ฤทธิ์พายุฤดูร้อน ฝนกระหน่ำทำไฟป่าเชียงใหม่ดับทั้งหมด แต่ยังเฝ้าระวังหลังกรมอุตุชี้พ.ค.จะแล้งหนัก เตรียมสรุปบทเรียน เสนอรมว.ทส.และรองนายกฯประวิตร

วันที่ 27 เม.ย. นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผวจ.เชียงใหม่ พร้อมด้วยนายคมสัน สุวรรณอัมพา รองผวจ.เชียงใหม่ ประชุมคณะทำงานศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กPM2.5 จังหวัดเชียงใหม่ ณ ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่

พบว่าเป็นวันแรกที่จังหวัดเชียงใหม่ไม่ มีจุด Hot Spot แม้แต่จุดเดียว เมื่อวานที่ผ่านมา เนื่องจากได้เกิดฝนตกหนักในหลายอำเภอ โดยศูนย์อุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศ จะมีฝนตกจนถึงวันที่ 28 เม.ย.

หลังจากนั้นระหว่างวันที่ 1-15 พ.ค. 2563 อากาศจะกลับมาร้อนและแล้ง ดังนั้นต้องมีการบริหารจัดการเชื้อเพลิง โดยเฉพาะพื้นที่ที่กำหนดให้เผาได้เน้นหนักที่โซนใต้ของจังหวัดและโซนเหนือบางอำเภอ ส่วนพื้นที่ที่มีฝนตก อาจจะมีการปรับเปลี่ยนไปทำปุ๋ยหมัก ปุ๋ยอินทรีย์หรือไถกลบแทน

โดยคาดการณ์ว่าเมื่อปรากฏการณ์เอลนิลโญ่หมดไป ปีนี้ประเทศไทยจะต้องเตรียมรับมือกับปรากฏการณ์ลานิญญ่า ซึ่งต้องเตรียมรับมือภาวะอุทกภัย ต้องสำรวจตรวจสอบระบบเตือนภัยที่ติดตั้งไว้แล้ว 243 แห่งทั้งจังหวัด ให้กลับมาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากและพื้นที่เฝ้าระวังดินโคลนถล่ม

ไฟป่าเชียงใหม่ยังวิกฤต! จนท.-จิตอาสา ระดมดับกลางดึก บนดอยอินทนนท์ วอนหยุดเผา

ทั้งนี้จากสถานการณ์หมอกควันที่ดีขึ้นตามลำดับ ทั้งหน่วยบินของกองทัพอากาศและศูนย์ส่วนหน้าสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะปิดศูนย์ในวันที่ 30 เม.ย. นี้ โดยในวันที่ 15 พ.ค.จะถอดบทเรียนระดับจังหวัดเชียงใหม่ และวันที่ 19-20 พ.ค. จะถอดบทเรียนระดับประเทศที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะเดินทางมาประชุมในวันที่ 20 พ.ค. และพล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จะเดินทางมารับฟังข้อสรุปถอดบทเรียนพร้อมปลูกต้นไม้เนื่องในวันต้นไม้แห่งชาติในวันที่ 21 พ.ค.

นอกจากน้ นายคมสัน สุวรรณอัมพา พร้อมด้วยพ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ รองผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ จะขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินสำรวจ พร้อมให้มีการนำโดรนขึ้นบินสำรวจพื้นที่อำเภอแม่แจ่มและอำเภอสะเมิง เพื่อเก็บข้อมูลประกอบการสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิด สั่งการให้สถานีตำรวจภูธรแม่แจ่มหาหลักฐานดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด เช่นเดียวกับที่อำเภออมก๋อย และเภอเชียงดาว ก็ให้ขยายผลจับกุมผู้ลักลอบเผาเช่นกัน โดยแจ้งทุกสถานีตำรวจให้ประสานกับศูนย์อำเภอทุกอำเภอเพื่อทำงานร่วมกัน ทั้งนี้ตลอดปีนี้ มีการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดแล้ว 1,352 คดี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน