เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 22 ก.ค. ขณะที่ พ.ต.อ.วิวัฒน์ ศรีทองจ้อย ผกก.สอบสวนภาค 7 กำลังเดินออกกำลังกายอยู่บริเวณหน้าโบสถ์ ภายในองค์พระปฐมเจดีย์ ฝั่งประตูโพธิ์ทอง เขตเทศบาลนคร นครปฐมอยู่นั้น ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือของ น.ส.ศุธาสิณี นาคบุปผา อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 160/186 หมู่ 5 ต.บางกรวย อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ขอความช่วยเหลือว่าช่วยด้วย มีคนร้ายกระชากสร้อย จึงวิ่งลัดเพื่อดักทางและสามารถจับกุมคนร้ายได้ ทราบชื่อต่อมาคือนายศศิณัฎฐ์ สิทธิ์เดชตีรณา อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 234/15 ถนนเทศา ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมืองนครปฐม
พร้อมด้วยของกลาง สร้อยคอทองคำ หนัก 5 บาท จำนวน 1 เส้น อยู่ในกำมือขวาของนายศศิณัฎฐ์ และพบพระเลี่ยมทองจำนวน 1 องค์ หล่นอยู่ในที่เกิดเหตุ จึงตรวจยึดของกลางทั้งหมด และประสาน ตร.สภ.เมืองนครปฐมควบคุมตัวไปสอบปากคำ
ด้านน.ส.ศุธาสิณี ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนหยุดงานจึงชวนเพื่อนเดินทางจากจ.นนทบุรี มาไหว้พระที่องค์พระปฐมเจดีย์ หลังจากที่ทำบุญไหว้พระเสร็จแล้ว กำลังจะเดินลงบันไดกลับมาที่รถยนต์ มีคนร้ายวิ่งมาจากด้านหลังแล้วกระชากสร้อยคอทองคำไปจากคอ แล้ววิ่งหลบหนีไป จึงร้องเรียกให้คนช่วยจนกระทั่งจับตัวคนร้ายไว้ได้
นายศศิณัฎฐ์ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ก่อเหตุจริง โดยขับรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า วีออส สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน ขข3842 ชลบุรี มาจากบ้านพักในจ.นครปฐม จากนั้นมานั่งที่ใต้ต้นไม้เพื่อหาเหยื่อ ขณะเดียวกันพบเห็นผู้เสียหายใส่ทองเส้นโต จึงก่อเหตุและไม่คาดคิดว่าจะถูกจับกุม โดยนายศศิณัฎฐ์อ้างว่า ตนตกงาน ไม่มีเงิน แต่มีหน้าที่เลี้ยงลูกสาววัย 2 ขวบเศษอยู่ที่บ้าน ส่วนภรรยาเป็นพยาบาลต้องไปทำงานที่โรงพยาบาลทุกวัน ตนเป็นหนี้พนันบอล โดยเจ้าหนี้ข่มขู่จะทำร้ายลูกเมียของตน แต่ตนไม่อยากให้คนในครอบครัวเดือดร้อน จึงมาก่อเหตุดังกล่าว
พ.ต.อ.วิวัฒน์ ศรีทองจ้อย ผกก.สอบสวน ภาค 7 เปิดเผยว่า ตนมาเดินจงกรมอยู่ที่องค์พระปฐมเจดีย์ ขณะที่กำลังเดินอยู่นั้นมีพลเมืองดีตะโกนเสียงดังว่า ให้ช่วยจับคนร้ายสวมเสื้อสีดำก่อเหตุกระชากสร้อย ตนจึงวิ่งลัดไปดักอีกฝั่ง และยังมีพลเมืองดีวิ่งไปช่วยกันจับอีกทาง จนสามารถจับไว้ได้พร้อมของกลาง จากนั้นโทรแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครปฐม มารับตัวไปดำเนินคดี ในข้อกล่าว วิ่งราวทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ
