จากกรณี ดต.ไชยยงค์ แจ่มรุ่งโรจน์ อายุ 53 ปี ตำรวจ สภ.กระสัง เป็นสายตรวจ ต.บ้านปรือ อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ใช้อาวุธปืนยิง นายรมย์ ร่าเริงยิ่ง อายุ 52 ปี บ้านเลขที่135 หมู่5 ต.บ้านปรือ กระสุนถูกขาซ้ายและใต้ราวนมขวา รวม 2 นัดบาดเจ็บ สาเหตุเพราะทั้งสองฝ่ายซึ่งมีบ้านอยู่ตรงข้ามกัน แต่ไม่ลงรอยกันเรื่องการเปิดเสียงเพลงดัง ซึ่ง ดต.ไชยยงค์ เคยมาเตือนแล้วหลายครั้ง ทำให้ต่างคนต่างไม่พอใจกันมานาน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 13 ก.ค. ที่ผ่านมา
คืบหน้าล่าสุดวันที่ 14 ก.ค. นายรมย์ ยังนอนรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ ซึ่งแพทย์ได้ทำการผ่าตัดเอากระสุนออกแล้ว ขณะนี้อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว ส่วน ด.ต.ไชยงค์ ได้เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สภ.กระสัง ตั้งแต่เมื่อวานนี้ เบื้องต้นถูกแจ้งข้อหา “พยายามฆ่า” ขณะนี้อยู่ระหว่างการควบคุมตัวที่ สภ.กระสัง เพื่อสอบปากคำตามกระบวนการขั้นตอน
ขณะที่ นางสุเพียบ ร่าเริงยิ่ง อายุ 48 ปี ภรรยา ของนายรมย์ เผยว่า ไม่อยากให้มีการประกันตัวผู้ต้องหา เพราะเกรงจะไม่ปลอดภัยเนื่องจากผู้ก่อเหตุเป็นตำรวจและมีอาวุธปืน พร้อมทั้งเรียกร้องให้ทางตำรวจภูธรภาค3 หรือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้พิจารณาแต่งตั้งชุดพนักงานสอบสวนจากนอกพื้นที่เข้ามาทำคดีดังกล่าวด้วย เพราะเกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรม
เนื่องจากผู้ก่อเหตุเป็นตำรวจในสังกัด สภ.กระสัง เกรงจะมีการช่วยเหลือหรือทำคดีไม่ตรงไปตรงมา พร้อมยืนยันว่าชนวนเหตุไม่ใช่แค่เรื่องเปิดเพลงเสียงดัง ตามที่ผู้ก่อเหตุกล่าวอ้าง เพราะความจริงแล้วคู่กรณีเคยมีปัญหาพิพาทกับทางญาติมาก่อนหน้านี้ ถึงขั้นมีการแจ้งความดำเนินคดีกันมาแล้ว
หลังจากนั้นคู่กรณีก็ไม่พอใจทางครอบครัวมาตลอด ที่ผ่านมาก็เคยยิงปืนขึ้นฟ้าในลักษณะข่มขู่มาหลายครั้งแล้ว จนครอบครัวต้องอยู่อย่างหวาดระแวงมาตลอด เพราะคู่กรณีเป็นตำรวจและมีปืนพกติดตัว จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงอยากขอความเป็นธรรมให้กับทางครอบครัวด้วย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
