บุกสำนัก ร่างทรงอวตาร หลังถูกแจ้งจับข่มขืนสวิงกิ้ง พ่อปู่เข้าทรงอ้างห้ามให้ข่าว พบก่อนหน้านี้ ร่างทรงหลุดปากมีนายตำรวจระดับสูงมาพบ สั่งห้ามพูดกลัวเสื่อมเสียชื่อจังหวัด เจ้าทุกข์ยันมีคนถูกข่มขืนอีกมาก แต่ไม่กล้าแจ้งความ ผกก.เมืองพร้อมอำนวยความสะดวกให้ผู้เสียหายเข้าแจ้งความเพิ่มโทษแก่ร่างทรง รับจะไม่ให้ความลับรั่วไหลเด็ดขาด

จากกรณี สาวนักธุรกิจ อายุ 50 ปี ชาว อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ เข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.เมืองอุตรดิตถ์ ให้ดำเนินคดีกับร่างทรงที่อ้างตนเป็นนารายณ์อวตาร พร้อมภรรยาและสาวกหญิงอีก 2 คน ที่หลอกให้ร่วมเพศแบบสวิงกิ้ง ชาย 1 คน หญิง 4 คน ที่ห้องพักชั้น 6 โรงแรมแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ จ.อุตรดิตถ์ โดยอ้างว่าเป็นพิธีแก้เคล็ดจะช่วยให้แม่ที่เข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่รพ.หายป่วย ตามที่เสนอไปนั้น

ร่างทรงอวตาร / ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สื่อมวลชนในจ.แม่ฮ่องสอน พากันเดินทางไปที่บ้านของนายเอ (นามสมมติ) อายุ 57 ปี ชาวอ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน บริเวณพื้นที่บ้านห้วยป๊อกจ่าน โดยขณะเดินทางไปถึงพบนายเอ อยู่กับลูกชายอายุขวบเศษ ส่วนภรรยาคือไปทำงานนอกบ้าน

ขณะที่ผู้สื่อข่าวขออนุญาตทำข่าว เพื่อนำเสนอข้อมูลที่เกิดขึ้นทั้ง 2 ด้าน พบว่านายเออ้างว่าพ่อปู่นารายณ์ ไม่อนุญาตให้เปิดเผยข่าวแก่สื่อมวลชน และจะให้ข่าวได้ต่อเมื่อเวลาผ่านไปจนครบ 7 วัน โดยนับเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 17 ธ.ค. เป็นต้นไป

อย่างไรก็ตาม ทางผู้สื่อข่าวพยายามที่จะขอสัมภาษณ์นายเอ แต่ไม่ยอมเปิดเผยข้อมูล ต่อมานายเอถูกพ่อปู่นารายณ์เข้าทรง เพื่อตอบคำถามสื่อ โดยพ่อปู่ในร่างทรงระบุว่า ข่าวทำให้เสียหายหนัก จึงต้องการให้หยุดการนำเสนอข่าวไว้ก่อน

แถมยังสั่งสอนให้ทำแต่ความดี ละเว้นความชั่ว ซึ่งในระหว่างการให้สัมภาษณ์ผ่านร่างทรงนั้น ลูกชายของนายเอวิ่งเข้ามาหาพ่อบ่อยครั้ง ทำให้การให้สัมภาษณ์ต้องหยุดชะงัก และเป็นที่ที่น่าสังเกตว่า ทันทีที่เด็กวิ่งเข้าไปหา พ่อปู่จะออกจากร่างทรงทันที และเมื่อกันเด็กออกไปพ่อปู่ก็เข้าสิงร่างใหม โดยเด็กวิ่งเข้าไปหานายเอไม่ต่ำกว่า 3 ครั้ง

ก่อนหน้าที่จะให้สัมภาษณ์ต่อสื่อนายเอ ระบุว่า ก่อนหน้านี้มีนายตำรวจระดับสูงในแม่ฮ่องสอน มาพบและขอให้ยุติการให้ข่าว เนื่องจากจะทำให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงของจังหวัดได้ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านั้น นายเอยังกล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นน่าจะมาจากความอิจฉาริษยาของเจ้าทุกข์ ที่เห็นว่าตัวเองมาซื้อที่ดินและสร้างบ้านพักขึ้นมา ซึ่งสร้างเสร็จไปไม่ถึงเดือน ซึ่งก่อนหน้านั้นตนเคยไปอาศัยอยู่ที่บ้านของเจ้าทุกข์จริง

ด้านน.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 50 ปี ชาวอ.ลับแล นักธุรกิจสาว ที่เข้าแจ้งความระบุว่า มีผู้หญิงที่ถูกลวนลามและกระทำในรูปแบบที่ตนมีอีกเป็นจำนวนมาก มีทั้งแม่ค้าในตลาดสดเทศบาลเมือง ภรรยาข้าราชการ ภรรยาของพ่อค้านักธุรกิจ ซึ่งตนมีรายชื่อในมือ แต่ยังไม่ยอมเปิดเผย

เพียงแต่อยากให้คนที่โดนแบบตน ให้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อผู้ถูกกล่าวหาโดยเร็ว เพื่อที่จะได้ช่วยกันสกัดกั้นไม่ให้กระทำผิดแบบนั้นเกิดขึ้นอีก ในสังคมไทย และตนยอมที่จะถูกเยาะเย้ยถากถางจากสังคม เพียงเพื่อให้กระบวนการบัดสีดังกล่าวหยุดลงอย่างสิ้นเชิง

พ.ต.อ.ธนพล บินทะปัญญา ผกก.สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า ขณะนี้ทางสถานีตำรวจภูธรเมืองแม่ฮ่องสอน ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปสังเกตการณ์บ้านเป้าหมายอย่างใกล้ชิด หากทางตำรวจภูธรจังหวัดอุตรดิตถ์ แจ้งขอความร่วมมือมายังแม่ฮ่องสอน ก็พร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่ในทันที

อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวกรณีที่ให้ข้อมูลว่า มีผู้หญิงอีกเป็นจำนวนมากที่ตกเป็นเหยื่อ และส่วนใหญ่อยู่ในตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ซึ่งเรื่องดังกล่าว อยู่ที่ผู้เสียหายจะเดินทางเข้ามาร้องทุกข์กล่าวโทษต่อสภ.เมืองแม่ฮ่องสอน ซึ่งหากมีการเข้าร้องทุกข์ ทางเจ้าหน้าที่จะรับรองความปลอดภัย รักษาความลับไม่ให้แพร่งพรายไปยังที่อื่นอย่างเด็ดขาด

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

สำหรับคดีดังกล่าว นักธุรกิจหญิง ชาวอุตรดิตถ์ เข้าแจ้งความร้องทุกต่อ สภ.เมืองอุตรดิตถ์ โดยมีผู้ถูกล่าวโทษ จำนวน 5 คน ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น ด้วยประการใดๆโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้หรือโดยทำให้ผู้อื่นนั้นเข้าใจผิดว่า ตนเป็นบุคคลอื่น

สถานที่เกิดเหตุโรงแรมแห่งหนึ่ง ในต.ท่าอิฐ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ เมื่อวันที่ 1 พ.ย. ห้วงเวลา 11.36 ถึง 15.00 น. ซึ่งเรื่องกำลังอยู่ระหว่างการรวบรวมหาหลักฐานของพนักงานสอบสวนและชุดสืบสวน สภ.เมืองอุตรดิตถ์ คาดว่าจะออกหมายจับผู้ถูกกล่าวหาในเร็วๆ นี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน