แฉ 4 ปี คดีค้าไม้-ล่าสัตว์ป่า ทำประเทศไทยเสียหายกว่า 1 แสนล้านบาท

คดีค้าไม้-ล่าสัตว์ป่า – เมื่อวันที่ 20 ก.ย. ที่กรมป่าไม้ พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) เป็นประธานประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่าแห่งชาติ (คปป.) โดยมีวาระสำคัญหลายประเด็น เช่น การกำหนดมาตรการควบคุมการบรรจุสินค้าขาออก การตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์ รวมถึงการดำเนินคดี และกำหนดบทลงโทษตัวแทนผู้ส่งออก

พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.)

พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.)

เพื่อแก้ปัญหาการลักลอบส่งออกไม้มีค่าผิดกฎหมาย เพราะตัวแทนผู้ส่งออกมักปฏิเสธการรับผิดชอบ อ้างว่าไม่รู้เห็นกับการขนไม้มีค่าส่งออกต่างประเทศ การกำหนดมาตรการป้องกันไม่ให้มีการตัดไม้ และสกัดกั้นการเคลื่อนย้ายไม้ในพื้นที่รับผิดชอบของกรมไม้ กรมอุทยานแห่งชาติฯ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง(ทช.) ที่ยังมีปัญหการลักลอบตัดไม้มีค่า เช่น จ.แพร่ น่าน ลำปาง กระบี่

โดยจะจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า(ศปก.พป.) ส่วนหน้า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว เป็นต้น

พล.อ.สุรศักดิ์ เปิดเผยหลังประชุมว่า ที่ประชุมได้สรุปภาพรวมผลการปฏิบัติงาน ทส.ตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปัจจุบัน ปรากฏว่า สามารถดำเนินคดีได้ 59,013 คดี ผู้ต้องหา 23,975 คน ตรวจยึดพื้นที่ 726,366 ไร่ ตรวจยึดไม้แปรรูป 1,321,324 ท่อน/แผ่น/เหลี่ยม ปริมาตร 63,061 ลูกบาศก์เมตร ตรวจยึดสัตว์ป่า 3,012 ตัว ซากสัตว์ป่า 10,352 ซาก และอีก 19,379.59 กิโลกรัม มูลค่าความเสียหาย 92,885 ล้านบาท

ยึดไม้เถื่อน

ยึดไม้เถื่อน

แบ่งเป็นกรมป่าไม้ สามารถดำเนินคดีจำนวน 33,888 คดี ได้ผู้ต้องหา 11,361 คน ตรวจยึดพื้นที่ป่า 529,636 ไร่ ตรวจยึดไม้แปรรูป 1,111,845 ท่อน/แผ่น/เหลี่ยม ปริมาตร 48,420 ลูกบาศก์เมตร กรมอุทยานฯ สมามารถดำเนินคดีได้ 24,060 คดี ได้ผู้ต้องหา 12,228 คน ตรวจยึดพื้นที่ป่า 150,061 ไร่ ตรวจยึดไม้แปรรูป 204,027 ท่อน/แผ่น/เหลี่ยม ปริมาตร 14,550 ลูกบาศก์เมตร

ตรวจยึดสัตว์ป่า 3,012 ตัว ตรวจยึดซากสัตว์ป่า 10,352 ซาก ตรวจยึดซากสัตว์ป่า 19,379.59 กิโลกรัม และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ดำเนินคดี 1,110 คดี ได้ผู้ต้องหา 386 คนตรวจยึดพื้นที่ 46,670 ไร่ ตรวจยึดไม้แปรรูป 5,452 ท่อน/แผ่น/เหลี่ยม ปริมาตร 90.78 ลูกบาศก์เมตร

ถือเป็นที่น่าพอใจ จากนี้ยังคงเดินหน้าขยายผลคดีต่างๆ เพื่อสืบหาตัวการใหญ่ และผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด

ด้านนายอรรถพล เจริญชันษา รองอธิบดีกรมป่าไม้ ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า(ศปก.พป.) เปิดเผยหลังประชุมว่า ศปก.พป. เดินหน้าบังคับใช้กฎหมายกับกลุ่มนายทุน ผู้มีอิทธิพล ข้าราชการของรัฐ ที่กระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า โดยเฉพาะคดีรายใหญ่ การทลายขบวนการค้าไม้ข้ามชาติเครือข่ายนางมู่หลาน

ไม้เถื่อนแก๊งมู่หลาน

ไม้เถื่อนแก๊งมู่หลาน

ตั้งแต่การทลายโกดังเลขที่ 545 ซอยรุ่งโรจน์ ต.แพรกษาใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ตรวจสอบพบไม้ชิงชัน ไม้พะยูง และไม้ประดู่กว่า 400 ท่อนเหลี่ยม พร้อมจับกุมคนงานชาวเมียร์มา 3 คน อีก 1 คนเป็นนายทุนชาวจีน ขณะกำลังขนไม้บรรจุตู้คอนเทรนเนอร์ เตรียมส่งออกนอกประเทศ คนงานชาวเมียร์มาและนายทุนชาวจีน ให้การซักทอดหนึ่งในตัวการสำคัญ คือ น.ส.ชลิดา สุพันธมาส หรือในวงชื่อค้าไม้เถื่อนรู้จักในนาม เจ้มู่หลาน

ขณะนี้ยังคงหลบหนีหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรปราการตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2561 เคยถูกจับกุมคดีไม้พะยูงกว่า 1,700 ท่อนในปี 2555 แต่ขณะนั้นอัยการสั่งไม่ฟ้อง และพบข้อมูลเชื่อมโยงคดีไม้มีค่าในหลายพื้นที่ ทั้งคดีเทไม้หน้าหน่วยป่าไม้ที่เชียงแสน จ.เชียงราย คดีไม้ที่ จ.สุรินทร์ สมุทรปราการ และที่โกดัง จ.ชัยนาท

เสือดำ ถูกล่าจนกลายเป็นคดีที่โด่งดัง

เสือดำ ถูกล่าจนกลายเป็นคดีที่โด่งดัง

รองอธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวต่อว่า จากการขยายผลเจ้าหน้าที่พบข้อมูลว่า โรงงานแปรรูปไม้หลายแห่งใน จ.สุรินทร์ มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มขบวนการของ “มู่หลาน” ที่ อ.กาบเชิง อ.บัวเชด ไปจนถึงโรงงานแปรรูปไม้ใน ต.โพธิ์ชัย อ.เมือง จ.หนองคาย ไล่มาจนถึงภาคกลางที่โกดังเก็บไม้ ญาณิการ์ บริเวณ ริมถนนสายวัดสิงห์ – หันคา อ.หันคา จ.ชัยนาท ทั้งนี้ ศปก.พป.จะขยายผลจับกุมเครือข่ายมู่หลานต่อไป

_____________________________________________________________

คดี ล่าเสือดำ-แก๊งมู่หลานค้าไม้

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน