โร่คืน เงินช่วยน้ำท่วม ‘บิณฑ์’ รับเสียใจมาแอบสวมสิทธิ์ ส่งชื่อผ่านคุณนายกำมะลอ ชาวบ้าน 3 รายนำเงินมาคืน แต่บิณฑ์ยังไม่รับ รอให้คดีคืบหน้าถึงจะแจ้งรับมอบเงินคืนอีกครั้ง

เงินช่วยน้ำท่วม / เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 29 ต.ค. ที่สภ.เมืองยโสธร นายยุทธนา ผู้ประสานงานออกสำรวจบ้านที่ถูกน้ำท่วมในเขตเทศบาลเมืองยโสธร พร้อมด้วย นางปาริฉัตร ชาวชุมชนเปี่ยมสุข เขตเทศบาลเมืองยโสธร พร้อมด้วยผู้นำชุมชนและชาวบ้าน 20 คน เข้าพบนายบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง เกี่ยวกับน้ำท่วมในเขตเทศบาลมืองยโสธร

นายยุทธนา กล่าวว่า ตนเป็นผู้ประสานงานหารายชื่อคนถูกน้ำท่วมให้เขตเทศบาลเมืองยโสธร ซึ่งตอนออกสำรวจครั้งแรก ตนไม่ทราบรายละเอียดหรือหลักเกณฑ์ใดๆ เลย จึงประสานไปยังประธานชุมชนบ้านท่า ประธานชุมชนบ้านใหม่โรงฆ่าสัตว์ และชุมชนอยู่ดีมีแฮง ให้ออกสำรวจ และมีคนสั่งการให้หารายชื่อคนน้ำท่วมคือคุณนายกำมะลอ ซึ่งจากการสำรวจพบมีน้ำท่วม และได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในเขตเทศบาลเมืองยโสธรประมาณ 400 ราย

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ยืนยันว่าในเขตเทศบาลเมืองยโสธรไม่มีการหักหัวคิวแน่นอน ในส่วนการส่งรายชื่อน้ำท่วมในเขตเทศบาลเมืองยโสธรนั้น ต้องส่งผ่านคุณนายกำมะลอ นอกจากนี้ มีเพียงรายเดียวในเขตเทศบาลเมืองยโสธรที่เป็นชาวบ้านในชุมชนเปี่ยมสุข ที่ได้รับเงินช่วยเหลือน้ำท่วมซ้ำซ้อน และพร้อมที่จะนำเงินมาคืน

นางปาริฉัตร กล่าวต่อหน้านายบิณฑ์ ว่า ตนอาศัยอยู่ชุมชนเปี่ยมสุข เขตเทศบาลเมืองยโสธร แต่นายยุทธนาให้ตนไปใช้สิทธิ์ไปรับเงินอีกหลัง ที่ชุมชนคุ้มบ้านเหนือ ตนจึงบอกนายยุทธนาว่ามันจะดีหรือ นายยุทธนาตอบกลับมาว่าไม่เป็นไร แบ่งกันคนละ 2,500 บาท เดี๋ยวจะรับผิดชอบเอง และให้ลูกชายตนมารับแทน ซึ่งนายยุทธนาอ้างว่าเป็นค่าใช้จ่ายในการถ่ายเอกสารน้ำท่วม ตนเสียใจมากบอกนายยุทธนาไปแล้วว่าอย่าทำ ซึ่งวันนี้ตนตั้งใจจะนำเงินมาคืนด้วย

ด้าน นายบิณฑ์ กล่าวว่า ตนทำอะไรแต่สิ่งที่ดี ตั้งใจนำเงินจากพี่น้องประชาชนจากทั่วประเทศมามอบให้กับคนที่น้ำท่วมจริง แต่ที่เสียใจคือคนที่น้ำไม่ท่วมแต่มาสวมสิทธิ์ มาหลอกลวง ฉ้อโกง ซึ่งไม่ใช่จำนวนน้อยกว่า 200 ราย และมีการหักหัวคิว ที่ตนโกรธหนักคือมาอ้างว่าหักมาให้ตน ซึ่งวันนี้มีคนจะนำเงินมาคืนให้ตน 3 ราย แต่ยังไม่ขอรับไว้ เนื่องจากยังมีชาวบ้านที่น้ำไม่ท่วมจริง แต่มารับเงินช่วยเหลือกว่า 200 ราย ก็มาขอคืนเงิน ให้การต่อพนักงานสอบสวน ซึ่งต้องรอให้คดีมีความคืบหน้าก่อน ถึงจะแจ้งรับมอบเงินคืนอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม มีนายวิชัย อาศัยอยู่ชุมชนเปี่ยมสุข เขตเทศบาลเมืองยโสธร หอบเอกสารหลักฐานเพื่อมาชี้แจงต่อตน ซึ่งตนก็รับฟัง และปล่อยให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองยโสธร ดำเนินการ เนื่องจากนายวิชัยเป็น 1 ใน 5 คน ที่จะถูกออกหมายเรียก ให้มารับทราบข้อกล่าวหาในคดีฉ้อโกง

วันเดียวกัน นายจรัญ กาญจนสาธิต ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดยโสธร นำผู้ใหญ่บ้านกว่า 50 คน ถือช่อดอกไม้เพื่อรอมามอบให้กับนายบิณฑ์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเป็นกำลังใจให้กับนายบิณฑ์ที่ทำงานช่วยเหลือประชาชนทั่วทั้งประเทศโดยเฉพาะที่จังหวัดยโสธร

นายจรัญ กล่าวว่า การเดินทางมาในครั้งนี้เพื่อมอบดอกไม้เพื่อเป็นกำลังใจให้กับ คุณบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ที่ทำงานเหน็ดเหนื่อยในการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน อีกทั้งยังมาเจอปัญหาการหักหัวคิวจากเงินที่คุณบิณฑ์ นำมามอบให้กับประชาชนอีก นอกจากมอบดอกไม้ให้กับคุณบิณฑ์แล้วยังมอบให้กับผู้กำกับสภ.เมืองยโสธร เพื่อเป็นกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ในการสืบสวนสอบสวนเรื่องดังกล่าว และทำอย่างตรงไปตรงมาและเอาคนกระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้

ขณะที่ นายเชิดเกียรติ บุญทศ ผู้ใหญ่บ้าน บ้านกระจาย ตำบลศรีฐาน อำเภอป่าติ้ว จังหวัดยโสธร ผู้ประสานงานเครือข่ายชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดยโสธร กล่าวว่า กรณีการหักหัวคิวเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยของนายบิณฑ์ และที่เป็นข่าวออกไปทำให้จังหวัดยโสธรได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก กับการกระทำของบุคคลดังกล่าวเพียงไม่กี่คน ดังนั้นขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำคนกระทำความผิดมาลงโทษให้ได้ในส่วนของชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านนั้น หากนิ้วไหนร้ายก็ให้ตัดทิ้งไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากการมอบช่อดอกไม้แล้ว ยังมีประชาชนเดินทางมาให้กำลังใจนายบิณฑ์ พร้อมทำผ้าปักเป็นรูปภาพของนายบิณฑ์มามอบให้เพื่อเป็นกำลังใจ ในส่วนประชาชนที่รับเงินไปแล้วและเดินมาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวน สภ.เมืองยโสธร กว่า 60 คน ที่มาเป็นพยานในการรับเงินช่วยเหลือภัยน้ำท่วมที่ผ่านมา

ภาพบางส่วนจาก มติชนออนไลน์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน