เมื่อวันที่ 7 มิย. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบสภาพความเสียหายของบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ ม.1 และ ม.5 ต.กระโด อ.ยะรัง จ.ปัตตานี หลังจากเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 6 มิย.ที่ผ่านมา เกิดฝนตกหนักและเกิดพายุหมุนอย่างรุนแรง หรือที่เรียกว่า พายุ “หัวด้วน” ทำให้พัดพาบ้านเรือนประชาชนนับร้อยหลังคาเรือน ได้รับความเสียหายอย่างหนัก บางหลังถูกพายุหมุนพัดขึ้นฟ้าก่อนจะตกลงมาทำให้บ้านพังเสียหายทั้งหลัง เช่นเดียวกัน ต้นไม้ใหญ่ เล็กขาดสองท่อนกระเด็นทับรถยนต์และบ้านพังเสียหาย

ขณะที่สวนผลไม้ถูกพายุหมุนกลืนกินเสียหายจำนวนมาก เช่นเดียวกับที่ ม.1 และ ม.2 ต.ปานัน อ.มายอ ถูกพายุลูกเดียวกันและในเวลาเดียวกันพัดถล่ม ทำให้บ้านเรือนทั้ง 2 หมู่บ้านหลังคาและตัวบ้านได้รับความเสียหาย 70 หลังคาเรือน อย่างไรก็ตาม หลังจากพายุถล่มทั้ง 2 อำเภอทำให้พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบเกิดไฟฟ้าดับตลอดทั้งคืน ล่าสุดผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานีประกาศให้พื้นที่ อ.มายอ และ อ.ยะรัง เป็นพื้นที่เกิดภัยพิบัติฉุกเฉิน พร้อมกับเร่งให้ทางอำเภอตรวจสอบความเสียหายทั้งหมด เพื่อเข้าไปให้ความช่วยเหลือกู้ได้รับผลกระทบให้เร็วที่สุด

ขณะที่ชาวบ้านบอกว่า เกิดมาไม่เคยเจอพายุพัดน่ากลัวมาก เช่นที่บ้านของ นางวอ เจ๊ะสมอ เจ๊ะ อายุ 70 ปี ซึ่งเป็นบ้านไม้ยกพื้นทั้งหลัง ถูกพายุพัดลอยขึ้นอากาศเวียนตัวบ้านหมุนก่อนจะตกกระแทกพื้นพังเสียหายทั้งหลัง โชคดีที่ นางวอเจ๊ะสมอ ซึ่งอยู่ภายในบ้านปลอดภัยเนื่องจากคานตัวบ้านล้มกันร่างไว้

ต่อมาเวลา 11.00 น. นายวีรนันทน์ เพ่งจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี นางอัญญาณี เพ็งจันทร์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดปัตตานี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องนำกระเบื้องหลังคาและถุงยังชีพเดินทางเข้าไปพื้นที่ เพื่อมอบให้กับผู้ได้รับผลกระทบ และให้เจ้าหน้าที่เร่งสำรวจประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน และความเสียหายของทรัพย์สินโดยเร็วที่สุดเพื่อจะให้ดำเนินการช่วยเหลือ และในเบื้องต้นสำหรับบ้านที่เสียหายทั้งหลัง ทาง อบต.ได้จัดเต็นท์ให้เป็นที่พักอาศัยชั่วคราว จนกว่าจะหาบ้านพักใหม่ให้อาศัยในช่วงซ่อมแซมบ้านให้แล้วเสร็จ

นายวีรนันทน์ เปิดเผยว่า เหตุภัยธรรมชาติครั้งนี้เกิดขึ้นโดยที่ประชาชนไม่รู้ตัวมาก่อนเพราะไม่เคยเกิดขึ้น แต่โชคดีที่ไม่มีผู้เสียชีวิต มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 2 คนจากเศษกระเบื้อง สำหรับพายุลูกนี้ ชาวบ้านเรียกว่า พายุ “หัวด้วน” ส่งผลให้บ้านเรือนที่เสียหายหนักทางจังหวัดจะเร่งหาทางช่วยเหลือเยีวยา ซึ่งตนได้รับรายงานจากอำเภอว่า พื้นที่ ต.กระโด อ.ยะรัง ที่ได้รับผลกระทบ คือ ม.1 จำนวน 57 หลัง และ ม.5 จำนวน 46 หลัง รวม 103 หลังคาเรือน ส่วนพื้นที่การเกษตรกำลังตรวจสอบ ส่วน ต.ปานัน อ.มายอ พื้นที่ ม.1 บ้านเรือนเสียหาย จำนวน 52 หลัง ม.2 บ้านเรือนเสียหาย 18 หลัง รวม 70 หลังคาเรือน

นายมะรอสารี มาเจ อายุ 51 ปี เล่าถึงเหตุการณ์ระทึกที่เกิดขึ้นว่า ช่วงเกิดเหตุตนอยู่ริมถนนในที่ปลอดภัย ก่อนที่จะเกิดพายุมีเสียงดังแปลกๆ จากนั้นมีฝนตกลงมาอย่างหนักพร้อมกับพายุหมุนพัดรุนแรง ขนาดที่ต้นไม้ใหญ่ขาดสองท่อนและหมุนขึ้นฟ้าตกลงมา เช่นเดียวกับบ้านของนางวอเจ๊ะสมอ ที่ผ่านมาไม่เคยเกิดขึ้น ครั้งนี้เป็นครั้งแรก พายุครั้งนี้ทำให้บ้านเสียหายจำนวนมาก

“ทีแรกมีลมกับฝน จนกระทั่งท้องฟ้าสีดำก็เกิดพายุหมุนทันที ตนอยู่ในบ้านเห็นพายุหมุนเอาต้นไม้หน้าบ้านขาดสองท่อน โรงรถหน้าบ้านลอยหายไปตกข้างบ้าน จากนั้นต้นไม้ที่ถูกพายุหมุนตกลงใส่รถยนต์จนเสียหายทั้งคัน ต้นยางของตนเสียหายหลายต้น ยอมรับว่าตกใจ และไม่รู้จะทำงานได้หรือไม่ เพราะรถยนต์เสียหาย” นายมะรอสารี กล่าว

ขณะที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จ.ปัตตานี เร่งเข้ามาทำการซ่อมแซม สายไฟที่ขาดส่งผลให้ทั้งหมู่บ้านไฟดับ โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในเย็นวันนี้

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน