‘บิณฑ์’ ชี้ตัวคุณนายกำมะลอ หักค่าหัวคิวช่วยน้ำท่วม แฉมีผู้ใหญ่บ้านร่วมขบวนการ พบมีชาวบ้านร่วมแอบอ้างสวมสิทธิ์น้ำท่วมไม่ต่ำกว่า 200 ครัวเรือน มั่นใจเอาผิดได้ทุกราย

หัวค่าหัวคิวช่วยน้ำท่วม / เมื่อวันที่ 28 ต.ค. ที่โรงแรมเจพี เอ็มเมอรัลด์ ยโสธร พ.ต.ท.ศรัณย์พงศ์ จักษุกรรฐ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองยโสธร พร้อม พ.ต.ท.มิตรชัย บุญล้ำ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี เข้าพบนายบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ เพื่อนำสำนวนคดีมาให้นายบิณฑ์ลงลายมือชื่อ พร้อมกับนำภาพถ่ายผู้ต้องสงสัย ซึ่งคาดว่าเป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลัง จากกรณีมีข่าวคุณนายกำมะลอฉ้อโกงเงินช่วยเหลือน้ำท่วม นอกจากนี้ ยังพบว่ามีผู้นำชุมชนและผู้ใหญ่บ้าน เป็นผู้ร่วมขบวนการกระทำความผิด ไม่ต่ำกว่า 20 ราย อีกทั้งในเขตพื้นที่ อ.เมือง พบมีชาวบ้านร่วมแอบอ้างสวมสิทธิ์น้ำท่วมไม่ต่ำกว่า 200 ครัวเรือน

นายบิณฑ์กล่าวว่า มั่นใจว่าจากพยานหลักฐานทั้งหมดจะสามารถเอาผิดผู้ร่วมขบวนการได้ทุกราย ซึ่งขณะนี้ตนมีพยานบุคคลมากกว่า 40 ราย คาดว่าไม่เกินวันที่ 30 ต.ค.นี้ จะเปิดเผยข้อมูลได้ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่าออกหมายเรียกชาวบ้าน 160 ปาก เข้ามาสอบปากคำ และในวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำภาพถ่ายของผู้กระทำผิดที่อยู่เบื้องหลังมาให้ชี้ยืนยัน ซึ่งตนยืนยันว่าเป็นคนเดียวกัน ที่เป็นผู้บงการหรืออยู่เบื้องหลังขบวนการหลังหัวคิว และมีผู้ร่วมขบวนการที่เป็นผู้นำชุมชนและผู้ใหญ่บ้านกว่า 20 ราย

“จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบมีชาวบ้านร่วมแอบอ้างสวมสิทธิ์น้ำท่วมไม่ต่ำกว่า 200 ครัวเรือน ซึ่งอยากฝากไปยังชาวบ้านที่น้ำไม่ท่วมแต่มาแอบอ้างรับเงินและให้ผู้นำเซ็นรับรอง ขอให้ออกมาพูดความจริง นำเงินที่ได้ไปมาคืน โดยเข้ามาพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองยโสธร เพื่อจะกันไว้เป็นพยานในคดี แล้วจะไม่เอาผิดทางกฎหมาย แต่หากไม่ให้ความร่วมมือ จะถือว่าเข้าข่ายร่วมกันฐานฉ้อโกง ชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมจริงและเข้าหลักเกณฑ์แต่ไม่ได้รับเงินช่วยเหลือน้ำท่วม สามารถดำเนินการติดต่อรับเงินช่วยเหลือได้ โดยให้ผู้ใหญ่บ้านเซ็นรับรองมารับได้ เนื่องจากมีชาวบ้านกว่า 200 ครัวเรือน ที่น้ำไม่ท่วมจะนำเงินมาคืน ซึ่งจะนำเงินก้อนดังกล่าวจากตรงนี้มาช่วยเหลือพี่น้องที่น้ำท่วมจริง” นายบิณฑ์กล่าว

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

นายบิณฑ์กล่าวต่อว่า คนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมาให้ชี้ภาพเป็นคนเดียวกับที่คิดตั้งแต่แรก มีการวางแผนมาก่อนหน้าที่ตนจะมาที่ยโสธร ซึ่งเขามันเป็นขบวนการ ที่คิดจะฉ้อโกงหลอกลวง มีความโลภมาก ตอนแรกตนเข้าใจว่าเขาคือจิตอาสาเข้ามาช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่กำลังเดือดร้อน แต่เขาหลอกตนได้แยบยลมาก ทำให้เชื่อถือว่าเขาคือคนที่เป็นจิตอาสาที่เสียสละให้กับสังคม พอตนมารู้ทีหลังว่ามันไม่ใช่ เราเสียความรู้สึก เสียกำลังใจ รู้สึกไม่นับถือ

“ผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้านบางคน ก็น่าจะมีความคิด ไม่น่ามีจิตใจที่ต้องการแบบนี้ ชาวบ้านเขาไว้ใจเลือกเรามาทำหน้าที่ แล้วยังมาคิดไม่ดีกับลูกบ้าน หากคุณไม่คิดจะหาผลประโยชน์ให้ตัวเอง เรื่องมันก็คงไม่เกิดขึ้น คุณเป็นคนดำเนินการให้คนมาร่วมทำความผิด คุณเองก็มีหน้าที่ตำแหน่งใหญ่โตในจังหวัด แล้วมาทำให้จังหวัดเขาเสื่อมเสียชื่อเสียงไปด้วย มันน่าละอายมาก ยืนยันว่าจะดำเนินคดีถึงที่สุด ใครอาจจะบอกว่ากฎหมายไม่ยุติธรรม แต่กฎแห่งกรรมยุติธรรมเสมอ” นายบิณฑ์กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน