ซ้อนแผนจับผัวตีนหนัก! โมโหเตะเมียรักตายอุ้มส่งร.พ. ปล่อยโฮกอดโถอัฐิบนโรงพัก

จากกรณี น.ส.กรวิภา ดีน้อย อายุ 31 ปี ถูกนายเปิ้ล สามีซ้อมได้รับบาดเจ็บสาหัสแล้วอุ้มร่างขึ้นรถเก๋งมาส่งที่ร.พ.ศูนย์อุดรธานี ก่อนหลบหนีไปเหตุเกิดเมื่อวันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา ต่อมาน.ส.กรวิภา เสียชีวิตด้วยอาการ มีบาดแผลฟกช้ำตามลำตัว เลือดไหลที่เยื่อหุ้มสมอง มีเลือดไหลออกในโพรงสมอง เลือดออกในช่องท้อง และตับฉีกขาด ครอบครัวนำศพไปประกอบพิธีทางศาสนาแล้วฌาปนกิจศพในวันที่ 11 เม.ย. ท่ามกลางความเสียใจ

ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 24 เม.ย. พ.ต.อ.วิบูลย์ วงศ์ก้อม รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี พ.ต.อ.วิธ มุทธสินธุ์ ผกก.สส.ภ.จว.อุดรธานี พ.ต.อ.สรายุทธ ฉ่ำผิว ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี พร้อมชุดตำรวจชุดสืบสวนเข้าจับกุมนายกิตติ หรือเปิ้ล หนูกลาง อายุ 42 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี ลงวันที่ 14 เม.ย.2562 ขณะเตรียมหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ โดยตำรวจชุดสืบสวนปลอมตัวเป็นคนขับรถตู้ทำทีขับมารับตามที่ได้รับการว่าจ้างแล้วเข้าจับกุมไว้ได้ บริเวณชายป่าตีนภูเขา บริเวณบ้านโคกกุง ต.บ้านขาม อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู

จากนั้นเจ้าหน้าที่คุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.เมืองอุดรธานี โดยนายชูชาติ ดีน้อย อายุ 64 ปี และนางอินทวา ดีน้อย อายุ 57 ปี พ่อและแม่ ได้นำอัฐิน.ส.กรวิภา มาให้อดีตลูกเขยไหว้ขอขมา ซึ่งนายกิตติ ร้องไห้ก้มลงกราบเท้าขอโทษพ่อ-แม่ น.ส.กรวิภา ก่อนจะเข้าไปกอดอัฐิน.ส.กรวิภา ร้องบอกขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจอยู่หลายครั้ง

แม่น.ส.กรวิภา กล่าวว่า ดีใจที่ยังมีความยุติธรรมสำหรับคนจนอยู่ ที่ตำรวจสามารถจับกุมคนที่ทำร้ายลูกสาวถึงแก่ความตาย ซึ่งตนได้อโหสิกรรมให้กับสามีลูกสาว คิดว่าลูกสาวทำบุญมาแค่นี้ เขาได้ไปสู่ภพภูมิที่ดี ไม่ต้องมาลำบากเหมือนในชาตินี้ หลังเผาศพลูกสาวได้ฝันเห็นลูกสาวใส่ชุดสีขาว มายืนยิ้มซึ่งก็มีเด็กอยู่ด้วย 1 คน เหมือนแสดงความดีใจที่ตำรวจจับคนที่ฆ่าลูกแม่ได้ ก่อนที่ลูกสาวจะหายไปในความฝัน เหมือนว่าลูกหมดห่วง หรือรู้ว่าตำรวจสามารถจับกุมสามีที่ทำร้ายลูกได้แล้ว

ต่อมาตำรวจควบคุมตัวนายกิตติ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บ้านที่เกิดเหตุ เมื่อมาถึงนายกิตติ ร้องไห้เข้ากอดพี่สาวแล้วก้มลงกราบแม่ร้องไห้อยู่ตลอด บอกว่าผมขอโทษ ที่ทำผิดไปแล้ว จากนั้นพาไปชี้จุดในห้องนอนที่ทำร้ายร่างกายน.ส.กรวิภา พร้อมระบุได้ชกและเตะไปไม่กี่ครั้ง แต่ถูกภรรยาเอาศีรษะของตนไปโขกกับเสาปูน 3 ครั้ง หลังหายโมโหจึงได้เอายาแก้ปวดและแก้อักเสบมาให้กินแต่อาการไม่ดีขึ้นจึงได้โทรตามน้องชายมารับพาภรรยาไปส่งร.พ.

“ส่วนสาเหตุที่ทะเลาะกัน เนื่องจากจับได้ว่าภรรยาเอาเงินไป 5,000 บาท เพราะก่อนหน้านี้ภรรยาเคยเอาเงินไปแล้ว 10,000 บาท นอกจากนั้นยังเคยพาภรรยาไปโรงพักลงประจำวันเอาไว้ เพื่อไม่ให้ภรรยามาเอาเงินไปอีกโดยไม่บอกกัน แต่เมื่อภรรยามาทำอีกจึงได้โมโห ตอนแรกทะเลาะมีปากเสียงกัน แต่เมื่อถูกด่าบุพการีจึงลงมือทำร้าย”

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ด้านพ.ต.อ.วิบูลย์ เปิดเผยว่า หลังจากจับกุมตัว นายกิตติ ทำให้รู้ว่าทั้งสองคนนี้รักกันมาก แต่ก็ทำร้ายร่างกายกันบ่อยครั้ง วันเกิดเหตุทำร้ายภรรยาแล้วก็ได้ไปซื้อยาให้กิน ก่อนพาส่งร.พ. แต่เมื่อรู้ว่าเสียชีวิตก็เหมือนคนขาดสติ พยายามจะหลบหนีปัญหาที่ก่อไว้ เพราะไม่ได้เจตนาที่จะฆ่าภรรยาให้ตาย

ส่วนน้องชายที่มีภาพกล้องวงจรปิด ตอนที่ขับรถพาไปส่งร.พ.นั้น เนื่องจากพี่ชายได้ขอร้องให้มารับพาผู้ตายไปส่ง จึงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการทำร้ายด้วยแต่อย่างใด เบื้องต้นได้แจ้งข้อหากับนายกิตติ ควบคุมตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

อ่านข่าว 2 หนุ่มอุ้มสาวส่งโรงพยาบาล ถูกซ้อมน่วม หมอสุดยื้อ ผลชันสูตรทำพ่อ-แม่ช็อก มั่นใจฝีมือลูกเขย

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน