ตร.เตรียมเอาผิดครูทำโทษเด็กเอารองเท้าวางบนหัว ก่อนสั่งให้กราบ ฐานวางไม่เป็นระเบียบ หากสอบพบว่าเข้าข่ายผิดพ.ร.บ. คุ้มครองเด็ก รอง ผอ.โรงเรียนเผย ตั้งกก.การสอบ รายงานผลให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้ว ขณะที่เจ้าตัวลาพักไม่มีกำหนด ด้าน ผอ.เขต 29 อุบลฯ เผยยังไม่สรุป ต้องรอผลอีกหลายขั้นตอน โดยระหว่างสอบสวน จะให้เจ้าตัวมาช่วยราชการที่สนง.ก่อน ยันให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ส่วนคุณครูยอมรับทำจริง แต่เจตนาให้นักเรียนมีวินัย ไม่คิดจะทำร้าย ด้านลูกศิษย์ชี้สมัยก่อนโดนหนักกว่านี้ไม่เคยโกรธครู เตรียมรวมตัวให้กำลังใจ

จากกรณีโลกออนไลน์แชร์คลิปครูคนหนึ่งที่โรงเรียนทุ่งเทิงยิ่งวัฒนา ต.ทุ่งเทิง อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี ลงโทษเด็ก โดยการใช้รองเท้านักเรียนวางบนศีรษะ และสั่งให้กราบรองเท้า เนื่องจากวางรองเท้าไม่เป็นระเบียบ ผู้โพสต์ระบุว่า “ครูท่านนี้ลงโทษนักเรียนเกินกว่าเหตุ ที่จริงจัดเรียงรองเท้าไม่เป็นระเบียบก็ควรให้เด็กจัดใหม่ ไม่ใช่ใช้อารมณ์กับเด็ก ถ้าเด็กมีปมก็จะกลายเป็นปัญหาของสังคม” หลังคลิปเผยแพร่ออกไปมีผู้เข้ามาคอมเมนต์ต่อว่าเป็นจำนวนมาก ขณะที่ญาติๆ นักเรียนที่ถูกลงโทษได้เข้าแจ้งความที่ สภ.เดชอุดม เพื่อเอาผิดกับคุณครูรายดังกล่าว

ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 ส.ค. นางอรษา วิเศษรอด รองผอ.โรงเรียนทุ่งเทิงยิ่งวัฒนา กล่าวว่า วันนี้ด.ช.ติ้ว (นามสมมติ) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ถูกลงโทษในคลิปเดินทางมาเรียนหนังสือตามปกติ ส่วนคุณครูผู้ที่อยู่ในคลิปซึ่งเป็นครูชำนาญการพิเศษ แจ้งขอลาหยุดโดยไม่มีกำหนด เพื่อขอทำใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ด้านการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนของโรงเรียนทั้งหมด 3 คน และได้สรุปข้อมูลทั้งหมดส่งไปยังคณะกรรมการของสำนักงานเขตการศึกษามัธยม ศึกษาเขต 29 จังหวัดอุบลราชธานีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนผลการสอบสวนในส่วนของโรงเรียนยังไม่ขอเปิดเผย แต่ยืนยันว่าได้รวบ รวมเป็นไปตามข้อเท็จจริงและให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย

ส่วนความเคลื่อนไหวจากฝ่ายคณะครู และนักเรียน ตอนนี้ขอยังไม่ให้ข้อมูลใดๆ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันเดียวกันคุณครูที่เป็นข่าว เผยกับเพื่อนครูที่สนิทกันว่า ตอนนี้ยังไม่พร้อมให้สัมภาษณ์หรือพูดอะไรกับสื่อ ขอให้เป็นไปตามผลการตรวจสอบของคณะกรรมการ ซึ่งผลจะออกมาอย่างไรก็ขอยอมรับ แต่ตอนนี้ขอเวลาทำใจก่อน

ด้านนายอดุลย์ กองทอง ผอ.เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 29 จ.อุบลราชธานี เผยว่าตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าวออกมา 2 ชุด คือชุดคณะกรรมการโรงเรียน และชุดของสำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษา ซึ่งตรวจสอบไปควบคู่กัน เนื่องจากกรณีดังกล่าวเป็นที่สนใจของสังคมจำนวนมาก อีกทั้งยังมีผลต่อตำแหน่งหน้าที่ของครูที่ลงโทษเด็กด้วย จึงต้องมีความรอบคอบและรัดกุม ซึ่งนอกจากจะรอสรุปผลจากคณะกรรมการทั้งสองฝ่ายแล้ว ยังต้องมีการตีความทางกฎหมาย และระเบียบข้าราชการ จากนิติกร ของสำนักงานเขตอีกครั้ง ยังต้องใช้ระยะเวลาหนึ่งถึงจะทราบผล ซึ่งตนได้พูดคุยกับคุณครูที่เป็นข่าวแล้ว เจ้าตัวยอมรับว่าได้กระทำจริง แต่การกระทำดังกล่าวมีเจตนาเพียงต้องการให้นักเรียนได้รู้ระเบียบวินัยเท่านั้น โดยไม่มีเจตนาอื่น

ทั้งนี้ระหว่างที่ยังรอผลการสอบจะให้คุณครูที่เป็นข่าวมาช่วยราชการที่สำนักงานจนกว่าจะเสร็จสิ้นการสอบสวน

ส่วนพ.ต.อ.ภัทรพล โพธิอะ ผกก. สภ. เดชอุดม กล่าวว่าหลังจากที่ผู้ปกครองของ ด.ช.ติ้ว (นามสมมติ) แจ้งความร้องทุกข์แล้ว วันนี้พนักงานสอบสวนจะเรียกผู้ปกครอง และเด็กมาสอบสวนเพิ่มเติม ว่ามีเนื้อหาที่เข้าข่ายการกระทำผิด พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 หรือไม่ ซึ่งต้องรอการสอบสวนอีกครั้ง ส่วนทางด้านคุณครูคู่กรณียังไม่มีการเรียกเข้ามาพูดคุยแต่อย่างใด แต่การแจ้งความดังกล่าว ยังเป็น การแจ้งความไว้เป็นหลักฐานเท่านั้น ยังไม่ได้แจ้งความเพื่อดำเนินคดี

ขณะเดียวกันนายจงรัก วิเศษรอด ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนทุ่งเทิงยิ่งวัฒนา และยังเป็นศิษย์เก่ารุ่นที่ 10 เมื่อปี พ.ศ.2528 ของคุณครูที่เป็นข่าว ให้สัมภาษณ์ว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวรู้สึกตกใจ ในฐานะศิษย์เก่ารู้สึกเป็นห่วงคุณครู ซึ่งตนและศิษย์เก่าหลายรุ่น ได้นัดรวมตัวกันในวันที่ 18 ส.ค.นี้ เพื่อมาให้กำลังใจ แต่ทั้งนี้ก็คงจะต้องดูกระแสสังคมว่าเป็นอย่างไร

ครูจงรักกล่าวต่อว่า ในสมัยที่ตนเป็นลูกศิษย์ ตนถูกลงโทษมากกว่านี้ ทั้งหยิก ทั้งตี แต่ตอนนั้นเราเข้าใจ เพราะเราทำผิดระเบียบ ซึ่งหากเด็กนักเรียนที่เกเร คุณครูก็จะ ดุ ด่า และ ตี ลงโทษในรูปแบบต่างๆ แต่ทั้งเด็กและ ผู้ปกครองมีความเข้าใจ เพราะสมัยนั้นต่างเคารพครู เหมือนพ่อแม่คนที่สอง และ ผู้ปกครองก็สนับสนุนให้ครูลงโทษเด็ก หากลูกเขาเกเร

“แต่ยุคสมัยนี้เทคโนโลยีก้าวกระโดด นิสัย พฤติกรรม หรือการลงโทษต่างๆ ก็อาจจะเบาลง และหากลงโทษรุนแรงก็จะทำให้สังคมตำหนิได้ แต่โดยส่วนตัวผมมีความเชื่อว่าครูทุกคนต้องการที่จะฝึกวินัย ความเป็นระเบียบ และอยากให้นักเรียนเป็นคนดี คนเก่งของสังคม ไม่มีครูที่อยากทำร้ายลูกศิษย์ตัวเองหรอก” ครูจงรักกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน