วันที่ 14 ต.ค. น.ส.กัญญาลักษณ์ วิสาขะ เจ้าหน้าที่สำนักงานบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดระยอง ได้เดินเข้าตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 84/3 บ้านเขาครอก หมู่ 6 ต.สำนักท้อน อ.บ้านฉาง จ.ระยอง หลังรับทราบว่า ด.ช.เอ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ถูกแม่เลี้ยงทำร้ายขณะไปพักอาศัยอยู่กับพ่อแท้ๆ ที่จ.ปทุมธานี ตัดสินใจปั่นจักรยานหนีออกจากบ้าน แล้วโทรหาแม่ที่ จ.ระยอง ก่อนเพื่อนของแม่ที่ขับแท็กซี่จะมาส่งที่บ้าน น.ส.นฤกมลวรรณ ฉาบพลอย อายุ 42 ปี

เมื่อเดินทางไปถึงพบกับ น.ส.นฤกมลวรรณ พร้อมด้วย ด.ช.เอ ลูกชาย แต่ก็ต้องตกใจกับบาดแผลตามร่างกายของ ด.ช.เอ ที่มีทั้งรอยแผลเก่าและแผลที่เพิ่งถูกทำร้าย เลือดไหลซึมตามบาดแผล เป็นอนาถใจเป็นอย่างมาก จากการสอบถาม ด.ช.เอ เล่าว่า ตลอดระยะเวลา 7 ปี ที่ไปอาศัยอยู่กับพ่อและ น.ส.นรินทร แขกกาฬ ซึ่งเป็นแม่เลี้ยง ที่ จ.ปทุมธานี ถูกแม่เลี้ยงทำร้ายร่างกายไม่เว้นแต่ละวัน ทั้งที่ไม่มีความผิด พฤติกรรมการทำร้ายใช้เตารีดที่กำลังร้อนนาบที่แขน ใช้คีมหนีบริมฝีปากจนปากแหว่ง ใช้ของแข็งทุบตีศีรษะจนเลือดอาบ รวมถึงบีบคอจนสลบ และอีกหลากหลายความโหดเหี้ยม

แต่ตนก็พยายามอดทนจนทนไม่ไหว เพราะแม้แต่พ่อแท้ๆ และปู่ย่า ที่รู้เห็นเหตุการณ์มาตลอดไม่เคยเข้าช่วยแต่อย่างใด แม่เลี้ยงได้ใจลงมือหนักขึ้นทุกวัน จนทนไม่ไหวแอบโทรหาแม่ที่อยู่ระยองเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง บอกให้มารับ แต่แม่ไม่มีเงิน จนกระทั่งเกิดเหตุขึ้นอีก แม่เลี้ยงใช้สันไม้ฟุตเหล็กตีที่แขนหลายครั้งจนเลือดออก และยังบังคับให้กวาดบ้านถูบ้าน จึงตัดสินใจปั่นจักรยานหนีออกมา โดยมุ่งหน้าไปที่อนุเสารีย์ชัยสมรภูมิ เพราะเคยได้ยินแม่พูดว่าคิวรถตู้ไประยองอยู่ตรงนั้น โดยใช้เวลาหลายชั่วโมงจึงมาถึง เมื่อมาถึงก็รีบโทรหาแม่ทันที แล้วแม่ก็ติดต่อเพื่อนที่ขับแท็กซี่อยู่ใน กทม. ให้มารับและพามาส่งที่บ้าน

ด้าน น.ส.นฤกมล กล่าวว่า ตนได้แยกทางกับสามี ซึ่งรับราชการเป็นทหารเรือมานานร่วม 10 ปีแล้ว มีลูกด้วยกัน 2 คน เป็นหญิง 1 คน และชาย 1 คน และลูกทั้ง 2 ได้อยู่กับพ่อ และก่อนหน้านี้เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ลูกสาวได้ถูกแม่เลี้ยงทุบตีทำร้ายจนทนไม่ได้หนีมาอยู่กับตน ก่อนที่ลูกชายจะถูกแม่เลี้ยงทำร้ายจนทนไม่ได้หนีออกจากบ้านมาเป็นรายที่ 2 เมื่อพบหน้าลูกชายและถอดเสื้อผ้าออกมาพบเห็นบาดแผลเต็มตามร่างกายตนถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหว กอดลูกร้องไห้โฮทันที และไม่เชื่อว่าพ่อแท้ๆ ของลูกจะปล่อยให้แม่เลี้ยงมาทำร้ายรังแกลูกในไส้ของตัวได้ถึงขนาดนี้ พร้อมยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

หลังจากที่นำเรื่องของลูกชายไปโพสต์ในโลกออนไลน์ ได้มีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องยื่นมือเข้าช่วยเหลือ นำตัวลูกชายรักษาบาดแผล นอกจากนี้ มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี โดย นางปวีณา หงสกุล ได้ประสานมา พร้อมช่วยเหลือและให้เจ้าหน้าที่ของมูลนิธิฯนำรถมารับลูกชายไปที่ จ.ปทุมธานี เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับแม่เลี้ยงรายนี้แล้ว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน