ตำรวจลงทุนคุ้ยขยะ เจอหลักฐานในถัง ปม ปาเลือด ในโรงเรียน ใกล้ที่เกิดเหตุ เจอทั้งถุงเลือดและมาม่าผัด เชื่อแค่เพียงต้องการข่มขู่เพื่อให้หวาดกลัวเท่านั้น
ปาเลือด จากกรณีที่ครูสาว โรงเรียนแห่งหนึ่ง ใน อ.หันคา จ.ชัยนาท โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ถูกคนนำเลือดมาปาหน้าห้องเรียนที่สอน ซึ่งครูสาวได้เข้าแจ้งความ และคาดว่าสาเหตุมาจากเรื่องอาหารกลางวันที่เคยร้องเรียนไปว่าไม่ได้คุณภาพ บางมื้อให้เด็กกินมาม่าผัด ไร้หมูและไข่ ไม่มีขนมหรือผลไม้ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 23 ส.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยงู จ.ชัยนาท พร้อมด้วยพิสูจน์หลักฐานตำรวจจังหวัดชัยนาท เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยทำการตรวจบริเวณหน้าห้องเรียนที่เกิดเหตุ และค้นหาถุงเลือดที่คาดว่าจะมีการนำไปทิ้งไว้ในถังขยะในโรงเรียน จึงได้ตรวจค้นถังขยะทุกใบจนพบถุงเลือด และถุงใส่ม่าม่าผัดอยู่ก้นถังขยะใกล้อาคารเรียนที่เกิดเหตุ
พ.ต.ท.ณรงค์ ซิ้มสวัสดิ์ สารวัตรใหญ่ สภ.ห้วยงู กล่าวว่า การกระทำของคนร้ายเป็นการกระทำเชิงข่มขู่ไม่ได้เน้นหมายปองต่อชีวิตร่างกายไม่ได้หวังทำร้าย เป็นลักษณะให้ตกใจกลัว ซึ่งจุดเกิดเหตุเป็นห้องเรียนชั้นอนุบาล มีคุณครูผู้เสียหายในเรื่องนี้เข้าใจว่ามุ่งประสงค์ข่มขู่ต่อคุณครูท่านนั้น แต่ประเด็นอื่นก็ยังไม่ทิ้ง อาจเป็นเรื่องการขัดแย้งภายในหรือภายนอก เราต้องรวบรวมพยานหลักฐานต่อไป ตอนนี้ยังฟังธงไม่ได้ เช่นเดียวกับการเก็บหลักฐานพยานต่างๆ ตอนนี้เราหว่านแหสุ่มไปก่อน จะได้ร่องรอยหลักฐานอะไรก็จะค่อยๆ มองแคบลง
ในเรื่องนี้ผู้บังคับบัญชาให้ความสนใจ ทั้งระดับจังหวัด ผู้บังคับการ ตำรวจภูธรภาค 1 ผู้บัญชาการ ท่านรองผู้บัญชาการ ได้มีการสั่งการให้ลงมาดู ให้ระดับจังหวัดลงมาดูเป็นพิเศษ และประสานกับทางวิทยาการจังหวัด ให้เข้ามาร่วมจัดเก็บพยานหลักฐาน ส่วนปัญหาภายในนั้นเราไม่ก้าวร่วง เรื่องของการศึกษา ให้เขาตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป
“เบื้องต้นในที่เกิดเหตุในวันรับแจ้งเหตุนั้น พบรอยเลือดกระเซ็นลักษณะกระจายไปเหมือนมีความเร็ว คือมีการขว้างปา การที่เลือดเป็นของเหลว คงต้องมีภาชนะ อาจเป็นถุงพลาสติก แก้วน้ำ อะไรก็แล้วแต่ แต่เมื่อมีการขว้างเข้าไปนั้น เชื่อว่าภาชนะนั้นจะต้องหลงเหลืออยู่ เราจึงต้องพยายามหา และจะนำไปสู่ร่องรอยหลักฐาน ที่จะทำให้แนวทางการสอบสวนของเราได้แคบยิ่งขึ้น” พ.ต.ท.ณรงค์ กล่าว
พ.ต.ท.ณรงค์ กล่าวต่อว่า สำหรับลักษณะที่กระทำให้หวาดกลัว มองถึงความผิดทางอาญานั้นอาจไม่มากนัก เรามองถึงความรู้สึกทางด้านจิตใจของผู้เสียหาย ได้รับความกระทบกระเทือน ซึ่งคุณครูที่ถูกกระทำเป็นผู้หญิงด้วย จึงต้องดูแลและให้ความสำคัญ จริงๆ เราให้ความสำคัญทุกคดีอยู่แล้ว ไม่ได้เน้นเฉพาะคนใดคนหนึ่ง
เมื่อมาถึงจุดนี้แล้วโอกาส หรือแนวโน้มที่จะนำไปสู่การทราบตัวผู้กระทำความผิด ก็มีแนวโน้ม ซึ่งทางสารวัตรสืบสวน พ.ต.ท.สันติ และทีมงานสืบสวนได้ลงพื้นที่หาข้อมูลรอบนอก พนักงานสอบสวนลงในที่เกิดเหตุ งานป้องกันปราบปราบลงหาข้อมูลรอบนอก พร้อมวางมาตรการในการดูแลความปลอดภัยผู้เสียหาย โดยเพิ่มความถี่ในการตรวจ และสอดส่องดูแลช่วงเวลากลางคืน เพื่อให้ความปลอดภัยกับผู้เสียหายหรือพยานในเรื่องนี้ตามศักยภาพของเรา
