ช้ามา 4 ปี! ป.ป.ท. เร่งคดี จนท.แก่งกระจาน เผาบ้านปู่คออี้ ขีดเส้นให้เสร็จ 3 เดือน
วันที่ 10 ก.ย. ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) พ.ต.ท.วันนพ สมจินตนากุล เลขาธิการป.ป.ท. เปิดเผยถึงความคืบหน้าการไต่สวนคดีทุจริตปลูกป่า 4,200 ไร่ ในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ที่ว่าจ้างบริษัทเอกชนคู่สัญญาในวงเงิน 15 ล้านบาท ว่า สำนวนคดีดังกล่าวอยู่ในความรับผิดชอบของป.ป.ท.เขตพื้นที่ 7 ซึ่งได้รับรายงานว่าการสืบสวนสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว สำนักงานป.ป.ท.เตรียมบรรจุเป็นวาระให้บอร์ด ป.ป.ท.มีมติตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนความผิดได้ในวันพฤหัสบดีที่ 12 ก.ย.นี้ หรืออย่างช้าในวันอังคารที่ 17 ก.ย. นี้
พ.ต.ท.วันนพ กล่าวว่า ส่วนกรณีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เผาบ้านปู่คออี้ มีมิ ชาวกะเหรี่ยงปกาเกอะญอ นั้น เหตุการณ์เกิดขึ้นในปี 54 และมีการยื่นเรื่องขอให้ป.ป.ท.ตรวจสอบในปี 58 โดยหลังจากรับเรื่องไว้สืบสวนสอบสวน ป.ป.ท.ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและตั้งอนุกรรมการไต่สวนความผิดแล้ว
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
ล่าสุดบอร์ดป.ป.ท.มีความเห็นว่ากรณีดังกล่าวควรเร่งรัดการไต่สวนให้ได้ข้อสรุปโดยเร็ว จึงมีคำสั่งตั้งอนุกรรมการไต่สวนเพิ่มเติม พร้อมกำหนดกรอบการทำงานให้แล้วเสร็จภายในเวลา 3 เดือน ซึ่งคดีนี้ศาลปกครองสูงสุด เคยมีพิพากษาว่า พนักงานเจ้าหน้าที่ของกรมอุทยานฯ สามารถใช้ดุลพินิจไม่ใช้มาตรการที่มีความรุนแรงกระทำต่อสิ่งปลูกสร้างและทรัพย์สินของได้ แม้จะมีกฎหมายให้อำนาจไว้ก็ตาม
การเผาทำลายสิ่งปลูกสร้างและทรัพย์สิน จึงทำให้ผู้ฟ้องคดีต้องสูญเสียปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิต ถือเป็นพฤติการณ์ที่มีความร้ายแรงกระทบกระเทือนสาระสำคัญแห่งสิทธิในการดำรงชีวิตและสิทธิในทรัพย์สินอันเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของบุคคลตามรัฐธรรมนูญ โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวถามถึงการตรวจสอบบ้านไร่ชัยราชพฤกษ์ ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ซึ่งถูกระบุว่าเป็นบ้านพักของบิ๊กข้าราชการกรมอุทยานฯ เลขาธิการ ป.ป.ท.กล่าวว่า กรณีดังกล่าวยังไม่มีผู้ยื่นร้องให้ป.ป.ท.ตรวจสอบ ทราบจากข่าวเพียงว่าเป็นบ้านที่ปลูกสร้างด้วยไม้ขนาดใหญ่ เบื้องต้นมองว่ากรณีนี้เป็นความผิดอาญาทั่วไปตำรวจในพื้นที่ หรือกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช มีอำนาจตรวจสอบอยู่แล้ว
