เมื่อวันที่ 14 กค. พ.อ.หาญพล เพชรม่วง ผู้บังคับหน่วยเฉพากิจกรมทหารพรานที่ 43 ได้นำกำลังร่วม 50 นาย นำตัวนายเปายี ตาสะเมาะ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18/2 ม.5 ต.ปะกาฮารัง อ.เมือง ปัตตานี ผู้ต้องสงสัยที่ถูกควบคุมตัวตามกฎอัยการศึก ไปค้นหาอาวุธปืนหลังจาก นายเปายีสารภาพว่านำอาวุธปืนซุกซ่อนไว้ในสวนยางพารา ม.4 บ้านกาฮง ต.ปะกาฮารัง และเมื่อมาถึงนายเปายี ชี้จุดซ่อนอาวุธปืน และขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังขุดหาอาวุธปืน ปรากฏว่านายเปายีอาศัยจังหวะเจ้าหน้าที่เผลอสะบัดตัวหลุดจากการควบคุม ก่อนจะหยิบปืนจากที่ซ่อนในพงหญ้าแล้วยิงใส่เจ้าหน้าที่ 1 นัด

จากนั้นจึงวิ่งกระโดดลงในคลองชลประทานเพื่อหลบหนี เจ้าหน้าที่ตะโกนสั่งให้หยุดพร้อมกระจายกำลังปิดล้อมไล่ล่า ขณะที่นายเปายีพยายามว่ายน้ำหนีขึ้นฝั่งตรงข้าม ซึ่งเป็นพื้นที่ ม.5 ต.ปะกาฮารัง และได้แอบในพุ่มไม้ เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ปิดล้อมก็ใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่อีกครั้ง จำนวน 3 นัด ทำให้เจ้าหน้าที่ตัดสินใจยิงตอบโต้เพื่อป้องกันตัว กระสุนถูกนายเปายีเสียชีวิตทันที

หลังเกิดเหตุพล.ต.จตุพร กลัมพสุต ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบก.ภ.จ.ปัตตานี พ.ต.อ.กีรติ แวยูโซ๊ะ ผกก.สภ.เมืองปัตตานี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน อัยการจังหวัด และแพทย์ รพ.ปัตตานี เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยนายเปายีถูกกระสุนของเจ้าหน้าที่เข้าลำตัว 4 นัด อยู่ในสภาพสวมเสื้อยืดสีแดง กางเกงขายาวสีดำ และพบอาวุธปืน ขนาด .38 ตกอยู่ที่มือขวา จำนวน 1 กระบอก ภายในรังเพลิงมีกระสุนถูกยิงไปแล้ว 4 นัด และยังไม่ได้ยิงอีก 2 นัด จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

พล.ต.จตุพร เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ปะทะเมื่อวันที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้นายนายซูดิง มามะ เสียชีวิต และสามารถเชิญตัวผู้ต้องสงสัยได้ 2 ราย และสามารถยึดรถจักรยานยนต์ 1 คัน ตรวจสอบแล้วเป็นรถที่คนร้ายที่ใช้ในการก่อเหตุคาร์บอมบ์ที่บิ๊กซี จ.ปัตตานี และเชิญตัวผู้ที่เก็บรักษารถคันก่อเหตุมายังศูนย์ซักถาม และยอมรับว่าอยู่ในกลุ่มเดียวกันและผู้ที่หนี 2 คน คือมะนาเซ ไซดี มีหมายจับ และมีอาวุธซุกซ่อนอยู่ ตอนแรกบอกว่ามีปืนฝังอยู่ จึงนำตัวนายเปายีเข้ามาตรวจหาอาวุธปืนที่ซ่อนอยู่ แต่เมื่อเจออาวุธปืน กลับเป็นปืนพกสั้น และนำปืนดังกล่าวมายิงเจ้าหน้าที่ 1 นัด เพื่อเปิดทาง ก่อนที่จะวิ่งกระโดลงน้ำ เจ้าหน้าที่จึงได้ปิดล้อมและเกิดการปะทะ เป็นเหตุให้เสียชีวิต

“เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย ถ้าเกิดนายเปายีให้ข้อมูลมากกว่านี้ ทางเจ้าหน้าที่จะขยายผลไปถึงคนก่อเหตุคาร์บอมบ์ที่บิ๊กซี เพราะพยานหลักฐานได้ยืนยันแล้วว่าเป็นกลุ่มเดียวกัน เพราะวงจรปิดก็ยืนยันว่ารถจักรยานยนต์คันดังกล่าวใช้ในการหลบหนี ซึ่งเชื่อว่านายซูดิงและนายเปายี เกี่ยวโยงกับระเบิดห้างบิ๊กซี” ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี กล่าว








Advertisement

สำหรับนายเปายี ตาสะเมาะ ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวหลังจากเกิดเหตุการณ์ ยิงปะทะกันขณะปิดล้อมตรวจค้นบริเวณมัสยิดบ้านกาฮง ม.5 ต.ปะกาฮารัง อ.เมืองปัตตานี เมื่อวันที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งครั้งนั้นนายซูดิง มามะ ถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญเสียชีวิต ส่วนอีก 2 คนหลบหนีไปได้ หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่จึงสืบสวนสอบสวนและพบนายเปายี อยู่บริเวณที่เกิดเหตุจึงคุมตัวในฐานะผู้ต้องสงสัยเข้าศูนย์ซักถาม ที่ค่ายอิงคยุทธบริหารปัตตานี เพื่อสอบสวนขยายผลและให้การรับสารภาพว่า รู้จักกับนายซูดิงและ นายมะนาแซ ไซดี ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีความมั่นคง จำนวน 7 หมาย และคดีระเบิดคาร์บอมบิ๊กซี เมื่อวันที่ 9 พค.2560

ส่วนอีกคนจะเป็นนายยูโซะ แมะดีเมาะ ผู้ต้องหาคดีระเบิด 7 จังหวัดภาคใต้ เมื่อวันที่ 11 สค.2559 หรือไม่นั้นไม่มั่นใจ พร้อมกับบอกแหล่งซุกซ่อนอาวุธปืนครั้งนี้ด้วย เจ้าหน้าที่จึงนำตัวไปยังจุดซุกซ้อนแต่ก็ไม่คาดคิดว่า นายเปายีจะกระทำการดังกล่าวขึ้น จนเป็นเหตุให้ตัวเองเสียชีวิตจากการปะทะในครั้งนี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน