นางแบบปลากระป๋อง-ฟ้องแบงก์! ถูกแก๊งคอลโทรตุ๋นหลอกถอนเงินล้านเกลี้ยงบัญชี

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 15 พ.ย.ที่แผนกคดีผู้บริโภค ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก น.ส.ธนิตา จิรพณิช อายุ 37 ปี อาชีพนางแบบโฆษณา เคยมีผลงานโฆษณาปลากระป๋องชื่อดัง พร้อมนายเฉลิมพงษ์ กลับดี หัวหน้ามูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน) กับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนไทยพาณิชย์ฯ เป็นจำเลยที่1-2 เรื่อง ผิดสัญญา, เรียกทรัพย์คืน

โดยนางแบบสาวระบุในคำฟ้องสรุปว่า เมื่อวันที่ 15 ส.ค. 2549 โจทก์เปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์กับจำเลยที่ 1 สาขาเอกมัย พร้อมเปิดบัตรเอสซีบีอีซี่การ์ด ต่อมาวันที่ 26 มิ.ย. 2550 โจทก์เปิดใช้บริการซื้อขายหน่วยลงทุนเปิดเอสซีบีเอฟพี กับจำเลยที่ 2 ที่สาขาเหม่งจ๋าย จากนั้นวันที่ 14 ก.ย. 2557 ได้เปิดใช้บริการซื้อขายหน่วยลงทุนดับบลิวไอเอ็นอาร์ และกองทุนตราสารหนี้กับจำเลยที่ 2 ที่สาขาเซ็นทรัลพระรามเก้า ต่อมาวันที่ 29 มิ.ย.2559 โจทก์เปิดบัญชีออมทรัพย์กับจำเลยที่ 1 สาขาบิ๊กซีรัชดาภิเษก เอาไว้ แต่จำเลยกลับเพิกเฉยไม่ระมัดระวัง ทำให้เกิดความเสียหาย

ถูกแก๊งคอลลวงข้อมูล

กล่าวคือเมื่อเดือน ธ.ค.2560 ได้มีกลุ่มคนร้ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ได้หลอกลวงเอาข้อมูลของโจทก์ เช่นหมายเลขบัตรประชาชน ข้อมูลเอทีเอ็ม รหัสโอทีพี แล้วสมัครอินเตอร์เน็ตแบ็งกิ้งผ่านแอปพลิเคชั่นในสมาร์ทโฟนของคนร้าย แล้วเข้าทำธุรกรรมทางการเงินกับจำเลยโดยช่องทางอีซีแอ็พ โดยโอนเงินโจทก์ออกจากบัญชีไปหลายครั้งหลายหนรวม 50 ครั้งระหว่างวันที่ 27ธ.ค.2560 – 4 ม.ค.2561 ครั้งละ 10,000 – 373,000 บาทรวม 1,670,200 บาทเข้าบัญชีเงินฝากของกลุ่มคนร้าย

ทั้งที่จำเลยมีหน้าที่ตรวจสอบ รักษาความมั่นคงปลอดภัยควบคุมการเข้าถึงข้อมูล แต่กลับไม่แจ้งเตือน ไม่ตรวจสอบ ภายหลังมาทราบภายหลังจึงแก้ไขระบบอินเตอร์เน็ตแบ็งคกิ้ง

การกระทำของจำเลย ในฐานะผู้รับฝากเงินควรใช้ความระมัดระวังตรวจสอบการเข้าถึงข้อมูลและใช้ความระมัดระวัง แต่ กลับใช้ความระมัดระวังต่ำกว่าผู้รับฝาก ดังนั้นจำเลยจึงต้องรับผิดในเงินจำนวน 1,670,200 บาทของโจทก์ที่สูญเสียไปพร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีรวมทั้งสิ้น1,780,830บาทด้วย

ศาลรับฟ้องคดีไว้ และนัดเจรจาไกล่เกลี่ยคู่ความวันที่ 16 ก.พ. 2562 เวลา 09.00 น.








Advertisement

ภายหลังน.ส.ธนิตา กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อปลายที่แล้ว ตนถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรศัพท์มาหลอกว่า ตนถูกดำเนินคดีกู้เงินไปซื้อที่ดิน ที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ก่อนหลอกล่อพูดคุยเรื่องการทำธุรกรรมทางการเงินจนถามรหัสยืนยันตัวตนเพื่อเข้าใช้แอพลิเคชั่นธนาคารฯทางโทรศัพท์ ก่อนที่ภายหลังตนมาทราบว่าเงินในบัญชีของตนที่ฝากไว้ดังกล่าวถูกโอนไปทั้งหมด รวมเป็นเงินกว่า 2 ล้านบาท เมื่อสอบถามไปยังธนาคารฯ กลับไม่แสดงความรับผิดชอบใดๆ ตนจึงนำคดีมายื่นฟ้อง ในฐานะประชาชนผู้ใช้บริการตนอยากให้ธนาคารมีวิธีป้องกันที่มีมาตรฐาน โดยเฉพาะหากพบว่ามีการทำธุรกรรมที่ผิดปกติ ควรต้องรีบแจ้งหรือตรวจสอบกับเจ้าของบัญชี เพื่อป้องกันความเสียหายที่เกิดขึ้น รวมทั้งทุกครั้งที่มีการเข้าระบบเพื่อทำธุรกรรม ควรมีข้อความหรืออีเมลแจ้งมายังเจ้าของบัญชี แต่กรณีนี้กลับไม่มีการดำเนินการใดๆเลย กระทั่งตนมาตรวจสอบบัญชีเองจึงทราบเรื่องและสูญเงินจำนวนมากไปแล้ว

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน