จากกรณีเกิดเหตุคนร้ายขี่รถจยย.ประกบเหยื่อที่ขี่รถจยย.บนถนนแล้วกระชากกระเป๋าคนซ้อนท้าย จนตกจากรถเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 ก.ค. บริเวณถนนสายปัตตานี-ยะลา สาย 410 ต.บาราเฮาะ อ.เมือง จ.ปัตตานี ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น อ่านข่าว ล่าโจรใจเหี้ยม! ขี่จยย.ประกบ กระชากกระเป๋า สาวตกรถเสียชีวิต
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 3 ส.ค. ที่ สภ.เมืองปัตตานี นายพรหมพิริยะ กิจนุสนธิ์ รอง ผวจ.ปัตตานี พล.ต.ต.จีรวัฒน์ พยุงธรรม ผบก.ภ.จว.ปัตตานี พ.ต.อ.ญาณพงศ์ อุบลบาน ผกก.สภ.เมืองปัตตานี พ.ท.ภาคภูมิ จันทรักษ์ ผบ.ฉก.ปัตตานี 25 พร้อมด้วยชุดสืบสวนสอบสวน สภ.เมืองปัตตานี ร่วมแถลงจับกุม นายภาคภูมิ เงาะ อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีวิ่งราวทรัพย์ จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต พร้อมของกลางรถจยย.ฮอนด้าเวฟ สีดำแดง ทะเบียน ข-8158 ยะลา
พล.ต.ต.จีรวัฒน์ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุ ชุดสืบสวนสอบสวนได้เร่งลงพื้นที่ตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ จากกล้องวงจรปิดทั้งหมด สืบค้นเบาะแสจนสามารถรู้ตัวคนร้ายที่ก่อเหตุได้ โดยเฉพาะภาพจากกล้องวงจรปิดที่คนร้ายก่อเหตุกระชากกระเป๋าจนเป็นเหตุให้ นางยูวีดา เวาะหลง อายุ 45 ปี ที่นั่งซ้อนท้ายรถจยย.เสียชีวิต เมื่อวันที่ 29 กค.ที่ผ่านมา และจากการสืบสวนสอบสวนขยายผลทราบว่า คนร้ายรายนี้มีรูปพรรณตรงกับหลักฐานจากกล้องวงจรปิด ขณะก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านโทรศัพท์ในพื้นที่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 26 กค.ที่ผ่านมา
รวมไปถึงพยานบุคคลที่ชี้ยืนยันตรงกันว่าเป็นคนร้ายคนเดียวกันที่ก่อเหตุชิงโทรศัพท์มือถือ 2 เหตุในพื้นที่ อ.โคกโพธิ์ ในวันเดียวกัน หลังจากก่อเหตุกระชากกระเป๋าในพื้นที่ อ.เมือง เมื่อวันที่ 29 กค.ที่ผ่านมา และเมื่อตรวจสอบ รถจยย.ฮอนด้าเวฟ 110 ไอ สีดำแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ปรากฏว่าเป็นคันเดียวกันที่ใช้ก่อเหตุ จึงได้ตรวจสอบรถจยย.จนทราบว่าเจ้าของรถเป็นของภรรยาของ นายภาคภูมิ หลังก่อเหตุได้ไปอยู่ที่บ้านภรรยาที่บ้านเลขที่ 129/1 หมู่ 5 ต.ยะหา อ.ยะหา จ.ยะลา
ภายหลังรวบรวมพยานหลักฐานพบว่าผู้ก่อเหตุเป็นคนเดียวกันที่ก่อเหตุทั้ง 4 อำเภอ จึงได้เรียกชุดสืบสวนสอบสวนมาประชุมสรุปคดี จนกระทั่งสามารถขออนุมัติศาลจังหวัดปัตตานีออกหมายจับ นายภาคภูมิ ที่ก่อเหตุชิงทรัพย์ในพื้นที่ อ.หนองจิก เป็นคดีแรก ก่อนที่จะรวบรวมหลักฐานออกหมายจับอีกถึง 4 คดี
พล.ต.ต.จีรวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่ต้องขอโทษผู้เสียหายทุกรายที่ไม่สามารถดูแลความปลอดภัยได้ แต่ก็พยายามเต็มที่ให้ดีที่สุดเพื่อจับคนร้าย เจ้าหน้าที่เองได้แจ้งเตือนให้ทุกคนอย่าประมาท อยากชี้แจงให้ประชาชนให้ความระมัดระวังมากขึ้น อย่านำทรัพย์สิน ของมีค่าติดตัว ห้ามวางไว้ตะกร้าหน้ารถ จะเป็นเหตุให้คนร้ายที่จ้องดูอยู่ นำไปก่อเหตุปล้นชิงได้ และหากมีผู้เสียหายรายใดชี้ตัวยืนยันคนร้ายในคดีเดียวกันก็ขอให้มาแจ้งความที่โรงพักพื้นที่เกิดเหตุได้
สำหรับ นายภาคภูมิ ได้รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาทุกคดี และยังรับว่าที่ก่อเหตุเนื่องจากตกงานและต้องหาเงินเลี้ยงดูครอบครัวและลูกอีก 2 คน และหลังจากนี้ตนจะได้ประสานไปยังพื้นที่ จ.ยะลา และนราธิวาสว่า ผู้ต้องหารายนี้เคยก่อเหตุในพื้นที่หรือไม่