผอ. (ศปอส.ตร.) พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงศ์ปิ่น ผบช.สตม. พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี ผบช.ทท.

สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามสืบตัวจนพบนายซาลิยา จึงทราบว่านายซาลิยา ใช้วีซ่าท่องเที่ยวเข้ามาอยู่ในประเทศไทยตั้งแต่ปลายปี 2556 จนเมื่อปี 2559 ตนทราบว่าถูกหมายจับตามอินเตอร์โพล จึงไม่ได้ไปต่อวีซ่าอีก

“การกระทำดังกล่าวมีความผิดตามลักษณะบุคคลต้องห้าม ของพ.ร.บ.คนเข้าเมืองปี 2522 มาตรา 12(7) จึงส่งตัวไปยัง กองกำกับการ 3 บก.สตม. เพื่อพิจารณาเพิกถอนการอนุญาตอยู่ในราชอาณาจักรและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ก่อนการแถลงข่าวผมพบกับเอกอัครทูตของศรีลังกา ซึ่งให้การชื่นชมเราอย่างมาก ทั้งนี้ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและฟอกเงินในศรีลังกามีโทษรุนแรงมากถึงจำคุกตลอดชีวิต ตอนนี้ตำรวจทั่วทั้งโลกได้ประสานความร่วมมือกันอย่างไร้รอยต่อ ตามที่เคยได้กล่าวไว้ ทั้งคดีเกาะเต่าและอื่นๆ” พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าว

นอกจากนี้ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท.1 พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.สปพ. พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบก.ทท.2 ร่วมกันแถลงจับกุมน.ส.อภิสรา หรือนุ้ย กล่ำแสง อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66/12 ม.10 ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ในข้อหา “ร่วมกันค้ามนุษย์ โดยแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณีฯ ซึ่งกระทำแก่บุคคลอายุไม่เกิน 15 ปี และกระทำแก่บุคคลอายุเกิน 15 ปี แต่ไม่ถึง 18 ปี” โดยจับกุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม ดำเนินคดี

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 7 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้รับการแจ้งเบาะแสข้อมูลจากช่องทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ได้แจ้งข้อมูลว่ามีการลักลอบค้าประเวณีในลักษณะเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) ร่วมกับสน.ท่าข้าม สืบสวนจับกุมและสามารถช่วยเหลือเด็กหญิงไทย จำนวน 2 ราย อายุ 14 ปี และ 17 ปี

จากการตรวจสอบพบว่าทั้ง 2 รายเป็นเหยื่อจากการค้ามนุษย์ ส่วนน.ส.อภิสรา (ผู้ต้องหา) ให้การรับสารภาพว่าร่วมกับนายเอ็กซ์ และน.ส.ขิงไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง นำเด็กหญิงทั้ง 2 รายมาส่งให้บริการกับผู้ที่มีความต้องการทางเพศตามจุดที่มีการนัดหมายไว้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน