กู้ภัยเผย ศพน้องภูผา ตาย7วัน ไม่เน่า-ไม่เหม็น อัศจรรย์น้องมาบอกเหตุ ฝังร่างใกล้บ้าน

จากกรณี น.ส.สุมณี บุญมี อายุ 23 ปี ให้เจ้าหน้าที่อาสาสมัครร่วมกตัญญูจังหวัดชัยนาทช่วยทำการขุดโลง นำศพน้องภูผา ลูกชาย เสียชีวิตตั้งแต่วันที่ 9 มี.ค. ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดชัยนาท โดยหมอวินิจฉัยว่า เสียชีวิตจากอาการปอดติดเชื้อ แต่ทางครอบครัวต้องการอยากได้คำยืนยันจากสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ กรุงเทพฯ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง เพราะน้องภูผา เป็นลูกชายคนแรกของครอบครัว โดยทางครอบครัวได้ผลชันสูตรจากนิติเวชแล้วระบุว่า สาเหตุการตายมาจากเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองชั้นใน ทางญาติจึงรับศพกลับมาฝังไว้ที่บ้านใน ต.ห้วยงู อ.หันคา จ.ชัยนาท

นายนิพนธ์ ปัญญาทร เจ้าหน้าที่อาสาสมัครร่วมกตัญญูจังหวัดชัยนาท กล่าวว่า ตอนแรกได้รับแจ้งจากตำรวจ ให้ไปตรวจสอบ ขุดศพเด็กที่เสียชีวิตมาแล้ว 5 วัน ถูกฝังไว้ที่ วัดโคกหมู อ.หันคา ในใจก็คิดแล้วว่า เด็กเสียชีวิตหลายวัน ร่างต้องเน่าเละ แล้วแน่นอน จะเอาไปสถาบันนิติเวชได้อย่างไร แต่ก็ไปทำตามหน้าที่ ร้อยเวรขอมาเราก็ต้องไป พอไปขุดพบศพเด็กเกิดความอัศจรรย์ใจ สภาพร่างเด็กไม่มีความเปลี่ยนแปลงอะไรเลย เหมือนเด็กนอนหลับ เหมือนเด็กเพิ่งขาดใจตาย สภาพที่เห็นเมื่อวานเด็กตายครบ 7 วัน ยังคงมีสภาพปกติ ไม่มีกลิ่น เหมือนเขานอนหลับเฉยๆ มีเปลี่ยนแปลงแค่ริมฝีปากซีดลง ดำนิดหน่อย ไม่มีอาการเน่าเหม็น รู้สึกแปลกใจ

“ทำงานร่วมกตัญญูมานับสิบปีแล้ว ไม่เคยเจอสภาพแบบนี้ ไม่รู้สาเหตุมาจากอะไร ไม่เคยเจอมาก่อน ว่าสภาพศพจะอยู่สภาพคงอยู่ได้ จนครบ 7 วันไม่เน่าเปื่อย ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นไปได้ ดูจากสภาพโลงที่ฝังเด็ก มีการเจาะรูให้อากาศเข้าได้ แต่สภาพที่อากาศร้อนแบบนี้ ปกติร่างจะต้องเปลี่ยนสภาพแน่นอน แต่เด็กคนนี้ไม่เปลี่ยนเลย ครั้งแรกตกใจเพราะเตรียมถุงดำไปใส่ด้วย นึกสภาพอยู่แล้วศพ 6 วันต้องเน่าเปื่อยแน่ แต่พอขุดออกมา สรุปแล้วถุงดำไม่ได้ใช้เลย อุ้มมาไม่มีกลิ่น ร่างกายเด็กปกติทุกอย่าง” นายนิพนธ์ กล่าว

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

นายนิพนธ์ กล่าวต่อว่า ความเห็นส่วนตัว ตามที่ตนนับถือพ่อปู่ เห็นว่าเด็กคนนี้ไม่ใช่เด็กธรรมดา มาสื่อได้ มาบอกว่าเขามาอย่างไร ไปอย่างไร ความเชื่อส่วนบุคคลนะ แล้วแต่ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อ อยากบอกว่า เรื่องทางโลกอย่าไปยุ่ง คือปล่อยเขา เรามาแค่นี้ เราไปแค่นี้ ตอนนี้เขาอยู่กับพ่อกับแม่ ตอนแรกเขาฝังร่างไว้ที่วัด ผมบอกพ่อกับแม่เขาว่า เด็กไม่อยากอยู่ที่นี่ เด็กอยากไปอยู่กับแม่ ผมจึงให้เขาย้ายมาที่บ้าน จึงนำมาฝังไว้ที่บ้านเมื่อวานนี้ วันที่ 15 มี.ค.

นายนิพนธ์ กล่าวต่อว่า ความรู้สึกสัมผัสได้ว่า เด็กดีใจที่ได้มาอยู่กับแม่ แต่เรื่องทางโลกพูดไปไม่มีใครเชื่อ ที่ทำมาก็อย่างนี้แหละ ทำมาก็ได้เจอหลายสิ่งหลายอย่าง อะไรที่บอกกับญาติ บอกกับพี่น้องเขาได้เราก็บอก สิ่งไหนที่บอกไม่ได้ก็จะไม่พูด ปล่อยเขาไปตามกรรมของแต่ละคน

นายนิพนธ์ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องที่ครอบครัวเห็นน้องน้ำตาไหลหลังเข้าห้องนอน เมื่อวานผมอุ้มเด็กไปวางบนที่นอนที่พ่อแม่เขาเตรียมไว้ให้ แล้วก็เดินออกมา เพื่อให้พ่อแม่ลูกเขาได้คุยกัน เขาได้สื่อกัน ผมว่าน้องเขารับรู้ ดีใจ ที่ว่าพ่อแม่ไม่ทิ้งเขา ผมบอกกับพ่อแม่เขาแล้วว่าอย่าทิ้งเขา ให้เลี้ยงดูเขาเหมือนเลี้ยงคนปกติทั่วไป

อีกอย่างที่น้องเขามาบอกผม แต่ไม่ได้ยืนยันนะ เขามาบอกว่าจะอยู่ถึง 5 ปี ร่างกายเขาจะไม่เน่าเปื่อยอย่างนี้ไป 5 ปี ผมจะรอดูว่าจริงๆจะเป็นอย่างไร เพราะปกติมีเด็กมาหาผมเยอะ แต่ไม่มีใครมาสื่อเยอะขนาดนี้ ผมเลยบอกว่าถ้าจะอย่างนั้นก็ตามใจ อยากอยู่กับพ่อแม่ก็จัดการให้แล้ว ดูท่าทางพ่อแม่รักลูกเขามาก อย่างทิ้งขว้างเขาแล้วเด็กคนนี้จะให้คุณ ดีใจที่พ่อแม่เขาปฏิบัติกับลูกเขาอย่างดี และลูกได้อยู่กับพ่อแม่เขาแล้ว” นายนิพนธ์ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน