เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. นายวีระวัตร โคระวัตร เจ้าหน้าที่อุทยานอนุรักษ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จ.อุทัยธานี พร้อมกำลังจำนวน 5 นาย ได้รับแจ้งจากหัวหน้าเขตอุทยานสัตว์ป่าห้วยขาแข้งว่า มีนักล่าสัตว์ป่านำอาวุธปืนผูกไปผูกติดกับต้นไม้จำนวนหลายกระบอก เพื่อล่าสัตว์บนหุบเขากระทิง ในแผนที่เรียกว่าดอยอีปุย เขตอุทยานแห่งชาติห้วยขาแข้ง ติดกลับหมู่ 8 บ้านเขาไม้นวน และบ้านโป่งสามสิบ ต.ระบำ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี จึงนำกำลังขึ้นไปตรวจสอบ ด้วยความระมัดระวังปืนผูกที่นักล่าสัตว์ดักไว้ บนยอดเขาอีปุยทันที

ในระหว่างที่ตรวจสอบบนยอดเขาพบปืนผูกที่ติดกับโค่นไม้กระสุนยิงออกไปแล้ว 1 กระบอก จึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน หลังจากนั้นนำกำลังเดินตรวจสอบบนสันเขาต่อไป พบอาวุธปืนผูกมัดติดกับต้นไม้ไว้ แต่กระสุนปืนยังไม้ได้ลั่นออก จึงเก็บกู้ทำลายกระสุนปืนออกจากรังเพลิงและยึดไว้เป็นหลักฐาน หลังจากนั้นลาดตระเวนต่อไป ห่างจากที่พบปืนผูก 1 กิโลเมตร ที่โค่นต้นไม้ขนาดใหญ่ พบกล่องกระสุนปืนลูกซองสีแดง กระสุนปืนเบอร์ 12 จำนวน 1 นัด เทปกาวปิดแก๊ป กระป๋องสีสเปรย์สีดำ 1 กระป๋อง ผ้าขาวม้าอยู่ในถุงพลาสติก 1 พื้น จึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน

หลังจากนั้นลาดตระเวนต่อไปยังชายเขา พบซากเครื่องในสัตว์อยู่ในถังพลาสติกสีขาว 1 ห้อยอยู่บนกิ่งไม้ ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่วบริเวณนั้น เจ้าหน้าที่จึงนำมาตรวจภายถังพบเส้นขนสีดำ จำนวน 2 เส้น เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน หลังจากนั้นไปตรวจแนวกันชนเสาคอนกรีตของเขตห้วยขาแข้ง พบรอยเลือดที่พื้นดิน ตรวจสอบภายในกองเลือดพบขนสัตว์ตกอยู่อีก 3 เส้น จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน และรวบรวมส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ลานสัก จ.อุทัยธานี เพื่อนำไปตรวจว่าขนสัตว์ดังกล่าวนั้นเป็นขนสัตว์อะไร พร้อมหารอยนิ้วมือ และดีเอ็นเอของคนร้ายดังกล่าว

นายวีระวัตร โคระวัตร เจ้าหน้าที่ห้วยขาแข้ง กล่าวว่า หัวหน้าอุทยานห้วยขาแข้ง ได้รับแจ้งจากสายว่ามีนักล่าสัตว์เข้าไปดำเนินการใช้ปืนผูกติดกับต้นไม้ เพื่อดักสัตว์ที่เดินไปมาเป็นจำนวนมาก บนยอดเขาบนหุบเขากระทิง ในแผนที่เรียกว่าดอยอีปุย ในเขตอุทยานแห่งชาติห้วยขาแข้ง โดยให้ตนนำกำลังไปตรวจสอบและสแกนบนยอดเขาดังกล่าว และพบอาวุธปืนผูก ซากสัตว์ รอยเลือดหยด และเครื่องมือของนักล่าสัตว์ซุกซ่อนอยู่ในโค่นต้นไม้ และตรวจยึด

ซึ่งเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่อุทยานนั้นพอทราบเบาะแสนักล่าสัตว์รายนี้ แล้วว่าเป็นใคร เนื่องจากได้ทำหลักฐานตกไว้ในที่เกิดเหตุ ซึ่งนักล่าสัตว์รายนี้ได้ทำงานกันเป็นทีม และรู้ความเคลื่อนไวของเจ้าหน้าที่ตลอด ซึ่งตอนนี้ตนแจ้งความและให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการต่อไป เพื่อให้เรียกผู้สงสัย ไปทำการสอบสวนและตรวจรอยนิ้วมือ และดีเอ็นเอ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน