ไขปริศนา ตึกชมพู พ่อ ฆ่ายกครัว 4 ศพ ตั้งโลงเรียงสุดสลด น้องสาวเล่าปมพี่ชายเครียด ลูกสาวจบแล้วแต่ยังไม่มีงานทำ เหตุเพราะพ่อไม่อยากให้ลูกทำงานที่ดีๆ ไม่ลำบาก เพื่อนร่วมงานก็ยังไม่รู้เรื่องจึกชมพู

ฆ่ายกครัว 4 ศพ จากกรณี นายไทยสาน ซ่อนชัย อายุ 51 ปี ผูกคอตัวเองเสียชีวิตใต้ต้นมะม่วงหน้าบ้านเลขที่ 260 หมู่ 1 บ้านเชียงหวาง ต.เชียงหวาง อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี นอกจากนี้ยังพบศพ นางวัชราภรณ์ ซ่อนชัย อายุ 50 ปี ภรรยา , น.ส.คชาภรณ์ ซ่อนชัย อายุ 24 ปี ลูกสาวคนโต และ น.ส.ศศิธร ซ่อนชัย อายุ 19 ปี ลูกสาวคนเล็ก นอนเสียชีวิตในบ้าน คาด นายไทยสาน ฆ่าเมียและลูก ก่อนฆ่าตัวตาย โดยพบจดหมายลาตายทิ้งไว้ด้วย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น อ่านข่าว สลดคดี4ศพ! พ่อขอขมาศพลูกเมียหลังฆ่า เปิดจม.สั่งเสีย หนี้รุม-ไร้เงินส่งลูกเรียน

ล่าสุวันที่ 5 ม.ค. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านที่เกิดเหตุ พบว่าบ้านปิดเงียบสนิท ไม่มีใครอยู่ที่บ้าน ซึ่งบ้านหลังเกิดเหตุตั้งอยู่เป็นบ้านหลังแรก ของทางเข้าหมู่บ้าน ไม่มีบ้านเรือนที่อยู่ติดกัน ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความวังเวง สอบถามผู้ที่ผ่านไปมาทราบว่า ขณะนี้ทางญาติผู้เสียชีวิต ได้นำศพทั้ง 4 ไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่ ศาลาวัดป่าไผ่ศรีทอง หมู่ 1 บ้านเชียงหวาง ต.เชียงหวาง ห่างจากบ้านที่เกิดเหตุประมาณ 2 กม.

ส่วนที่ศาลาวัดป่าไผ่สีทอง ซึ่งเป็นที่ตั้งบำเพ็ญกุศลผู้เสียชีวิตทั้ง 4 ราย มีการนำร่างใส่โลงเย็นตั้งเรียงกัน ญาติได้นิมนต์พระสงฆ์ 11 รูป สวดมาติกาบังสุกุล ขณะที่มีญาติพี่น้องของครอบครัวผู้เสียชีวิต เดินทางมาเตรียมร่วมฟังสวดพระอภิธรรมในช่วงเย็น ซึ่งหลายคนก็พูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยความเสียใจ ที่มาเกิดเหตุการณ์เศร้าสลดขึ้นในหมู่บ้าน

นางรุ่งการ ขารพ อายนุ 45 ปี น้องสาวนายไทยสาน เปิดเผยว่า ครอบครัวมี 5 คน นายไทยสาน เป็นคนที่ 3 ซึ่งเจอกับพี่ชายครั้งสุดท้ายวันที่ 2 ม.ค.ที่ผ่านมา วันนั้นเป็นงานรวมญาติ และวันนี้พี่ชายที่มาจาก กทม. ถามเขาว่าทำไมดูหน้าเศร้าจัง เขาก็บอกว่าเสียใจที่ลูกสาวที่เพิ่งเรียนจบปริญญาตรีไม่มีงานทำ ลูกสาวคนโตเขาก็เพิ่งจะรับปริญญาเมื่อวันที่ 4 ธ.ค.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ลูกสาวเขาก็ไปสมัครงานหลายที่ พอที่เขาเรียกไปสัมภาษณ์ พ่อก็ไม่ให้ไปทำ เพราะบอกว่าอยู่ไกลทุรกันดารไม่เหมาะกับลูกเขา สงสารลูกเลยไม่ให้ไปทำ พอมีอีกที่เรียกไปสัมภาษณ์ก็ตรงกับวันที่ลูกเขาซ้อมรับปริญญา ก็เลยพลาดอีก ทั้งที่เพิ่งเรียนจบก็สามารถหางานที่อื่นได้อีก แต่พี่เขาคงไม่เข้าใจ ก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นคนอย่างไร

“พี่ชายไม่ได้เป็นคนใจร้อน เมื่อกินเหล้าเขาก็จะนิ่งไม่ค่อยพูด ไม่มีอาละวาดหรือทำเรื่องร้ายแรง และเขาเป็นคนที่รักครอบครัวมาก เมื่อมาเกิดเหตุแบบนี้ขึ้น เราก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องทำถึงขนาดนี้ ตกใจมาก เรื่องหนี้สินเขาก็ไม่เคยบ่นอะไรให้ฟัง ไม่ค่อยได้ไปหากัน เพราะต่างคนต่างทำงาน อีกเรื่องเรื่องของตึกชมพูที่เขาเขียนในจดหมายลา ก็ไม่รู้เรื่องเลย เพิ่งเห็นเมื่อเช้านี้หลังเกิดเหตุ ได้ยินแต่เพื่อนบ้านว่าเขาจะขายนา ที่มีคนอื่นที่มาพูดให้ฟังว่า พี่ชายประกาศจะขายนาของเขา 3 ไร่ แล้วก็ไม่รู้ว่าเขาจะขายเท่าไหร่ เราก็คิดแต่ว่าทำไมไม่มาปรึกษาน้อง หนี้สินเขามีเท่าไหร่เราก็ไม่เคยรู้กับเขา รู้จากที่เขาเขียนไว้ว่า 2 ล้านตามที่เขาเขียนเท่านั้น และหลังเสร็จงานศพ คิดว่าจะติดต่อไปไถ่ที่ดินคืน ราคาเท่าไหร่ก็จะไปไถ่ออกมา” นางรุ่งการ กล่าว

นางรุ่งการ กล่าวอีกว่า เรื่องศพพรุ่งนี้จะทำพิธีฌาปนกิจทั้ง 4 คน คนหนึ่งเผาในเมรุ ที่เหลืออีก 3 จะเผากองฟอน ตามประเพณีของชาวบ้านที่นี่ ที่ชาวบ้านเชื่อว่าตายไม่เหมือนคนอื่นเขา ตายผิดธรรมชาติ และอีกอย่างคนในครอบครัวของพี่ก็ไม่เหลือใครอีกแล้ว ซึ่งก็ไม่รู้ว่าทำไมพี่จะทำเรื่องแบบนี้แล้วต้องเอาลูกเอาเมียไปด้วย คนแถวนี้ก็รู้ว่าพี่ชายรักครอบครัวมาก แกจะไปจึงต้องเอาลูกเอาเมียไปด้วย ทุกคนก็มีแต่เสียใจ ตกใจ งงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แล้วก็ไม่มีลางอะไรล่วงหน้า ส่วนกับหลานทั้ง 2 คน ก็ไม่เคยได้คุยกันเท่าไหร่ ทั้งที่เขามีอายุขนาดนี้แล้ว แต่ตอนหลานรับปริญญาก็ไม่ได้คุยอะไรกับหลาน ซึ่งก่อนหน้าพี่เขาก็ดูเศร้าๆ มาตลอด หลังจากนี้ยังไม่รู้จะทำอย่าง ไร ต้องรอพี่สาวคนโตมาถึงก่อน

ด้าน นายอุดม ชำนิโลก อายุ 53 ปี เพื่อนร่วมงานของนายไทยสาน เปิดเผยว่า นายไทยสานเป็นเพื่อนร่วมงาน ที่เจอกันครั้งสุดท้ายก่อนปีใหม่ เพราะปกติเขาทำงานแล้วแต่ช่วงเข้าเวร เวลาเจอกันก็พูดคุยถามความเป็นอยู่กัน ก็ไม่เห็นว่าเขามีปัญหาอะไร ก็ตกใจเมื่อทราบข่าวที่เกิดขึ้น ก็คิดว่าเขาทำได้อย่างไร แล้วก็ไม่มีลางสังหรณ์อะไรล่วงหน้า เรื่องหนี้สินก็มีเป็นธรรมดา เป็นเงินกู้ในระบบที่เขากู้กับทางสหกรณ์ของที่ทำงาน ก็ไม่ทราบว่าเท่าไหร่ แต่ก็น่าจะตามสิทธิของเงินเดือน น่าจะประมาณล้านกว่าบาท ส่วนหนี้อื่นๆ ก็ไม่ทราบ เพราะเป็นเรื่องส่วนตัวของเขา

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

“เรื่องแบบนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้น ถ้าเป็นหนี้เรื่องแค่หนี้สิน มันไม่น่าจะเกิดขึ้น เพราะมันอยู่ในระบบ ส่วนเรื่องที่เขาเขียนในจดหมายว่าตึกชมพู เรื่องนี้ก็ไม่ทราบว่าที่ไหน ที่เขาเอาที่ไปวาง น้องสาวเขาก็มาถาม ผมก็ไม่รู้ หาตึกชมพูถ้าที่อำเภอเพ็ญ ก็หน้าห้างโลตัส ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็นของนายทุนหรือว่าของบริษัท แต่เท่าที่รู้ดอกเบี้ยเขาก็ไม่แพง ถึงจะมีคนไปใช้บริการเยอะ แต่ผมก็ไม่รู้จัก ได้ยินแต่คนเขาพูดกัน ส่วนเรื่องกินเหล้าก็ธรรมดา เคยกินด้วยกันก็ไม่เห็นมีอะไร กินเสร็จก็กลับบ้าน นิสัยแกเป็นคนนิ่ง ๆ ไม่ค่อยพูด ซึ่งสาเหตุที่เขาต้องมาฆ่าในครอบครัว เรื่องนี้ผมก็อยากจะรู้เหมือนกัน ก็คงตอบอะไรไม่ได้ คิดแต่ว่าทำไมถึงทำกับลูกได้ เพราะปกติเขาจะเป็นคนที่รักลูกมาก แต่ใตคนเราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาคิดอะไร” นายอุดม กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน