รวบแล้วแก๊ง ฆ่าฝังดิน เผยเคยมีเรื่องกันมา ก่อนมารับจ้างเดินท่อส่งน้ำในสวน แล้วโดนด่าแม่จึงชักปืนยิงหัว 3 นัด ก่อนร่วมกับเพื่อนลากร่างไร้วิญญาณไปฝังอำพรางคดี

จากกรณีพบศพนายจรัญ หรือป่าว นาคแก้ว อายุ 42 ปี ชาวจ.นครศรีธรรมราช อาชีพรับจ้างทำสวน ถูกฆ่าและมีบาดแผลถูกของมีคมแทงที่หน้าท้อง ก่อนจะนำศพไปฝังดินอำพรางคดี บริเวณบนเขาป่าหมู่บ้านคลองชุม หมู่ที่ 13 ต.ตะกุกเหนือ อ.วิภาดี จ.สุราษฎร์ธานี จนมีผู้ไปพบศพก่อนแจ้งเจ้าหน้าตรวจสอบ ตรวจสอบประวัติมีหมายจับสน.ดินแดง คดีฆ่าผู้อื่นเมื่อปี 58 คาดว่าหลังก่อเหตุหนีมากบดาน จนมาถูกฆ่าโหดฝังดิน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

ฆ่าฝังดิน / ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. ที่สภ.วิภาวดี พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร มทบ.ที่45 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.จว.สุราษฎร์ธานี เจ้าหน้าที่ชุดตรวจวัตถุระเบิด (อีดอดี) เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน8 และเจ้าหน้าที่ป่าไม้แขตที่ 11 ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ เพื่อตรวจหาวัตถุพยานและตรวจสอบพื้นที่อย่างละเอียดอีกครั้ง

พล.ต.ต.อภิชาติ กล่าวว่า สำหรับวันนี้แบ่งเจ้าหน้าที่ ออกเป็น 3 ชุด ลงพื้นที่เป้าหมายจำนวน 5 จุด โดยเฉพาะบริเวณจุดเกิดเหตุให้เจ้าหน้าที่ชุดอีโอดีใช้เครื่องมือสแกนหาวัตถุ ตรวจบริเวณทั่วพื้นที่ ที่คาดว่าเป็นจุดที่ผู้ตายถูกสังหารและในลำธาร รวมไปถึงจุดที่ฝังศพผู้ตาย เพื่อตรวจหาปลอกกระสุน และวัตถุพยานอื่นๆเพิ่มเติม

โดยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกระจายกำลังลงพื้นที่บ้านผู้ต้องสงสัยจำนวน 3 ราย พร้อมควบคุมตัว 1.นายพิเชษฐ์ สังข์ศิลปชัย หรือโอ๋ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16/1 ม2 ตำบลตะกุกเหนือ อ.วิภาวดี จ.สุราษฎร์ธานี 2.นายชาญวิทย์ เพชรรัตน์ หรือบอล อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12 หมู่ที่ 6 ต.ตะกุกเหนือ อ.วิภาวดี จ.สุราษฎร์ธานี และ 3.นายสุรพงศ์ สุขแก้ว หรือจิ้งจก อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17/1 หมู่ที่ 13 ต.ตะกุกเหนือ อ.วิภาวดี จ.สุราษฎร์ธานี ผู้ต้องสงสัยที่หายออกจากพื้นที่หลังเกิดเหตุ

รวมไปถึงเข้าตรวจค้นบริเวณสวนทุเรียนพื้นที่หมู่ที่ 13 ต.ตะกุกเหนือ ซึ่งเป็นสวนของนายมานิตย์ ชูศร อยู่บ้านเลขที่ 64 หมู่ที่ 5 ต.ตะกุกเหนือ อ.วิภาวดี จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นสวนที่พยานพบเห็นผู้ตาย และผู้ต้องสงสัยช่วยกันซ่อมท่อส่งน้ำก่อนจะหายตัวไป พบหัวกระสุน ขนาด 9 มม. จำนวน 2 หัว รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นเวฟ 125 ไม่ทราบทะเบียน และปลอกกระสุนขนาด 9 มม.จำนวน 1 ปลอก และตรวจยึด จอบ และรองเท้าบู๊ท ไปตรวจพิสูจน์ ว่าตรงกับที่พบในจุดเกิดเหตุหรือไม่

อีกจุดเป็นสวนของนายสุรพงศ์ ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยที่หายออกไปจากพื้นที่ ตั้งแต่วันที่เจอศพผู้ตาย พบกล่องเปล่ากระสุนขนาด .22 มม. พร้อมเก็บลายนิ้วมือจากพร้าและขวาน ที่พบในขนำ

ล่าสุดเวลา 15.00 น. พล.ต.ต.อภิชาติ กล่าวว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนนำตัว นายพิเชษฐ์ สังข์ศิลปชัย หรือโอ๋ อายุ 37 ปี บ้านเลขที่ 16/1 ม2 ต.ตะกุกเหนือ อ.วิภาวดี จ.สุราษฎร์ธานี นายสุรพงศ์ สุขแก้ว อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17/1 หมู่ที่ 13 ต.ตะกุกเหนือ อ.วิภาวดี จ.สุราษฎร์ธานี และนายชาญวิทย์ เพชรรัตน์ หรือบอล อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12 หมู่ที่ 6 ตำบลตะกุกเหนือ อ.วิภาวดี จ.สุราษฎร์ธานี ทั้งหมดเป็นผู้ต้องสงสัยในการก่อเหตุ

พล.ต.ต.อภิชาติ กล่าวว่า จากการสอบสวนนายพิเชษฐ์ หรือโอ๋ ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุจริง โดยก่อนเกิดเหตุเข้าไปรับจ้างผูกกิ่งทุเรียนกับนายชาญวิทย์ และมาเจอกับนายจรัญผู้ตายก็เข้ามารับจ้างวางท่อส่งน้ำในสวนของนายมานิตย์เหมือนกัน ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยมีเรื่องทะเลาะกับผู้ตายเรื่องผู้ตายด่าบุพการี

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

โดยวันเกิดเหตุหลังจากเลิกงานมานั่งดื่มเหล้ากันที่สวนดังกล่าว ก่อนเกิดมีเรื่องทะเลาะกับผู้ตาย เพราะผู้ตายด่าถึงบุพการี อีกครั้ง เจ้าของสวนจึงไล่ให้กลับบ้าน จึงเดินตามผู้ตายไปจนถึงที่เกิดเหตุ ก่อนใช้ปืนลูกซองยิงใส่ผู้ตาย และใช้ปืนขนาด 9 มม.ยิงใส่หัวอีก 3 นัด หลังจากก่อเหตุให้นายสุรพงศ์ช่วยลากศพไปตรงจุดที่พบศพ เพื่อช่วยกันฝังร่าง ส่วนนายชาญวิทย์ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างได้

ทั้งนี้ทางด้านพนักงานสอบสวนยังไม่ปักใจเชื่อว่า มีผู้ก่อเหตุแค่ 2 คน ทั้งนี้จะสอบสวนขยายผล เพื่อหาผู้ร่วมขบวนการการ เพื่อออกหมายจับผู้ที่ร่วมลงมือก่อเหตุต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน