ไม่ติดใจโดนไล่ออก! หนุ่มช่วยเด็กรอดโดนข่มขืน ขอลุยงานใหม่เลี้ยงแม่ส่งน้องเรียน

จากกรณี นายทิพกร ทองขาว อายุ 30 ปี พนักงานส่งน้ำโรงงานผลิตน้ำดื่มแห่งหนึ่งใน อ.หาดใหญ่ ซึ่งเป็นพลเมืองดีเข้าไปช่วยเด็กสาวอายุ 15 ปีที่กำลังถูกตาแท้ๆอายุ 62 ปีขึ้นคร่อมจับถอดเสื้อผ้าพยายามข่มขืนอยู่ในป่าละเมาะ เหตุเกิดวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา แต่ปรากฎว่าต่อมานายทิพกร ถูกนายจ้างไล่ออกจากงาน โดยเจ้าตัวเชื่อว่าสาเหตุมาจากการทำหน้าที่พลเมืองดี จนไปส่งน้ำให้ลูกค้า 50 เจ้าไม่ทัน ทำให้ชีวิตเดือดร้อนหนักไม่มีที่พักและไม่มีที่ไป เนื่องจากอาศัยอยู่บ้านของเถ้าแก่

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

โดยเรื่องนี้วันที่ 4 ธ.ค. ที่สภ.หาดใหญ่ พ.ต.อ.กิตติชัย สังขถาวร ผกก.สภ.หาดใหญ่ ได้เชิญตัวนายทิพกร พร้อมด้วย นางวันดี ทองขาว อายุ 50 ปี ผู้เป็นแม่ และน.ส.ชญานุตน์ ทองขาว น้องสาว เดินทางมาพบเพื่อให้การช่วยเหลือและสอบถามเรื่องถูกไล่ออกจากงาน

พ.ต.อ.กิตติชัย เปิดเผยว่า จากการพูดคุยกับนายทิพกร ทราบว่าสาเหตุที่ถูกไล่ออกจากงานไม่เกี่ยวกับเรื่องที่การมาเป็นพยานในคดีข่มขืนเด็กหญิง แต่มีปัญหากับนายจ้างมาก่อนแล้วในเรื่องงาน แต่ในส่วนของตำรวจไม่ขอพูดถึงรายละเอียดของประเด็นนี้ เพราะเป็นเรื่องระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง ส่วนการช่วยเหลือเรื่องงานทำนั้น ได้เสนอให้มาช่วยงานที่ สภ.หาดใหญ่ ซึ่งจะมีทั้งค่าตอบแทนและที่พัก รวมทั้งจะเสนอเรื่องไปยังผู้บังคับบัญชา เพื่อมอบเกียรติบัตรยกย่องในความกล้าหาญ ที่เข้าไปช่วยเหลือเด็กที่กำลังจะถูกข่มขืนต่อไป

ขณะที่นายทิพกร และครอบครัวได้ยกมือไหว้ขอบคุณ พ.ต.อ.กิตติชัย ก่อนเปิดใจว่า พอใจกับงานใหม่ที่จะมาทำงานช่วยตำรวจ แต่จะขอเวลากลับไปพักกับครอบครัวที่จ.นครศรีธรรมราชอีกสัก 1 อาทิตย์จากนั้นจะกลับมาเริ่มทำงาน และจะตั้งใจทำความดีต่อไป โดยเฉพาะครั้งนี้ที่ได้ช่วยเด็กผู้หญิงรอดจากการถูกข่มขืน ส่วนความฝันคือจะทำงานเก็บเงินซื้อรถกระบะสักคันเพื่อส่งน้ำและหารายได้เลี้ยงแม่ ส่งเสียน้องสาวและน้องชายอีก 2 คนที่บ้านให้เรียนจนถึงระดับปริญญาตรี ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือทำให้มีกำลังใจที่จะช่วยเหลือสังคมต่อไป

ส่วนปัญหาระหว่างนายจ้างเก่าที่ไล่ออกจากงานไม่ได้ติดใจอะไรแล้ว ขอให้เรื่องนี้จบลงด้วยดี ผมก็จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่อยากอธิบายเรื่องที่เถ้าแก่ออกมาบอกว่านำรถไปใช้ส่วนตัวนอกเหนือเวลางานนั้น ยอมรับว่าหลังส่งน้ำเสร็จได้ขับรถกลับบ้านที่อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช จริงโดยไม่ได้บอกเถ้าแก่ เพราะไม่มีโทรศัพท์และต้องการที่จะไปบอกญาติพี่น้องกับข่าวที่ได้ไปช่วยเหลือเด็กผู้หญิงเท่านั้น

เพราะตอนนั้นเป็นข่าวดังแล้วและหลายคนเป็นห่วง ซึ่งผมไม่ได้ไปเที่ยวหรือไปทำอะไร ผมเคยถูกเถ้าแก่หญิงไล่ออกมาแล้วถึง 2 ครั้งจากปัญหาเรื่องรถที่แจ้งซ่อมไปคล้ายกับว่าถ้าขับไม่ได้ก็ให้ออกไป ล่าสุดก็มีผลพวงมาจากเรื่องที่ผมไปช่วยเด็กและไปเป็นพยานทำให้ส่งน้ำล่าช้า รวมทั้งนำรถไปใช้บวกกับเรื่องเก่าจึงทำให้ถูกไล่ออกทันที”

ด้านนางวันดี ผู้เป็นแม่ กล่าวว่า ช่วงแรกเป็นห่วงลูกชายเรื่องที่เสี่ยงชีวิตไปช่วยเด็กหญิง แต่ภูมิใจที่ลูกชายทำความดีและได้รับการยกย่องจากสังคม รวมทั้งความช่วยเหลือในเรื่องงาน

สำหรับผู้ที่ต้องการจะชายเหลือนายทิพกร และครอบครัว สามารถติดต่อประสานงานได้โดยตรงที่หมายเลข 093-6690107 และ 065-39351741 ซึ่งเป็นเบอร์ของแม่และน้องสาว เนื่องจากนายทิพกร ยังไม่มีโทรศัพท์ โดยขณะนี้มีผู้โอนเงินช่วยเหลือแล้ว 15,200 บาท

ส่วนความคืบหน้าด้านคดี วันนี้ทางพนักงานสอบสวนและทีมสหวิชาชีพได้นำตัวเด็กสาวมาสอบสวนอีกครั้ง โดยเด็กระบุว่า เคยถูกตาพยายามล่วงละเมิดทางเพศมาแล้วก่อนน้านี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ให้ความช่วยเหลือเด็กสาวตามกฎหมายต่อไป

อ่านข่าว ตาหื่น! เมาเหล้าขาว ฉุดหลานสาวเลี้ยงมากับมือ ข่มขืน ในป่าข้างทาง

อ่านข่าว ตาวัย 62 ยังเสียงแข็งไม่ได้ ลวงหลานข่มขืน หลังเจอขึ้นแก้ผ้า คร่อมในป่าละเมาะ!

อ่านข่าว คนดีไม่มีที่ยืน! หนุ่มเซ็งไปช่วยสาววัย 15 ถูกตาข่มขืน กลับถูกนายจ้างไล่ออก

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน