ตม.สมุทรปราการ บุกทลายแก๊งจีน เช่าคอนโดหรู ลอบเปิดบ่อนพนันออนไลน์

ตม.สมุทรปราการ / เมื่อวันที่ 30 ม.ค. พ.ต.อ.ปริญญา กลิ่นเกษร ผกก.ตม.จว.สมุทรปราการ พร้อมด้วย พ.ต.ท.ชารัตน์ ชาคริตานันท์ รอง ผกก.ตม.จว.สมุทรปราการ พ.ต.ท.พิทักษ์พงษ์ เจริญกุล รองผกก.ตม.จว.สมุทรปราการ

พ.ต.ท.เจษฎา บุรินทร์สุชาติ รองผกก.ปอพ.บก.สส.สตม. ปฏิบัติราชการ รองผกก.ตม.จว.สมุทรปราการ และพ.ต.ท.วุฒิภัทร นภาโชติ รอง ผกก.3 บก.สส.สตม.ปฏิบัติราชการ รอง ผกก.ตม.จว.สมุทรปราการ ร่วมกันจับกุมนายเย่ หยาง ฮุย อายุ 27 ปี สัญชาติจีน นายเหมย เหอ จั่ว อายุ 27 ปี สัญชาติจีน และนายจาง หรง เจิง อายุ 28 ปี สัญชาติจีน หลังเช่าคอนโดหรูเปิดบ่อนพนันออนไลน์

พ.ต.อ.ปริญญา กล่าวว่า ตามนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่องการตรวจสอบกวดขันและปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่างๆ เกี่ยวกับคนต่างด้าว ตามพ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 โดยพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. มอบหมายสตม.ดำเนินการนั้น สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

โดยพล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รอง ผบช.สตม. พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง ผบก.ตม.3 พ.ต.อ.สัญชัย โชคขยายกิจ รอง ผบก.ตม.3 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง ผบก.ตม.3 จึงกำชับสั่งการให้ดำเนินการ

ก่อนได้เบาะแสและตามจับกุมผู้ต้องหาชาวจีนทั้ง 3 คน โดยเจ้าหน้าที่สืบสวนทราบว่า ที่อาคารชุดแห่งหนึ่งในพื้นที่สำโรงเหนือ อ.เมืองสมุทรปราการ มีแก๊งคนจีนกลุ่มหนึ่ง มีพฤติกรรมอยู่ในห้องตลอดเวลา ไม่ออกไปไหน เวลาออกไปทุกครั้ง จะนำอาหารและวัตถุดิบ พร้อมของใช้กลับมาที่ห้องพักจำนวนมาก

ประกอบกับทางสายลับได้สืบทราบว่าภายในห้องของแก๊งคนจีนดังกล่าว มีคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะประมาณ 5 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ ประมาณ 17 เครื่อง ในลักษณะเปิดเครื่อง เสียบสายชาร์จทิ้งไว้ในลักษณะพร้อมทำงานหรือทำธุรกรรมตลอดเวลา ในหน้าจอคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเป็นภาษาจีน

จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบมีการเดินไปมาระหว่าง 2 ห้องที่อยู่ตรงข้ามกันตลอดเวลา ประกอบกับมีค่าไฟฟ้าสูงผิดปกติจากห้องพักอื่นในชั้นดังกล่าว ในลักษณะน่าสงสัยอาจจะมีสิ่งของที่เป็นความผิด หรือได้กระทำความผิด จึงได้รวบรวมหลักฐานขอหมายค้นจากศาลจังหวัดสมุทรปราการ ศาลจังหวัดสมุทรปราการอนุมัติหมายค้นที่ 44/2563 ลงวันที่ 29 ม.ค.2563 อนุญาตให้ทำการตรวจค้นตั้งแต่เวลา 10.00 น. ของวันที่ 29 ม.ค.2563 เป็นต้นไปจนกว่าจะเสร็จภารกิจ

ต่อมาตำรวจชุดจับกุมได้แสดงหมายค้นให้นิติบุคคลทราบ และขอเข้าตรวจค้นห้องพักเลขที่ 2701 และ 2733 โดยมีนิติบุคคลเป็นผู้นำการตรวจค้น เมื่อถึงห้องที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้แสดงหมายค้นให้ผู้ถูกจับที่ 1-3 ดูอีกครั้ง โดยมี ล่ามซึ่งสามารถฟัง พูด และสื่อสารภาษาจีนได้เป็นอย่างดี เป็นล่ามแปล

ผลการตรวจค้นพบ ผู้ถูกจับที่ 1-3 กำลังนั่งควบคุมคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คจำนวน 4 เครื่อง และหน้าจอคอมพิวเตอร์จำนวน 2 เครื่อง พร้อมด้วยโทรศัพท์เคลื่อนที่จำนวน 21 เครื่อง โดยทุกเครื่องมีการเปิดใช้งาน ในลักษณะที่เป็นหน้าจอเกมส์พนันออนไลน์ และมีคนจีนเข้ามาเล่นจำนวนมาก มีการโอนเงินมาเพื่อซื้อเหรียญในเกมส์ สำหรับเล่นการพนันออนไลน์ หากเล่นชนะก็จะได้เงินในเกมส์มาแลกคืนเป็นเงินหยวนจากผู้ต้องหาต่อไป หากแพ้เงินดังกล่าวก็จะตกเป็นของกลุ่มผู้ถูกจับ โดยมีลูกค้าทั้งหมดเป็นคนจีน แต่มาใช้ประเทศไทยในการทำงาน

สอบถามผู้ถูกจับที่ 1-3 ให้การรับสารภาพว่า ได้ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือทั้งหมดในการควบคุมระบบเกมส์พนันออนไลน์ และสนทนากับผู้เล่นผ่านโปรแกรม We Chat มีการโอนเงินผ่าน QR Code หรือโอนจากระบบ We Chat เข้าบัญชีที่ผู้ถูกจับทั้ง 3 ผูกไว้ในระบบ โดยได้เงินจากส่วนต่างในการแลกเปลี่ยนเงินหยวนกับเงินที่ใช้เล่นในเกมส์การพนัน และเงินจากการเสียพนันของผู้เล่นเป็นรายได้ มีเงินหมุนเวียนในบัญชีประมาณ 22,000 หยวน คิดเป็นเงินไทยประมาณ 110,000 บาท และได้เปิดมาแล้วกว่า 3 เดือน เปิดตลอด 24 ชม.

โดยมีการแบ่งช่วงเวลากันเฝ้าเครื่องชัดเจนคนละ 8 ชม. โดยผู้ถูกจับที่ 1 ทำงานตอนเวลา 10.00 น. – 18.00 น. ผู้ถูกจับที่ 2 ทำงานตอนเวลา 18.00 น. – 02.00 น. และผู้ถูกจับที่ 3 ทำงานตอนเวลา 02.00 น. – 10.00 น. ซึ่งผู้ถูกจับที่ 1-3 อยู่ในราชอาณาจักรไทยเพื่อการท่องเที่ยว แต่กลับมาลักลอบทำงานในประเทศไทย ถือเป็นการกระทำความผิดฐาน “เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน” จึงได้แจ้งสิทธิและข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกจับทั้งหมดทราบ พร้อมจับกุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จากการตรวจสอบไม่พบการแจ้งคนต่างด้าวเข้าพักอาศัยของห้องชุดดังกล่าว ซึ่งจะได้ขยายผลติดตามจับกุมเจ้าของห้องชุดทั้ง 2 ห้อง ดำเนินคดีตามกฎหมาย และได้ทำการตรวจยึดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ 40 กว่ารายการ เพื่อทำการสืบสวนขยายผลในความผิดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป

สำหรับความผิดฐาน เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต หากคนต่างด้าวที่กระทำความผิดรับสารภาพ และยินยอมที่เดินทางกลับ พนักงานสอบสวน สามารถทำการเปรียบเทียบปรับ เป็นเงินจำนวน 5,000 บาท และนำตัวส่ง ตม. เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปได้

พ.ต.อ.ปริญญา กล่าวว่า ยังขอฝากประชาสัมพันธ์ กรณีพบเห็นบุคคลต่างด้าวกระทำความผิดกฎหมายต่างๆ สามารถแจ้งเบาะแส ให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบได้ทางสายด่วน 1178 หรือแจ้งเบาะแสได้ที่ ตม.จว.ทุกแห่งได้ในทันที

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน