แรงงานพม่านับพัน แห่หนีออกจากทุกภาคของไทย เพื่อหนี พรก-ฉุกเฉิน. มาขอเปิดด่านพรมแดนถาวรแม่สอดหลังด่านปิด
วันนี้ (25 มี.ค.) เมื่อเวลา 06.30 น. ที่ประตูหน้าด่านพรมแดนถาวรแม่สอดแห่งที่ 2 ติดเชิงสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 2 เขตอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก หลังจากที่นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ผู้อำนวยการศูนย์สั่งการชายแดนไทยกับประเทศเมียนมา จังหวัดตาก
ได้มีคำสั่งให้ปิดด่านพรมแดนถาวรแม่สอดทั้งสองแห่งไปเมื่อสามวันที่ผ่านมา ซึ่งช่วงเช้าวันนี้พบคลื่นแรงงานสัญชาติเมียนมาจำนวนนับพันคนและเพิ่มจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่องอย่างไม่หยุดยั้งซึ่งแรงงานทั้งหมดนี้ได้เดินทางมาจากทั่วทุกพื้นที่ของประเทศไทย
โดยแรงงานที่เดินทางมาไกลสุดมาจากจังหวัดปัตตานีภาคใต้ของไทย และอีกหลายคนมาจากกรุงเทพมหานครและปริมณฑลโดยแห่เดินทางข้ามวันข้ามคืนแบบอพยพ โดยแรงงานทั้งหมดนี้ต่างช่วยกันลงขันเหมารถตู้โดยสารพร้อมกระเป๋าเดินทางและขนสิ่งของทุกอย่างหนีออกจากประเทศไทยเพื่อจะขอมาข้ามด่านพรมแดนถาวรแม่สอด แห่งที่ 2
แต่ปรากฏว่าประตูด่านพรมแดนถาวรแม่สอดแห่งที่ 2 ปิด เนื่องจากมีประกาศปิดด่าน จนเวลาต่อมาคลื่นแรงงานสัญชาติเมียนมา ได้เดินทางมาสมทบแบบไม่หยุดจนถนนที่มุ่งหน้ามาด่านพรมแดนถาวรแม่สอดแห่งที่ 2 ติดแนวชายแดนไทย-เมียนมา เต็มไปด้วยกลุ่มแรงงานจนแน่นพื้นที่การจราจรหน้าด่านแม่สอด
เจ้าหน้าที่ชุดประสานงานระหว่างประเทศระดับท้องถิ่นจังหวัดตาก ต้องประสานหารือการทางการเมียนมา ด่านพรมแดนตรงข้ามอำเภอแม่สอด จนทั้งสองฝ่ายมีมติให้เปิดประตูด่านพรมแดนทั้งของไทยและของประเทศเมียนมาเป็นการชั่วคราวอีกหนึ่งวัน หลังมีการเปิดด่านพรมแดนแม่สอดแบบฉุกเฉินครั้งนี้เป็นครั้งที่สามหลังมีประกาศปิดด่านเพื่อเร่งระบายคลื่นแรงงานที่ติดค้างสะสมหน้าด่านพรมแดนฝั่งอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก
ซึ่งวันนี้เจ้าหน้าที่ได้เปิดช่องทางพิเศษเฉพาะเด็กเล็กและผู้หญิงและคนป่วยคนพิการให้ได้เดินทางข้ามด่านพรมแดนก่อนเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกจนแรงงานหลายคนมีรอยยิ้มที่จะได้กลับบ้านช่วงหนีภัยโควิด-19 ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดและตรวจคัดกรองแรงงานเมียนมาแบบรายบุคคล จากเจ้าหน้าที่กองร้อย อส.อำเภอแม่สอด ทหาร ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก โดยเหตุการณ์เป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อยไม่มีเหตุการณ์วุ่นวายแต่อย่างใด
ด้านนางสาว มะไข่ อายุ 30 ปี แรงงานสัญชาติเมียนมาหนึ่งในแรงงานที่ตกค้างอยู่หน้าด่านพรมแดนถาวรแม่สอดแห่งที่ 2 กล่าวว่าตนเองพร้อมครอบครัวตัดสินใจอพยพออกจากกรุงเทพหลังตกงานจนไม่มีรายได้ประกอบกับประเทศไทยจะประกาศใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน
ในวันพรุ่งนี้ซึ่งกลุ่มแรงงานเกรงจะเดินทางไม่ได้จึงตัดสินใจหนีออกจากพื้นที่กรุงเทพเพื่อกลับบ้านในประเทศเมียนมา และจะกลับมาข้ามพรมแดนมาประเทศไทยอีกครั้งหลังสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 หมดไป