วันที่ 16 พ.ค. ที่ บก.ปอท. ได้มีผู้เสียหายจากจังหวัดต่างๆ ในพื้นที่ภาคเหนือและอีสาน เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.นิติพัฒน์ วุฒิบุณยสิทธิ์ ผกก.(สอบสวน) บก.ปอท. และ ร.ต.อ.คมสัน ทุติยานนท์ รอง สว.(สอบสวน) กก.2 บก.ปอท. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.ทิพวรรณ ใจโอบเอื้อ และนายสมชาติ จันทะคุณ สองสามี-ภรรยา ที่เปิดเฟซบุ๊กชื่อ “ทิพวรรณ ใจโอบเอื้อ (อ้อม เล่นเฟซเดียวคะ)” จำหน่ายทองคำในราคาถูกกว่าตามท้องตลาด โดยมีผู้เสียหายหลงเชื่อกว่า 300 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 20 ล้านบาท
ผู้เสียหายกล่าวว่า ระหว่างวันที่ 1 ก.พ. ที่ผ่านมา ได้รู้จักกับทั้ง 2 ผ่านเฟซบุ๊กดังกล่าว บางคนรู้จักผ่านทางไลน์ โดยทั้งสองสามีภรรยา อ้างว่าเปิดจำหน่ายทองคำทั้งทองแท่งและทองรูปพรรณในราคาที่ได้ถูกกว่าทางสมาคมผู้ค้าทอง ที่ขายตามร้านค้าทองทั่วไป โดยมีราคาจำหน่าย เรท 3 วัน 0.6 กรัม ราคา 960 บาท, 1 กรัม ราคา 1,550 บาท, ครึ่งสลึง ราคา 2,500 บาท, 1 สลึง ราคา 5,000 บาท, 2 สลึง ราคา 9,300 บาท, 1 บาท ราคา 18,600 บาท
เรท 7 วัน 0.6 กรัม ราคา 940 บาท, 1 กรัม ราคา 1,400 บาท, ครึ่งสลึง 2,200 บาท, 1 สลึง ราคา 4,500 บาท, 2 สลึง ราคา 8,700 บาท, 1 บาท ราคา 17,500 บาท, เรท 10 วัน 0.6 กรัม ราคา 900 บาท, 1 กรัม ราคา 1,250 บาท, ครึ่งสลึง ราคา 2,100 บาท, 1 สลึง ราคา 4,300 บาท, 2 สลึง ราคา 8,400 บาท, 1 บาท ราคา 17,300 บาท, เรท 15 วัน 0.6 กรัม ราคา 900 บาท, 1 กรัม ราคา 1,200 บาท, ครึ่งสลึง 2,000 บาท, 1 สลึง ราคา 4,200 บาท, 2 สลึง ราคา 8,200 บาท, 1 บาท ราคา 17,000 บาท ลายพิกุล ลงยา เพชร พลอย สองสี บวกราคาเพิ่ม ครึ่งสลึง + 200 บาท 1 สลึง+350 บาท 2 สลึง+450 บาท 1 บาท +600 บาท นับวันหยุด เปิดโปรใหม่ ราคาพิเศษต้อนรับตัวแทนใหม่โอนได้วันนี้และพรุงนี้เท่านั้น
พวกตนหลงเชื่อจึงได้ติดต่อซื้อผ่านทางไลน์และโทรศัพท์ ระยะแรกก็ได้ทองตามที่สั่ง โดยส่งผ่านทางไปรษณีย์มาให้ หลังจากโอนเงินให้ผ่านทางบัญชีนายสมชาติ จันทะคุณ บัญชีเลขที่ 0241145271 ธนาคารกสิกรไทย เมื่อซื้อทองแล้วได้ของจริงๆ จึงตั้งตัวเป็นแม่ข่าย สั่งซื้อมาเพื่อจำหน่ายต่อ ก่อนแต่ละคนจะมีลูกข่ายหลักสิบถึงหลักร้อยคนก็มี
ต่อมาเมื่อวันที่ 1 เม.ย.การติดต่อซื้อทองคำรูปพรรณจากน.ส.ทิพวรรณ มีปัญหา เมื่อโอนเงินไปให้กลับไม่ได้ทองที่สั่งไป พยายามติดต่อทวงถามก็บ่ายเบี่ยงอ้างว่าไปรษณีย์ส่งผิดจนสุดท้ายก็ติดต่อไม่ได้อีกเลย พวกตนเชื่อว่าสองสามีภรรยาน่าจะโกง จึงไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนท้องที่ตามภูมิลำเนาของแต่ละคน ก่อนจะรวมตัวกันทางไลน์ รวบรวมผู้เสียหายได้ขณะนี้มีประมาณ 300 คน รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 20 ล้านบาท ก่อนจะนัดรวมตัวกันมาแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปอท.ให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ด้านร.ต.อ.คมสัน กล่าวว่า สำหรับคดีนี้ทางผู้เสียหายที่รวมกันมาแจ้งความพบว่าครึ่งหนึ่งเป็นลักษณะแม่ข่าย มีการซื้อทองเอามาเพื่อไปจำหน่ายเอากำไรส่วนต่างต่ออีกทอดหนึ่ง โดยทางสองสามีที่เปิดขายทองผ่านเฟซบุ๊กและไลน์ใช้เป็นกลอุบายในการหลอกขาย ตามที่ผู้เสียหายอยากได้กำไร ตามกฎหมายเป็นความผิดตามกฎหมายฉ้อโกงประชาชน แม้คนร้ายจะมีการส่งทองให้จริงแต่ราคาที่จำหน่ายให้ถูกกว่าทองตลาด 2-3 พันบาท ซึ่งคนร้ายไม่สามารถไปซื้อทองที่ไหนได้ในราคา 1.7 หมื่นบาทแน่นอน คนร้ายไปซื้อในราคาเต็ม บาทละ 2 หมื่นบาท เอามาจำหน่ายให้ผู้เสียแบบนี้เพื่อต้องการให้ผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อก่อนที่จะไปบอกประกาศให้คนอื่นมาซื้อต่อจากตนจะได้ซื้อเพิ่มมากขึ้น ก่อนจะปิดการติดต่อแล้วหลบหนี มีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน กับความผิดตาม พรบ.การกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน ส่วนการประกาศซื้อขายผ่านทางเฟซบุ๊กและไลน์ นั้นเป็นช่องทางการสื่อสาร ที่มีความผิดตาม พรบ.คอมพิวเตอร์
ขณะที่พ.ต.อ.นิติพัฒน์ กล่าวว่า กรณีของผู้เสียหายแต่ละคนที่มาแจ้งความวันนี้ ทางพนักงานสอบสวนจะรวบรวมก่อนเสนอผู้บังคับบัญชาให้พิจารณาว่าเป็นอำนาจหน้าที่ของ บก.ปอท. หรือ เป็นอำนาจของ บก.ปอศ. เพื่อจะดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
ผู้เสียหายรายหนึ่งเปิดเผยว่าได้พยายามติดตามสองสามีภรรยาคู่นึ้ซึ่งอาศัยอยู่ในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา จนทราบว่านายสมชาติ ขณะนี้ทราบว่านอนรักษาตัวอยู่ รพ.จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลังเครียดจากการที่ลูกหนี้ติดตามทวงเงินคืนจนถึงกับคิดสั้นผูกคอตายแต่ไม่สำเร็จ มีคนช่วยส่งโรงพยาบาลทัน
