ตราดอ่วม ไฟป่าไหม้ต่อเนื่อง ชาวบ้านเริ่มป่วย โอดแรงสุดรอบ 10 ปี ผวาซ้ำกับระเบิด-เสียงบึ้ม
วันที่ 23 ก.พ. ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพบ้านท่าเส้น ต.แหลมกลัด อ.เมือง จ.ตราด ว่าที่ร.ต.พิเชียน ลิมป์หวังอยู่ ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด นายธีระชัย ลิ้มประสิทธิศักดิ์ ปลัดจังหวัดตราด นายวีระ ฤกษ์วณิชย์กุล นายอำเภอเมืองตราด และนายฐิตินันท์ อุดมสุข หัวหน้าสำนักงานป้องกันบรรเทาสาธารณภัย จ.ตราด และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เดินทางมาติดตามสถานการณ์ไฟไหม้ป่าที่บ้านท่าเส้น ต.แหลมกลัด อ.เมือง จ.ตราด พร้อมแจกหน้ากากอนามัยให้ชาวบ้านในพื้นที่
กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
ว่าที่ ร.ต.พิเชียน กล่าวว่า ไฟป่าที่ไหม้เกิดขึ้นมาเป็นวันที่ 4 ต่อเนื่องกัน กินพื้นที่กว้างตลอด 4 ตำบล ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณเทือกเขาบรรทัดในเขตประเทศเพื่อนบ้าน และลุกลามเข้ามายังฝั่ง จ.ตราด ซึ่งเจ้าหน้าที่เข้าไปสกัดกั้นและดับไฟต่อเนื่อง แต่ในพื้นที่มีกับระเบิด และเกิดการระเบิดขึ้นต่อเนื่อง ทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานด้วยความยากลำบาก ขณะนี้ได้ประสานงานกับประเทศเพื่อนบ้านแก้ปัญหาร่วมกัน
“เราได้ประสานความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างใกล้ชิดในเรื่องการบริหารจัดการปัญหา ได้รับความร่วมมือด้วยดี ส่วนพื้นที่ฝั่งจังหวัดตราดยังคงมีไฟไหม้อยู่ ยังไม่สงบทั้งหมด ซึ่งทางอบต.แหลมกลัดนำรถน้ำมาดูแลตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนพื้นที่เสียหายนั้น ยังไม่มีพื้นที่เกษตรกรรม หรือทรัพย์สินใดๆ เสียหาย มีเพียงพื้นที่ป่ารอยต่อของสองประเทศเท่านั้น”
ส่วนความจำเป็นที่จะต้องใช้เฮลิคอปเตอร์ในการแก้ปัญหานั้น สถานการณ์ของ จ.ตราด ไม่มีความรุนแรงมากเหมือนที่อื่นๆ อีกทั้งช่วงปลายสัปดาห์นี้ กรมอุตนิยมวิทยาแจ้งว่าจะมีฝนตกลงมาเป็นระยะๆ ซึ่งจะทำให้ไฟป่าจะดับลงได้
นายบรรเลง เกิดสุทธิ ชาวบ้านท่าเส้น กล่าวว่า 10 ปีที่ผ่านมาไม่เคยเกิดไฟป่าเหมือนปีนี้ ทำให้สุขภาพร่างกายทั้งการหายใจไม่ดี และมีเพื่อนบ้านเจ็บป่วยแล้ว ส่วนพื้นทางการเกษตร เช่น พริก ก็เกิดเชื้อราขึ้น ทำให้ราคาตกต่ำ ผลไม้ก็ติดดอกยาก หรือเสียหายไปเลย
หลังจากนั้น ผู้ว่าฯ ตราด เดินทางไปยังพื้นที่ชายแดนบ้านท่าเส้นที่เกิดไฟป่าลุกไหม้ พบร่องรอยความเสียหายของพื้นที่ป่าตลอดเส้นทางจำนวนมาก และมาหยุดที่บริเวณท่อน้ำประปาของสถานีสูบน้ำอ่างเก็บน้ำสะพานหินของที่ทำการประปา อ.คลองใหญ่ ซึ่งใช้เป็นแหล่งน้ำให้รถน้ำและรถดับเพลิงที่จะใช้ดับเพลิงในพื้นที่ชายแดนบ้านท่าเส้น หากเกิดไฟไหม้ป่าขึ้น ซึ่งระหว่างนั้นมีชาวกัมพูชาจาก จ.โพธิสัต เดินทางเข้ามายัง จ.ตราด โดยส่วนใหญ่ชาวกัมพูชา สวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันควันไฟด้วย
ขณะที่บริเวณอ่างเก็บน้ำสะพานหิน ซึ่งอยู่ติดกับแดนกัมพูชาด้านจังหวัดโพธิสัต ทั้งด้านตะวันตกและตะวันออก ยงมีไฟป่าไหม้ตลอดเวลา และมีความรุนแรง มีควันไฟและไฟลุกไหม้ พร้อมมีเสียงดังจากกับระเบิดตลอดเวลา โดยมีแนวโน้มลุกลามต่อเนื่อง
