เพนกวิน–ไผ่ ดาวดิน นำกลุ่มนศ.ขอนแก่นชุมนุม ชูจุดยืน 3 ข้อ ยุบสภา-ลาออก-แก้รัฐธรรมนูญ ลั่นถึงเวลาที่ประชาชนต้องออกมาปฎิบัติ ถนนทุกสายต้องมุ่งหน้าสู่กรุงเทพฯ
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 23 ก.ค. ที่บริเวณสวนรัชดานุสรณ์ ตรงข้ามศาลากลาง จ.ขอนแก่น กลุ่มขอนแก่นพอกันที และกลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น จัดชุมนุมและแสดงออกทางสัญลักษณ์ “อีสานบ่ย่านเด้อ” เพื่อแสดงจุดยืนในข้อเรียกร้องตามระบอบประชาธิปไตย 3 ข้อหลัก ประกอบด้วย พล.อ.ประยุทธ์ จันโอชา นายกรัฐมนตรี ลาออกจากตำแหน่ง , การยุบสภา และการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
โดยมีผู้ร่วมชุมนุมส่วนใหญ่เป็นนักเรียน นักศึกษา รวมทั้งประชาชนชาวขอนแก่นและจังหวัดใกล้เคียง ทยอยเดินทางมาร่วมชุมนุมอย่างต่อเนื่องรวมหลายพันคน
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
ทันทีที่ถึงเวลานัดหมายแกนนำในการชุมนุม นำโดย นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน แกนนำสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย หรือสนท. และนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน รวมไปถึงแกนนำในระดับพื้นที่ ได้ใช้เครื่องขยายเสียงเชิญชวนให้ผู้ที่มาร่วมชุมนุมนั้นมารวมตัวกันบริเวณเวทีกลางสวนรัชดานุสรณ์ เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนของการจัดกิจกรรม ด้วยการจัดแสดงหมอลำอีสานพื้นบ้าน ควบคู่ไปกับการจัดนิทรรศการไว้อาลัยรัฐธรรมนูญของไทย ท่ามกลางมาตรการรักษาความปลอดภัยของตำรวจ ทหารและฝ่ายปกครอง ทั้งในและนอกเครื่องแบบอย่างเข้มงวด
นายพริษฐ์ กล่าวว่า การร่วมกันชุมนุมนั้นขั้นแรกคือการให้ พล.อ.ประยุทธ์ ออกจากตำแหน่ง เพราะตอนนี้พล.อ.ประยุทธ์เป็นศูนย์รวมของคนไม่พอใจ แต่ก็ต้องเข้าใจว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้อยู่แค่คนเดียว แต่มีเพื่อนมีพวกพ้อง มีระบบระบอบ เป็นผู้กุมกฎหมายที่ออกแบบมาไว้
“ตอนนี้เราต้องรื้อทั้งระบบ เราต้องออกแบบระบบกันใหม่โดยประชาชน และร่วมร่วมร่างรัฐธรรมนูญกันใหม่ ล้างไพ่เอาทหารกลับเข้ากรมกอง กระจายอำนาจและจัดสวัสดิการ สร้างเสริมโอกาสให้ประชาชน ทุกคนต้องมีโอกาสเท่าเทียมกัน โดยกิจกรรมในวันนี้มีโอกาสเข้าร่วม ซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นจากผม หรือใครคนใดคนหนึ่ง แต่เกิดจากกลุ่มคนในจังหวัดนั้นๆ พร้อมใจกันจัดขึ้นมา เพื่อให้เกิดประชาธิปไตยจากประชาชนเพื่อประชาชน”
ขณะที่นายจตุภัทร์ บุกล่าวว่า การจัดการชุมนุมตามระบอบประชาธิปไตยจะยังคงดำเนินการครอบคลุมในทุกจังหวัด ซึ่งขณะนี้ทุกจังหวัดมีความพร้อมในการที่จะออกมามีส่วนร่วมและแสดงออกถึงการต่อต้านรัฐบาล ต่อต้านพล.อ.ประยุทธ์ บางจังหวัดแม้จะมีคนไม่มาก แต่คือพลังที่จะมาร่วมกันมารวมตัวกันขับเคลื่อน เพื่อเรียกร้องระบอบประชาธิปไตยและเรียกร้องความถูกต้องให้เกิดขึ้นในประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถึงเวลาแล้วคือการที่ประชาชนจะลุกขึ้นปฎิบัติ ที่เป็นการทำรัฐประหารโดยประชาชนเอง จนนำไปสู่การร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่เป็นสิ่งที่ประชาชนต้องการอย่างแท้จริง แผนการจัดการชุมนุมนั้นจะดำเนินการอย่างต่อเนื่องต่อไป แต่ท้ายที่สุดแล้วถนนทุกสายจะมุ่งสู่กรุงเทพฯ อย่างแน่นอน
