เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. ที่สถานีตำรวจท่องเที่ยวพระนครศรีอยุธยา พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.ผบก.สปพ. พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.ทท. พ.ต.อ.จักรเพชร เพชรพลอยนิล ผกก.สายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ ร่วมกันแถลงข่าวผลการปฎิบัติการ “ยุทธการทวงคืนปืนจากรังโจร” เข้าปิดล้มอมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 16 จุด 5 จังหวัด แยกเป็นในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา 3 แห่ง และในเขต จ.อ่างทอง 2 แห่ง ซึ่งเป้าหมายต่างๆ เป็นเครือข่ายเชื่อมโยงถึงผู้ต้องหารายหนึ่งที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ ในจ.สมุทรปราการ ในคดีลักลอบผลิตและค้าอาวุธปืนทางอินเตอร์เน็ต

โดยในเขตจ.พระนครศรีอยุธยา สามารถจับกุมนายวรากร ปาลิวนิช อายุ 31 ปี ได้ที่หมู่บ้านฟิวส์ชั่น ริมถนนสายเอเชีย ต.บ้านกรด อ.บางปะอิน พร้อมปืนพกเถื่อนขนาด .22 กระสุน 6 นัด และปืนขนาด .38 จำนวน 14 นัด โดยรับสารภาพว่ามีอาชีพเป็นช่างแอร์ แต่ชอบปืนจึงมีการซื้อขายแลกเปลี่ยนเท่านั้น ไม่ได้ผลิตปืนเถื่อนขาย พร้อมยึดเครื่องสุนปืนขนาด.22 จำนวน 6 นัดด้าม ปืนบีบีกัน 20 คู่ ลำกล้องปืนบีบีกันจำนวน 13 อัน ลูกโม่ปืนบีบีกัน 18 ชิ้น อุปกรณ์ตกแต่งเจียรลำกล้องปืน อุปกรณ์ชุดลั่นไก อุปกรณ์โหลดกระสุนปืน กล่องพัสดุไปรษณีย์ที่ใช้รับส่งพัสดุ จำนวน 10 กล่อง ปลอกกระสุนปืนที่ยิงแล้ว จับกุมผู้ต้องหาได้ 1 ราย

ส่วนในเขต จ.อ่างทอง จับกุมนายพิษณุ มะลิทอง อายุ 21 ปี ที่บ้านพักในเขต ต.สี่ร้อย อ.วิเศษชัยชาญ ยึดปืนขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก ปลอกกระสุน 100 นัด และยอมรับว่ามีการผลิต ดัดแปลงปืนเถื่อนขายทางอินเตอร์เน็ต รวมถึงซื้อขายกระสุนด้วย ซึ่งส่งของผ่านพัสดุเอกชน และหลังจากมีการจับกุมที่สมุทรปราการได้เลิกแล้ว แต่ยังมีสินค้าตกค้างติดมืออยู่เท่านั้น

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า จากการที่มีการจับกุมกลุ่มผู้จำหน่ายอาวุธปืนดัดแปลงบีบีกัน ผ่านทางเฟซบุ๊ก ที่ผ่านมาได้ทำการสืบสวนขยายผล จนทราบแหล่งผลิตจึงระดมกำลังตำรวจกว่า 200 นาย เข้าปิดล้อมตรวจค้น ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อ่างทอง ลพบุรี สมุทรปราการสระบุรี กรุงเทพมหานคร การขายอาวุธปืนบีบีกันที่ดัดแปลงใช้กระสุนปืนจริง โดยทำการโพสต์ขายผ่านเฟซบุ๊ก โดยมีการรีวิวเป็นคลิปวีดีดโอให้เห็นว่าสามารถยิงปืนได้จริง มีการสั่งซื้อจำนวนมาก จึงได้ทำการตรวจค้นตรวจยึดจับกุมเครื่อข่ายได้ทั้งหมด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน